Home ข่าวหน้า1 ข่าวหน้า1 ตอ.กลางดูดนักบินการบินไทย
Air conditioners
ตอ.กลางดูดนักบินการบินไทย
ข่าวหน้า1 - ข่าวหน้า1
เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 09:50 น.
แอร์ไลน์ต่างชาติระเบิดศึกแย่งตัวนักบินไทย เผย 2 ขาใหญ่ สายการบินตะวันออกกลาง เอทิฮัด -เอมิเรตส์ จ่ายสูงลิบ ตั้งแต่เงินเดือนเริ่มต้น 2.1 แสนบาท ค่าเช่าบ้าน 1.6 ล้านบาท ค่าเล่าเรียนลูก 3 แสนบาทต่อปี เบี้ยเลี้ยง โอทีกระทั่งสินเชื่อซื้อรถสปอร์ต อีกเพียบแถม 2 ปีเทรนด์เป็นกัปตัน สมาคมนักบินกลัวปัญหาสมองไหลเพราะได้รายได้สูงกว่าการบินไทย 2-3 เท่า เร่งเสนอฝ่ายบริหารปรับรายได้คนละ4-5 หมื่นลดช่องว่าง ชี้ไม่แก้เจอปัญหานักบินขาดแคลนแน่ แจงเหตุจากซื้อทุ่มเครื่องบินมากจนผลิตบุคลากรไม่ทัน
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการบิน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าจากการที่สายการบินต่าง ๆ ทั่วโลกได้มีการทยอยสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ กันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถผลิตบุคลากรเพื่อรองรับได้ทันจึงได้ใช้วิธีการเปิดรับสมัครนัก บินที่มีประสบการณ์จากสายการบินอื่นด้วยการเสนอผลตอบแทน ทั้งในรูปของรายได้ เงินเดือน สวัสดิการอื่นๆ เป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนงาน และนักบินจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เป็นเป้าหมายสำคัญที่สายการบินต่างชาติให้ความสนใจเนื่องจากมีมาตรฐานที่ ทั่วโลกยอมรับ และรายได้ที่ได้รับนั้นสูงกว่า 2-3 เท่า ทั้งสามารถเลื่อนขั้นเป็นกัปตันได้ภายใน 2 ปี
จากปัญหาดังกล่าวส่งให้ขณะนี้เริ่มมีนักบินของการบินไทยในระดับ โค-ไพรอต หรือนักบินที่ 2 ได้ทยอยลาออกเพื่อไปร่วมงานกับสายการบินต่างชาติกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสายการบินในแถบตะวันออกกลาง อาทิ สายการบิน เอทิฮัด และสายการบินเอมิเรตส์ ที่มีความต้องการนักบินที่มีประสบการณ์และทยอยรับไม่อั้น ส่วนในแถบเอเชียมีสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส สายการบินในประเทศเกาหลีและจีนที่รับสมัครนักบินที่มีประสบการณ์ อย่างกรณีของเวียดนามแอร์ไลน์ส ถ้าหาก แนะนำเพื่อนไปร่วมงานก็จะได้เงินพิเศษอีกรายละ 2 แสนบาทด้วย
นักบินรายหนึ่งที่ลาออก จาก บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ไปร่วมงานกับสายการบินเอทิฮัด กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าขณะนี้นักบินการบินไทยได้ลาออกไปแล้ว 20 คน และกำลังจะลาออกอีกในราว 40-50 คน ส่วนใหญ่จะเป็น โค-ไพรอต หรือนักบินที่ 2 และมีระดับกัปตันบางส่วน เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับนั้นสูงมากเมื่อเทียบกับการบินไทยทั้งยังส่ง เสริมในเรื่องความมั่นคงในอาชีพ โดยใช้ระยะเวลา 1-2 ปี เท่านั้น จากนักบินที่ 2 ได้รับการฝึกอบรมเป็นกัปตัน โดยมีประสบการณ์การบินราว 4-5 ปีต่างจากการบินไทยที่ต้องมีประสบการณ์เป็น 10-12 ปีกว่าจะได้เป็นกัปตัน ซึ่งอยู่ที่อายุราว 30 ปีปลาย ๆ หรือไม่ก็อายุ 40 ปีต้น ๆ ทั้งรายได้ของกัปตันการบินไทย อายุเกือบ 60 ปี รวมเบ็ดเสร็จแล้วประมาณ 3-4 แสนบาท ส่วนนักบินที่ 2 มีรายได้ราวกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน เท่านั้น
ทั้งเงื่อนไขของสายการบินเอทิฮัด นั้นต้องการนักบินที่มีชั่วโมงบินสะสม 3,000-3,500 ชั่วโมง
แต่นักบินที่ไปสมัครมีชั่วโมงบินสะสมถึง 6,000-7,000 ชั่วโมง มีประสบการณ์บิน 6-7 ปี ส่วนผลตอบแทนที่สายการบินเอทิฮัดให้นั้น ประกอบด้วย เงินเดือนเริ่มต้นสำหรับนักบินที่2 อยู่ที่ 210,000 บาทต่อเดือน ค่าเช่าบ้าน 1.6 ล้านบาทต่อปี ค่าเล่าเรียนลูก 300,000 บาทต่อปี ไม่เกิน 4 คน
การเพิ่มเงินเดือนอีก 500 เดอร์แฮม (AED)หรือราว 5,000 บาทต่อเดือน เบี้ยเลี้ยง (Perduim) ถ้าบินในตะวันออกกลางจ่าย 12 เดอร์แฮมต่อชั่วโมงหรือ 120 บาท แต่ถ้าบินไปยุโรปหรืออเมริกาจะได้ 23 เดอร์แฮมหรือราว 230 บาทต่อชั่วโมงหรือจะมีรายได้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทต่อเที่ยวบิน ค่าไฟลต์ดิวตี้เป็นรายชั่วโมงอีก 40 เดอร์แฮมต่อชั่วโมงบินหรือราว 400 บาท วันหยุด 14 วันต่อเดือน ทำงานเกินเดือนละ 70 ชั่วโมงจะได้เงินค่าเบี้ยขยันเพิ่ม
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนสินเชื่อการซื้อรถในอัตราดอกเบี้ย 0 % ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตหรู ปอร์เช่หรือ เฟอร์รารี่ เป็นต้น นับเป็นการให้ผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบการบินไทยหรือสายการบินอื่นใน เมืองไทยมาก และถ้าเป็นระดับกัปตันจะได้ผลตอบแทนสูงกว่านี้หรือเริ่มต้นเงินเดือนที่ร่วม 300,000 บาทต่อเดือน และรายได้ของ 2 สายการบินเอทิฮัดและเอมิเรตส์ อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว
ต่อเรื่องนี้กัปตันวินัย ปราชญาพร นายกสมาคมนักบินไทย และในฐานะเป็นกัปตันบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าการที่ 2 สายการบินคือ เอทิฮัดกับสายการบินเอมิเรตส์ได้เปิดรับสมัครนักบินเป็นจำนวนมากก็เพราะมี การสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ ๆ เข้ามามากจนไม่ผลิตนักบินไม่ทัน ส่วนผลตอบแทนที่ให้นั้นถือว่าสูงมากจนหวั่นว่าจะเกิดปัญหาสมองไหล และนักบินขาดแคลน เพราะต้องใช้ระยะเวลานานในการฝึกฝนกว่าจะเป็นนักบิน และเป็นกัปตันได้ต้องใช้เวลาสะสมชั่วโมงบินไม่ต่ำกว่า 10 ปี และขณะนี้เริ่มมีสัญญาณนักบินได้ทยอยลาออกอย่างต่อเนื่องเพราะนักบินการบิน ไทยรุ่นแรกที่ไปร่วมงานได้สร้างความประทับใจไว้ทำให้สายการบินเหล่านี้มี ความต้องการนักบินจากการบินไทยเพิ่ม
อย่างไรก็ดีเพื่อป้องกันปัญหาสมองไหล ดังนั้นปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเสนอฝ่ายบริหารให้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้มี การปรับรายได้ให้แก่นักบินเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกปีละ700 ล้านบาท โดยเพิ่มรายได้นักบินอีกเดือนละ 4-5 หมื่นบาท เพื่อลดช่องว่างรายได้ โดยเห็นว่าอย่างน้อยก็น่าจะทำให้ผู้ที่ตัดสินใจจะลาออกชะลอการตัดสินใจ เพราะแม้ว่าสายการบินต่างชาติจะให้รายได้สูง แต่จะมีปัญหาเรื่องการต้องย้ายไปประจำต่างประเทศซึ่งถ้ามีครอบครัวก็จะทำให้ ห่างไกลครอบครัวเช่นกัน
โดยเห็นว่าเรื่องนี้ ถ้าขืนปล่อยไว้จะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนนักบินขึ้นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะการ บินไทยซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติและมีฝ่ายบินมากที่สุดถึง 1,500 คน แต่ผลตอบแทนที่สายการบินต่างชาติให้นั้นสูงกว่ามาก โดยนักบินการบินไทยรายได้เริ่มต้นเพียง 56,000 บาทต่อเดือนรวมเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงแล้วขณะนี้ยังต้องผ่อนค่าเรียนนักบิน(หลักสูตรละ 2 ล้านบาท)เดือนละ 20,000 บาท
อีกทั้งที่ผ่านมาสายการบินในตะวันออกกลางก็แข่งขันกันเองด้วย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้สายการบินกาตาร์ ได้ขึ้นเงินเดือนให้นักบิน 10 % ต่อมาเอมิเรตส์และเอทิฮัดก็ต้องปรับตามโดยปรับให้อีก 15 % ถ้าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงว่าปัญหาสมองไหลจะทวีความ รุนแรงขึ้นแม้ว่าจะต้องเดินทางไปประจำในต่างประเทศก็ตาม แต่ถือว่าได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามาก และส่วนใหญ่มีความต้องการนักบินประเภทที่บินด้วยเครื่องบินรุ่น โบอิ้ง 777 และเครื่องบินจัมโบ้ กัปตัน วินัยกล่าว
ด้านนายเครก โทมัส ผู้จัดการประจำประเทศไทย และกลุ่มภูมิภาคแม่น้ำโขง สายการบินเอทิฮัด ได้ให้สัมภาษณ์ "ฐานเศรษฐกิจ" เมื่อปลายปีที่แล้วว่ามีแผนรับมอบฝูงบินใหม่ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ จำนวนกว่า 106 ลำ ประกอบด้วย แอร์บัส เอ330 จำนวน 6 ลำ ภายในปี 2554, แอร์บัส เอ320 จำนวน 20 ลำ ระหว่างปี 2554 - 2558, แอร์บัส เอ380 จำนวน 10 ลำ ตั้งแต่ปี 2557, แอร์บัส เอ350 จำนวน 25 ลำ ระหว่างปี 2560-2563, โบอิ้ง 787 จำนวน 35 ลำ ระหว่างปี 2557 - 2563 และโบอิ้ง 777 จำนวน 10 ลำ ระหว่างปี 2554-2556
ส่วนสายการบินเอมิเรตส์ มีแผนรองรับมอบฝูงบินใหม่ ซึ่งได้สั่งไปแล้วกว่า 201 ลำ มีมูลค่าการลงทุนราว 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือราว 2,040,000 ล้านบาท) ขณะที่ปัจจุบันมีฝูงบินให้บริการราว 152 ลำ สายการบินกาตาร์ ได้สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ350 จำนวน 80 ลำ เครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 60 ลำ และโบอิ้ง 777 อีก 32 ลำ โดยมีการส่งมอบโบอิ้ง 777 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านั้นเลขาธิการสมาคมสายการบินยุโรปได้ออกมากล่าวพาดพิงถึงการ เติบโตอย่างก้าวกระโดดของสายการบินจากตะวันออกกลาง เช่น เอมิเรตส์ เอทิฮัด และกาตาร์ แอร์เวย์ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินโลกในภาพรวมโดยสร้างความกดดันให้กับสายการ บินในภูมิภาคอื่นๆ และแย่งมาร์เก็ตแชร์ไปจากสายการบินที่อาจมีกำลังเงินน้อยกว่าทั้งยังเรียก ร้องให้มีการจัดตั้งองค์กรระดับนานาชาติที่จะมีบทบาทในการกำกับดูแลธุรกิจ การบินเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างยุติธรรมอีกด้วย
ทั้งนี้สำหรับการประมาณการทั่วโลกนักบินจะเริ่มไม่พอตั้งแต่ปี 2553 จนถึง 2573 โดยสายการบินทั่วโลกต้องการนักบินเพิ่มปีละ 49,900 คน แต่ผลิตได้เพียงปีละ 47,025 คน ส่วนสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สมีศูนย์ผลิตนักบินและผลิตได้ปีละ 150 คน ส่วนประเทศไทยมีศูนย์ฝึกการบินทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลอยู่ 3 แห่ง คือ สถาบันการบิน บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ (บีเอซี)
สถาบันการบินพลเรือนและสถาบันการบินนครพนม รวมแล้วผลิตนักบินไม่เกินปีละ 300 คน ใช้ระยะเวลาในการฝึก 1 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,611 20 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ที่มา :
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=56694:2011-02-21-02-51-55&catid=85:2009-02-08-11-22-45&Itemid=417