ต่อด้วยของวันที่ 17 ก.พ. 52 (จากแหล่งเดิม ไทยรัฐ)
“โสภณ”ทุบโต๊ะขอ1.4ล้านล้านหากไม่ได้เป็นงานเข้า [17 ก.พ. 52 - 04:30]
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาของบประมาณปี 2553 ว่า ได้เร่งให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมทบทวนโครงการเร่งด่วนที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 53 ใหม่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะของบประมาณรวม 1.41 ล้านล้านบาท ในที่ประชุมครม. วันนี้ (17 ก.พ.) โดยเป็นงบขนส่งทางถนนสูงสุด 575,539 ล้านบาท
ขนส่งทางอากาศ 417,118 ล้านบาท ขนส่งมวลชนสาธารณะรวม 332,768 ล้านบาท ขนส่งทางราง 70,043 ล้านบาท และขนส่งทางน้ำอีก 14,037 ล้านบาท “ช่วงงบประมาณกลางปีกระทรวงได้น้อยมาก สียังพอทนได้ แต่คราวนี้หากผิดหวังอีกสีก็คงทนไม่ได้แล้วและเชื่อว่ารัฐบาลคงจะต้องให้เรา”
ทั้ง นี้ เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการคือ โครงการถนนปลอดฝุ่น ส่วนการแก้ปัญหาการบินไทย นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางอากาศเพื่อให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการบินพลเรือนและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอยู่ระหว่าง การจัดทำรายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยในส่วนของการลดค่าใช้จ่ายนั้น กระทรวงคมนาคมได้
ย้ำให้ลดสิทธิประโยชน์ทั้งในส่วนของกรรมการและพนักงาน โดยจะลดสิทธิประโยชน์ เหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ตั๋วโดยสารฟรีจะต้องพิจารณาปรับลดลงเพื่อให้องค์กรอยู่รอด นอกจากนี้ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ตนจะนัดหารือ กับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพื่อหาข้อสรุป ในการแต่งตั้งบอร์ดการบินไทยชุดใหม่ รวมทั้งตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ โดยยืนยันได้ว่ารายชื่อที่ปรากฏออกมาจะต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างแน่ นอน และเกิดประโยชน์ กับการบินไทย ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างทาบทาม
ส่วนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่นั้นจะปิดรับสมัครในวันที่ 6 มี.ค.นี้ โดยคุณสมบัติของว่าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทยนั้น จะเป็นผู้ที่มีความสามารถอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องหาบุคคลที่มีความเสียสละด้วย เพื่อจะมีเวลาแก้ปัญหาของการบินไทย ส่วนหลักเกณฑ์ในการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ถือว่าเดินมาถูกทางแล้วเพราะช่วง ม.ค. ที่ผ่านมาพบว่าการบินไทยมีกำไร จากการดำเนินงานและหากพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะพบว่าทุกสายการบิน ต่างได้รับผลกระทบ ขณะที่การบินไทยต้องเจอปัญหาจาก การปิดท่าอากาศยาน แต่ยังทำกำไรได้ถือว่าฟื้นตัวได้เร็วและหากรัฐเร่งเพิ่มความเชื่อมั่นคาดว่า จะทำให้สภาพคล่องดีขึ้น
นาย โสภณกล่าวต่อว่า คณะกรรมการการบินไทยชุดปัจจุบันต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว และล่าสุดกรรมการส่วนใหญ่ ก็ได้แสดงเจตจำนงที่จะดำเนินการตามแนวนโยบายและไม่ขัดข้องหากจะต้องลาออก แต่เป็นบริษัทมหาชนมีข้อปฏิบัติที่จะต้องดำเนินการ บางอย่างต้องใช้เวลา ส่วนกรรมการที่จะครบกำหนดอายุ 65 ปีนั้น ก็ไม่ขัดข้องที่จะอยู่จนครบวาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่าเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงษ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย ได้จัดทำฐานข้อมูลกรรมการบริษัทการบินไทยซึ่งมีกรรมการ 2 คน จะมีอายุครบ 65 ปี ได้แก่ พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ และนายรังสรรค์ แสงสุข และมีกระแสข่าวว่าได้มีการทาบทามนายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณและอดีตประธานบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นประธานการบินไทยด้วย.