ตอบเรื่องคูณแม่ 3 : คือว่าเครื่องบินเราเนี่ย เค้าก็ออกแบบมาตามมาตรฐานน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นตอนไต่ ครูส หรือร่อน โดยตอนร่อนนี่แหล่ะที่ยาก และใช้งานหัวสมองเราเยอะที่สุด
เครื่องทุกเครื่องก็จะต้องมีแนวทางคล้ายๆกันว่าจะต้องร่อนได้ด้วยมุมเท่าไหร่ ปกติ ก็จะเป็น 5% Gradient คือ เครื่องเราไปข้างหน้า (แกนนอน, แกน x) ได้ 1 Nautical Mile (NM) ก็ต้องร่อนลงไป (แกน Y) ได้ 0.05 NM (5% ของ 1NM น่ะ)
1 NM = 1.8 KM ( Nautical Mile เป็นหน่วยทางเรือ ซึ่งApply มาใช้กับการเดินอากาศ ไม่เท่ากับ Mile ที่ฝรั่งเค้าใช้กันนะครับ อันนั้น = 1.6 KM เท่านั้น)
1 KM = 1000 M
1M = 3.28 ft
สรุป 1NM ในแกน x เราควรลงมาได้ 0.05 x 1.8 x 1000 x 3.28 = 295.2 ft ประมาณ (~) 300 ft แล้วกัน
น้องๆ: ก็ยังงงอยู่ดีคับ
ก็แน่นอนครับ มันต้องงงอยู่แล้ว พี่พิมพ์ไปพี่ยังงงไปด้วยเลย
ต่อดีกว่า เดี๋ยวไม่จบ
เพราะฉะนั้น ถ้าเราบินอยู่สูง 30,000 ft เราจะต้องการระยะในการลดระดับลงสู่สนามบินที่ MSL (Mean Sea Level) = 30,000 / 300 = 100 NM นั่นเอง
ผ่าง ๆ ๆ ๆ ๆ จบ
น้องๆ: ก็งงอีกแหล่ะพี่ ทำไมสูตรนี้เอาไปหาร แต่บอกให้ฝึกคูณแม่ 3
คืออย่างนี้ครับ ถ้าเราหารเก่ง จะเอาความสูงมาหารเอาก็ได้เช่นกัน แต่การเอาความสูงมาคูณ 3 มันง่ายกว่ากันเยอะเลย เช่น จากตัวอย่าง เราสูง 30,000 ft เอามาแต่ 2 ตัวหน้า -> 30 x 3 = 90 แล้วค่อยปรับแต่งตัวเลขอีกเล็กน้อย เช่น B 737 เนี่ย ปีกเล็ก ซอกแซก เหมือนรถสปอร์ต อัตราการร่อนไม่ดีมาก พอไม่ได้เร่งเครื่องยนต์ เครื่องเราก็จะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เครื่อง B 737 จะมีอัตราการร่อนที่มากกว่า 5 % อยู่เล็กน้อยครับ จากเดิมที่ควรจะใช้ระยะทาง 100 NM เพื่อลงสนาม เราก็ใช้แค่ 95 NM เท่านั้นเอง เราก็เลยเอา
"ความสูง x 3 + ด้วย 5" เคยได้ยินว่าเครื่องแอร์บัส 330-300 ปีกยาวมาก ร่อนดีสุดๆ ก็จะใช้สูตร "ความสูง x 3 + ด้วย 20" แทนคับ
ผ่าง ๆ ๆ ๆ ๆ จบ อะเกน
น้องๆ: มันจะไปคิดทันได้ไงครับในอากาศ -> เราก็เลยต้องฝึกคูณ และ + กันไงล่ะครับ แต่ถ้าใครถนัดหาร ก็ลองดูนะครับ แต่... ครูการบินท่านก็ใช้การคูณมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เราจะไปเอาทฤษฎีมาบอกว่าต้องเป็นหารจึงจะถูกต้อง แบบนี้ เราอาจจะเจอกับคำว่า
"ถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจ" ได้นะครับ