ปี 2017
.
สำหรับปี 2017 ผมเตรียมตัวมาค่อนข้างดีครับ ภายหลังจากโดนแบนในปี 2014
ผมได้เริ่มงานในสถานที่แห่งใหม่เป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้มีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการอ่านหนังสือ
อย่างไรก็ตาม ผมเริ่มอ่านหนังสือ เดือน มกราคม 2017 อยู่ดีครับ 55555+
ครั้งนี้ผมมีพื้นฐานวิชาคณิตฯ และฟิสิกส์พอตัวครับ (สำหรับวิชาการรอบแรก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ดีที่สุดครับ)
เชื่อผมมมม !!!! อยู่ที่ตัวเองล้วนๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปี 2017 เป็นครั้งสุดท้าย
ที่ผมสามารถสอบ TG Student Pilot คิดอย่างเดียวทุกอย่างต้องเต็มที่ ไม่มีข้ออ้างภายหลัง
เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ รถติดไปไม่ทัน เป็นต้น ผมจึงจองสถานที่นอนใกล้ๆ มธ. จะได้ไม่มีข้ออ้าง
ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีมากๆ ครับ แนะนำอย่างยิ่ง !จำได้เลยว่าวันสอบรอบแรก ผมใช้ชีวิต Slow Life
ทานข้าว เข้าห้องน้ำ เรียบร้อย และไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลา 20 นาที
ปกติผมไม่ค่อยชอบนั่งฟังผู้คนพูดหน้าห้องสอบ ยิ่งฟังยิ่งวิตกจริต 5555+ ทำไมที่เราอ่านมันไม่มีเลยวะ !!
แต่ไม่ต้องกลัวครับ พวกที่บอกว่าทำได้ๆ หรือ ข้อสอบไม่ยาก รอบต่อไปไม่ค่อยเห็นหน้าครับ 555
มาเริ่มปี 2017 กันเลยยยยย.....
.
Basic Knowledge Test 2017
25 เมษายน 2560
8.00 น. - 12.30 น.
ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
สำหรับปี 2017 ถ้าจำไม่ผิดมีผู้เข้าสอบประมาณ 1,500 คน ไม่มีการทดสอบภาษาอังกฤษ เพราะให้ยื่นคะแนน Toeic
จึงเหลือวิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และ Aptitude แต่ที่แปลก คือ หลังจากที่สอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ให้เขียนเรียงความเกี่ยวกับการบินไทย !! เป็นภาษาอังกฤษ (แต่เหมือนตอนหลังหยวนๆ ให้เขียนไทยได้ด้วย)
.
Maths
ไม่ยากเกินไปสำหรับสายศิลป์ ออกเป็นบางบท ฉะนั้น เน้นอ่านหนังสือบทที่เราถนัดและเข้าใจ
อยู่ที่การบริหารจัดการเวลาให้ดีมากกว่าครับ สำหรับปีนี้ ออกแนว เลข ม.ต้น และ GMAT
ปีนี้ข้อสอบเลขไม่เยอะและไม่ยากครับ (ปีหน้าอาจมาเต็ม 555+)
.
Physics
ออกเรื่องพื้นฐาน เช่น โมเมนตัม แรง ระยะทาง เป็นต้น แต่ไม่ได้สลับซับซ้อน แทนสูตรออกเลยครับ
เหมือนเดิมครับ เน้นอ่านหนังสือบทที่เราถนัดและเข้าใจ อย่าเสียเวลากับข้อใดข้อหนึ่งมากเกินไป
.
General Knowledge
ความรู้ทั่วไปปีนี้ออกเยอะมากๆ ออกทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับประเทศไทย ถามอย่างเยอะ
ผมอุตส่าห์ท่องแผนที่โลกไป 555 ไม่ออกเลยยย
.
เช่น
- อะไรไม่ใช่เหตุที่ก่อให้เกิด Tsunami
- Logo ของการบินไทย
- ทวีปที่ใหญ่ที่สุด
- จังหวัดอะไร คือ ประตูสู่ภาคใต้
- พลเอกประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรี คนที่เท่าไร
- Trump เป็นประธานาธิบดีคนที่เท่าไร
- นำ Power Bank ขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกินกี่มิลลิแอมแปร์
- ดอกไม้ประจำชาติไทย
- จังหวัดอะไรไม่ติดอ่าวไทย เป็นต้น
.
ผมกาโดยรวมไป 80/100 ครับ มั่นใจประมาณ 60 ข้อ นอกนั้น 50/50 วัดดวงเล็กน้อย
.
Aptitudes
.
Part A – Scanning Number จับคู่หาผลรวมตามที่โจทย์กำหนด
Part B – Series Picture ผสม Series Number
Part C – Odd One Out
*ตอนทำพาร์ท C ดันเผลอไปฝนข้อสอบ ต่อจาก Part B ทำให้เสียเวลาลบแล้วต้องไปฝนคำตอบใหม่ .เสียเวลามากๆ ครับ
ยังดีที่ฝนข้อสอบเพลินไปแค่ประมาณ 8 – 10 ข้อ ฉะนั้น ควรมีสติดีๆ ในการฝนคำตอบ ว่าเรากำลังทำอยู่ที่พาร์ทไหนครับ
Part D – Short Term Memory (จำคำศัพท์ 5x5) ไม่ยากครับ
Part E – พับกระดาษ และ ภาพ Mirror
.
ทุกพาร์ทโดยรวม 70 – 80 เปอร์เซ็นต์
ยกเว้น พาร์ทแรก ทำถึงหน้า 2 แต่ดูคนรอบข้างก็ประมาณนี้ครับ
.
ผล คือ “ผ่าน”
.
Captain Interview 2017
.
ผมได้รอบนัดหมายเวลา 9.45 น. แต่ได้เข้าทดสอบจริงเวลา 10.45 น. ใช้ระยะเวลาทดสอบ 30 นาที
ณ บริษัทการบินไทย สำนักงานใหญ่
.
รอบนี้ผมมาก่อนเวลา 1 ช.ม. เดินเล่นไปมาในสำนักงานเพื่อให้ผ่อนคลาย
พอใกล้เวลาก็เข้าไปในตึกครับ รอเจ้าหน้าที่มาเรียกขึ้นลิฟต์ ระหว่างเดินพยายามสังเกตสิ่งรอบตัว
เผื่อโดนถาม เพราะช่วงหลัง ชอบมีคำถามแปลกๆ อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอทดสอบ
เข้าห้องน้ำหลายรอบมากกกกก สงสัยตื่นเต้นนนนนน 555
.
พอเรียกชื่อผม ก็เคาะห้องก่อนเข้าครับ ในห้องมีกัปตันสองคน
.
C1 : ใส่แว่น, ดูเนี๊ยบ, โหดเอาเรื่อง
C2 : น่าจะใกล้เกษียณแล้ว, อวบๆ, คล้ำๆ (คนนี้ทำการบ้านมาครับ ถามข้อมูลลึกมาก จนผมนึกว่าจบกฎหมายมา)
.
C2 : เอ้า นั่งๆ ... จากนั้นแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ
Me : พูดไปเรื่อย กัปตันฟังออกหรือไม่ออก ก็ไม่แน่ใจ แต่กัปต้นจ้องเกิ๊นนนนน ผมว่าแทบจะดูลิ้นไก่แล้ว 5555
.
*** ผมจะ List คำถามของทั้งคู่ให้ครับ ส่วนคำตอบขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ สำหรับผม เน้นตอบตามความเป็นจริง ไม่ Fake
บุคลิก ท่าทาง แบบมีวุฒิภาวะ ตลกก็ตลกด้วย ไม่ตอบเพี้ยนๆ เช่น ถามขวา แต่ตอบ ซ้าย แค่นี้ก็ผ่านรอบสัมภาษณ์แล้วครับ
.
สอบสัมภาษณ์ ปี 2017 มีความพิเศษ เพราะ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีการทดสอบเดินจุด, UDLR และเกมส์คอมพิวเตอร์
ซึ่งถือว่าแปลกมากครับ โดนทดสอบบางห้องเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้เข้าสอบแน่นอน
.
ประเภทคำถามที่ผมโดน คือ งานในปัจจุบันเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่พูดถึงครอบครัวหรือการเรียนมากเท่าไรครับ
.
C1 : เรียนกฎหมายมา ? มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับนักบิน (ทำเป็นเข้ม)
1. มันเกี่ยวยังไงบอกผมสิ ?
2. ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง 2 อาชีพ ?
3. ข้อดีและข้อเสียของนักกฎหมาย
.
C1 : ทำไมถึงตกรอบ Teamwork ครั้งที่แล้ว ?
1. พัฒนาและปรับปรุงอะไรบ้าง ?
2. รู้ไหมทำไมตัวเองถึงตก ?
3. คิดว่ารอบนี้ทำคะแนนมาดีไหม ?
4. ถ้าไม่ผ่านอีกทำยังไง ?
.
C2 : 1. เรียนกฎหมายทำไมไม่เป็นผู้พิพากษา หรือ อัยการ เท่ห์กว่านักบินเยอะ เงินพอๆ กันเลย แถมคนให้ความเคารพด้วย ?
2. รู้จักผู้พิพากษาสมทบไหม ?
3. ผู้พิพากษาสมทบทำหน้าที่อะไร ?
4. ผู้พิพากษาสมทบนั่งตรงไหนของบัลลังก์ ?
5. ผมเป็นผู้พิพากษาสมทบได้ไหม ?
6. ผมจะสมัครทางไหน ? และจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไหน ?
7. เรียนเนติบัณฑิตไหม ?
.
C2 : 1. กฟผ. แตกต่างจาก กฟภ. หรือ กฟน. อย่างไร ?
2. ผมอยากทำ Solar Farm ผมติดต่อใคร ?
3. ต้นทุนเสาพลังงานลมนี่มันราคาเท่าไร ?
3. สรุปว่าพลังงานทางเลือกดีไหม ?
4. หุ้น Egat –if น่าซื้อรึเปล่า ?
.
C1 : อยู่ดีๆ บอกให้ผมนั่งกลับหลัง พอกลับหลังจะเห็นบอร์ด มีภาพวงกลมสามวงประสานกัน ข้างในเขียนภาษาอังกฤษไว้ 3 คำ
Me : ตอนที่ผมกำลังกลับหลัง คิดในใจว่าต้องถามของบนโต๊ะ หรือ ตามตัวกัปตันแน่ เลยรีบจำครับ
C1 : เสื้อผมสีอะไร ?
Me : จำไม่ได้ครับ แต่รู้ว่าเสื้อของ C2 สีฟ้า
C1 : อะไรจำไม่ได้เลย ? ถ้าอย่างนั้นของบนโต๊ะ มีอะไรบ้าง ?
Me : Megazines, นาฬิกา, กระดาษเดินจุด ครับ
C1 : อะไร !!! วางตั้งเยอะแยะ จำได้ 3 อย่างเนี่ยนะ
Me : ผมรู้ว่ามันมีเยอะ แต่ที่ผมชัวร์มีแค่นั้นครับ
C1 : ผมใส่เนคไทสีอะไร ?
Me : ลืมว่าสีอะไรแล้วตอนนี้ แต่คำถามนี้ผมตอบถูกครับ
C1 : หันหลังกลับมาแล้วดูสิ่งที่ตอบมันถูกบ้างไหม ? เสื้อของ C2 สีก็ไม่ตรงตอบมั่วๆ มานิ
Me : ตะกี้ C2 ไม่ใส่เสื้อคลุมครับ ถ้าถอดเสื้อคลุมออกจะเป็นสีฟ้าแน่นอน ยกเว้น ไปเปลี่ยนเสื้อครับ
C1 : ประตูหนีไฟอยู่ทางไหนถ้าออกจากห้องนี้ไป ?
Me : หากออกจากประตู เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย จะอยู่ตรงหน้าเราครับ
C1 : รู้ได้ไง ? แอบท่องมาเหรอ ?
Me : เปล่าครับ ผมตื่นเต้นจึงเข้าห้องน้ำ 5 รอบ ตอนแรกผมคิดว่าประตูหนีไฟ คือ ประตูห้องน้ำเลยเปิดไปครับ 55555 ทำให้ผมจำแม่นเลย !!!
C2 : สิ่งที่ถามมาทั้งหมดไม่ใช่คำถามนะรู้เปล่า ? คำถามจริงๆ คือสิ่งที่อยู่บนบอร์ด 3 – 4 คำ เขียนว่าอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ
Me : เหวอสิครับ แต่ผมคล้ายๆ คำนึง คือ Perspective
C2 : ชัวร์เหรอ ?? มันแปลว่าอะไร
Me : ตอบอย่างมั่นใจว่า มุมมอง ครับ
C2 : อ่ะ หันกลับไปมอง
Me : เชี้ยยยยยยยยยยยย !!! Perception หน้าโคตรแตกกกกก หันกลับไปกัปตันทั้ง 2 ยิ้มแป้นเลยยยยยยยย
C2 : แล้วมันแปลว่าอะไรรู้ไหม
Me : การรับรู้ ครับ
C2 : แบบนี้แหล่ะ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นเสมอ
.
C2 : ครั้งนี้เป็นการสอบครั้งสุดท้าย ถ้าผมให้คุณผ่านคุณคิดว่าคุณจะผ่านไหม
Me : ผมไม่สามารถการันตีผล แต่ผมจะทำให้เต็มที่ครับ
.
C1 and C2 : อวยพรให้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
.
ผล คือ “ผ่าน”
.
Medical Test 2017
.
กรมเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ โรงพยาบาลภูมิพล ตอนแรกนั่งรวมประมาณ 60 คน เพื่อที่จะกรอกเอกสาร
จากนั้นจะแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน รอบนี้มีค่าใช้จ่าย 8,490 บาท ครับ (ถ้าจำไม่ผิด)
.
การตรวจร่างกาย มีดังนี้ (ผม Copy เขามาอีกทีครับ)
.
1. ปัสสาวะ
2. เจาะเลือด 10 ml.
3. ชำระเงิน
4. วัดความดัน
5. ชั่งน้ำหนัก
6. วัดส่วนสูง
7. X-ray
8. วัดลานสายตา Visual field
9. ตรวจสายตา สั้น ยาว เอียง บอดสี
10.ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG
11.วัดขนาดลำตัว ( ช่วงขา ลำตัว ยืดขา)
12. เป่าปอด
13. ตรวจสายตามอง ลึก ตื้น
14. ตรวจกระจกตาและจอประสาทตา ( ห้องมืด ยิงแสงใส่ตา )
15. ตรวจช่องปากและฟัน
16.ตรวจการได้ยิน
17.ตรวจ หู จมูก กระดูกสันหลัง การเดินการทรงตัว
18. ตรวจอัณฑะ ริดสีดวง ไส้เลื่อน
19. ตรวจจักษจุลทรรศน์
.
ผล คือ “ผ่าน”
.
Aptitude Test – Step 1 / Group Written Test
.
สอบที่โรงแรม Centara @ Central ลาดพร้าวครับ สำหรับรอบนี้ผมไม่ค่อยหนักใจอะไรครับ
เนื่องจากผมชอบทำปัญหาเชาวน์อยู่แล้ว รอบนี้เพียงแต่พักผ่อนให้เพียงพอเพราะสอบทั้งวัน
สำหรับใครที่กินกาแฟระวังใจเต้นมากเกินไป แล้วจะลนนะครับ 555
.
สิ่งที่ควรระมัดระวังในรอบนี้ คือ
.
1. ฟังคำสั่งจาก Professor ให้ชัดเจน เช่น ทำจากซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้าย บนลงล่าง หรือ ล่างขึ้นบน และคำถามแต่ละชุดสำหรับกระดาษคำตอบชุดใด เป็นต้นครับ
2. ระยะเวลาในการทำข้อสอบแต่ละชุดค่อนข้างน้อย ฉะนั้น อย่าไปสนใจสิ่งรอบข้าง
3. หากหมดเวลาแล้วควรหยุดทันที อย่าฝืนทำต่อ
.
ข้อสอบปี 2017 ดังนี้
.
1.Series Picture ข้อ 1 – 15 ยังดูออก แต่ 16 – 20 คืออะไรรรร หาความสัมพันธ์ยากมากครับ
2.STM จำตาราง 7*4 ครับ
3.Scan รูปว่าเหมือนหรือไม่เหมือน ต่างจากเงื่อนไขกี่ข้อ
4.พับกล่อง แบบไม่ยากครับ
5.Series Number แบบมีเศษส่วนผสมเล็กน้อย
6.STM Paragraph ตัวคั่นเป็นเปรียบเทียบซ้ายขวา ตอบ Yes/No
7.Maneuvering หมุนเครื่องบิน
8.Natutal Science
- อะตอมยึดติดกันด้วยแรงอะไร
- popcorn ระเบิดอย่างไร
- น้ำอุณหภูมิ 5 กับ 95 องศา แบบใดปริมาตรมากกว่ากัน
- ทำไมดวงจันทร์ถึงไม่ตกมายังโลก เป็นต้น
9.Scan พวก 3A อยู่ในวงกลม ประมาณนี้
.
จากนั้นมีให้เขียน
1. Biography ส่วนตัว
2. คำถามจิตวิทยาประมาณ 20 ข้อ ซึ่งเขาจะถามเราในรอบเดี่ยว
3. คำถามย่อย
3.1 ตำรวจเห็นรถขับสวนเลน แต่ไม่สนใจรถคันนั้น เพราะอะไร
3.2 เด็กตกจากตึก แต่ไม่เสียชีวิต เพราะเหตุใด
.
ผล คือ “ผ่าน”
.
Aptitude Test – Step 2 / Teamwork Exercise
.
สอบที่การบินไทยสำนักงานใหญ่
โดย Professor ประจำโต๊ะ จะเป็นคนเรียกชื่อผู้เข้าสอบ ทีละคนเข้าไปนั่ง ซึ่งกลุ่มผมมีทั้งหมด 6 คน
สำหรับกลุ่มผมมีคนดูแลประจำโต๊ะ คือ Professor Rita ครับ ซึ่งนั่งร่วมโต๊ะกับกลุ่มผมด้วยครับ
.
หัวข้อของกลุ่มผม คือ ม้าลายอยู่บ้านหลังไหน ? โดยให้โจทย์คนละแผ่น (โจทย์มี 3 ชุด ชุดละ 2 แผ่น)
ระยะเวลา Brainstorm คือ 40 นาที Discuss อีก 5 นาที
.
ก่อนเริ่มทำการทดสอบ Professor ให้แนะนำตัวกันในโต๊ะก่อนครับ 1 - 2 นาที
จากนั้นก็ลงมือกันเลยครับ กลุ่มผมไม่มีการเขียนไวท์บอร์ด เขียนแต่บนกระดาษ A4 ตรงกลางกลุ่มแผ่นเดียว
กลุ่มผมเป็นทีมที่ดีมากเลยครับ ผมไม่ได้คิดว่าเป็นการทดสอบเลย เหมือนเป็นการพูดคุยกันสนุกๆ หัวเราะกันเสียงดังมาก
ไม่เครียดเลย ความคิดแปลกๆ จินตนาการเต็มไปหมด จน Professor ยังหัวเราะเลยครับ ทุกคนพยายาม รับ - ส่ง ช่วยเหลือกัน
ผมพูดเลยว่าหากผมตกรอบนี้อีกผมไม่เสียใจเลยครับ ทีมผมมันดีจริงๆ ตอนสรุป ก็ช่วยชงให้กันและกันทำให้พูดครบทุกคน
มีสะกิดช่วยกันด้วยนะ 555++
.
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผมมีคนเรียนพิเศษคนนึงมา Bluff ว่าอย่าจ้องตา Professor หรือ ทำเป็นรู้รายละเอียดของการทดสอบ ต่างๆ นา
ผมบอกเขาไปครับว่าผมไม่สนใจ เพราะ Professor เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ เขาคงไม่นำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
แบบนี้มาใส่ใจมากหรอกครับ หากมัวแต่พะวงว่าจะพูดอะไรดี จะทำให้เราเสียความเป็นธรรมชาติ ความเป็นตัวเราไปครับ
.
ผล คือ “ผ่าน”
.
Aptitude Test – Step 3 / Individual Examination (ผ่านเข้ารอบมา 176 คน ท้ายสุด Final 101 คน ครับ)
(Computer test and Interview by two psychologists)
at Chaophya Park Hotel 247 Rachadapisek Road, Bangkok 10400
ในการสอบรอบสุดท้าย Professor จะนัดคนมาทดสอบ รอบละประมาณ 10 – 12 คนต่อรอบ
โดยผู้เข้าสอบทุกคนจะไปนั่งรอที่ Lounge VIP ของโรงแรมเจ้าพระยาตามนัดหมาย
เมื่อถึงเวลาตามนัด Professor จะออกมาเรียกชื่อคนที่ทำการทดสอบกับตนเอง
โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้วยกัน คือ
.
1. ทดสอบ Multitask และ Joystick
(บางห้องจะมีเกมส์พิเศษประมาณว่าเครื่องบินลำไหนไปถึงจุดหมายก่อนกัน)
.
ผู้ทดสอบผมคนแรก คือ Professor Christian
Mr. Christian Morath: Licensed Psychologist with extensive experience from assessment for high-risk professions, especially Air Force pilots. Presently working at the the Armed Forces Organisation in Sweden, at the Department for Special Selection at Human Resource Centre, SAF.
Professor พาผมเข้าไปยังห้องของเขาครับ ให้ผมนั่งโซฟาบอกให้ผม Relax ทำตัวตามสบาย
แล้วบอกว่าคำถามที่ถามต่อไปนี้ เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ตัวตนของคุณมากขึ้น ไม่มีผลต่อการพิจารณาอะไรทั้งสิ้น
ตอบตามสบายและความเป็นจริง
.
ทำไมถึงอยากเป็นนักบิน ?
เรียนจบอะไรมา ?
มีแฟนรึเปล่า ?
คบกันแฟนมานานแค่ไหน ?
สนใจเรียนต่อไหม ?
มีแผนในอนาคตอย่างไร ทั้งเรื่อง การศึกษา และ ครอบครัว ?
.
จากนั้น ให้ผมไปนั่งที่โต๊ะซึ่งมี Notebook วางอยู่ มีกระดาษคำตอบ Multitask พร้อมทั้งคำอธิบายการทดสอบดังกล่าววางบนโต๊ะ
Professor บอกผมว่าเราจะทดสอบสิ่งนี้เป็นอย่างแรก แล้วให้เวลาอ่านคำอธิบาย จากนั้น Professor ถามว่าไม่เข้าใจอะไรสามารถถามได้
ผมก็ถามไปเยอะอยู่ครับ อะไรที่สงสัยถามหมดเลย แล้วเริ่มการทดสอบเลยครับ เป็นการลงมือทำ 5 อย่างพร้อมกัน ได้แก่
.
1. จะมีคำถามสั้นๆ เช่น เมื่อวานอะไร ซึ่งมันจะหายค่อนข้างเร็ว
2. ลูกศรวิ่งขึ้นลง ถ้าลูกศรหยุดที่ตัวเลขใดให้จดในกระดาษคำตอบ
3. มีแท่งสี่เหลี่ยม วิ่งขึ้น-ลง ไปมา หากเกินกรอบที่กำหนด ให้กดปุ่มที่หน้าจอพร้อมออกเสียง UP หรือ DOWN
4. จำค่าพิกัด เมื่อ Switch ไฟเป็นสีเขียว ให้ Plot ลงในกระดาษคำตอบ
5. มีกระดาษคำถามคณิตศาสตร์ 10 ข้อ ตัวเลขไม่ยากครับ
.
ทั้งนี้ Professor จะจดทุกอย่างที่เราพูดหรือเขียน ข้างๆ ครับ จดยิกเลยยยยย Professor บอกจะแยกประสาทสัมผัสยากหน่อย !!
.
หลังจากนั้น ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มทดสอบอย่างที่ 2 คือ Joystick Professor ให้ผมอ่าน Direction เช่นเดิมครับ หากมีข้อสงสัยให้ถามได้เลย
เกมส์ประมาณว่าให้หลบอุปสรรค ที่วิ่งไปมา 3 ลูก แล้วนำเครื่องหมายไปครอบตามคำสั่ง
เช่น สีแดง หรือ สีน้ำเงิน เป็นต้น โดย Professor จะให้ลองเล่นก่อนประมาณ 3 นาที ครับ
ผมทดลองเล่นได้ 10 ชน 4 จากนั้นเล่นจริง 5 นาที (ถ้าจำไม่ผิด) ได้ 14 ชน 1
.
ระหว่างเล่น Joystick นั้น Professor ถามผม ดังนี้
.
- ขณะนี้อยู่ที่ความสูง 27,000 Feet หากลดระดับไปยัง 8,000 Feet/Min ใช้ระยะเวลากี่นาที โดยกำหนดเรทที่ 500 Feet/Min
- 14*11
- ให้จำตัวเลข 5 ตัว จากนั้น Read Back
- ให้จำตัวเลข 6 ตัว จากนั้น Read back
- วันนี้ คือ วันอะไร, 2 วันที่แล้ว คือ วันอะไร และ เมื่อวาน คือ วันอะไร
- บวกเลขไม่ยาก 2 – 3 คำถาม
.
จากนั้น ถามเกี่ยวกับแฟนเพิ่มเติมครับ ว่าเจอกันที่ไหน แฟนมี ข้อดี ข้อเสีย อย่างไร คิดอย่างไรกับแฟนคนนี้
.
หลังจากทดสอบส่วนแรกเรียบร้อยแล้ว ก็ไปนั่งรอที่ห้องรับรองเหมือนเดิม นั่งรอประมาณ 30 – 45 นาที เจอผู้ร่วมชะตากันหลายคน
พูดคุยแลกเปลี่ยนว่าเจออะไรกันมาบ้าง แต่ไม่กดดันอะไรครับ คุยสนุกสนาน จากนั้น Professor Stellen มารับผมเข้าไปสัมภาษณ์เดี่ยวครับ
2. รอบสัมภาษณ์เดี่ยวใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที โดย Dr. Stellan Arvidsson Hyving (คนที่ให้ผมตกรอบ Teamwork 2014)
Dr. Stellan Arvidsson Hyving: Ph.D., Behavior Scientist and expert in management, leadership, organization and education. Learning specialist at the Swedish International Development Cooperation Agency (SIDA)with profound experience of intercultural work.
เมื่อเข้ามาในห้อง Mr.Stellan พูดคุยให้ผ่อนคลายเล็กน้อย จากนั้น ขอ Recheck Joystick ผมครับ
เป็น Joystick เก่าๆ ที่บังคับค่อนข้างยาก โดยครั้งนี้ไม่มีการให้ลองเล่นครับ สรุปภาพรวม ได้ 18 ชน 2 ครับ
ระหว่างเล่นถามคำถามเหมือนเดิมครับ เป็นคำถาม บวก ลบ คูณหาร แต่ตัวเลขค่อนข้างยาก (มีข้อนึงผมตอบผิด) และมีคำถาม Filght Time ข้อนึงครับ
จากนั้นเป็นการเดินจุดธรรมดาครับ โดยครั้งแรกเป็นการเคาะโดยไม่ถามคำถามไปและกลับ พอเห็นว่าผมไม่หลุด คราวนี้ Professor บอกให้มือขวาผมสามเหลี่ยม
ส่วนมือซ้ายไม่เอาสามเหลี่ยมและวงกลม (คือ สี่เหลี่ยมนั่นแหล่ะ แต่ Professor พูดให้งงครับ)
การเดินครั้งนี้มีหลุดๆ บ้างครับ แต่ทำพยายามกลับเข้าสู่โหมดปกติทุกครั้งครับ สุดท้าย Professor ให้เดินกระดาษเดินจุดแผ่นใหญ่ครับ
จุดค่อนข้างห่าง รอบนี้เดินได้ดีครับ แต่คราวนี้ Professor ชวนคุยระหว่างเดินจุดเลยครับ คุยประมาณ 3 นาที ได้ครับ
.
ต่อมา คือ การสัมภาษณ์ กระดาษที่เราเขียนไปในทุกขั้นตอน Professor อ่านหมดครับ แต่เขาไม่ถามตรงๆ ครับ
Professor จะทำเป็นไม่รู้ แต่เมื่อเราตอบตรงที่เราเขียน เขาจะบอก อื้มๆ ตรงกับที่เขียนไว้
จากนั้นถามเรื่อง ครอบครัว แฟน ชีวิตช่วงเรียนมัธยมฯ มหาลัยฯ กิจกรรมยามว่าง การทำงานรับผิดชอบเกี่ยวกับอะไร การทำงานมีปัญหาบ้างไหม ? แก้ไขอย่างไร ?
สิ่งที่เราอยากจะกลับไปแก้ไข ? สิ่งที่เราเสียใจมากที่สุดในชีวิต ? ทำไมถึงอยากเป็นนักบิน ? (คำตอบนี้ผมตอบค่อนข้างสั้น แต่เป็นคำตอบที่เป็นตัวตนผมจริงๆ)
Professor พยายามถามต่อว่าทำไมสั้นจัง ผมบอกว่ามัน คือ Fact ผมไม่อยากเสแสร้ง
จากนั้น คุยเรื่อง Series ว่าชอบดูเรื่องอะไร ชอบกินอะไร ร้านไหนอร่อย ? แหล่งท่องเที่ยวที่ไหนน่าไป ?ต่อมาถามว่าคิดอย่างไรถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ?
ต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ? มีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ?
.
ท้ายสุด Professor ถามย้ำว่ามีอะไรอยากบอก Professor ไหม ? พวก Passion อยากเป็นนักบิน ?
ผมบอกว่าผมขอยืนยันคำตอบเดิมและพูดว่าที่ผมมาวันนี้ ผมมีแค่ประโยคเดียวที่อยากบอกกับ Professor คือ
.
“สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับอาชีพนักบินในมุมมองของผม คือ ความรับผิดชอบและความเหมาะสม”
ฉะนั้น หาก Professor เห็นว่า บุคลิกลักษณะหรือทัศนคติใดของผมไม่เหมาะสม หรือ มีความเสี่ยงในทางการบิน ผมยอมรับในการตัดสินใจทั้งหมด
เนื่องจากผมจะเสียใจมากกว่านี้ หากต่อไปในอนาคตเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับผู้โดยสารของผม และที่ผมมาวันนี้ผมมีความสุขมาก
ผมไม่เสียใจอะไรทั้งนั้น ผมตอบตามความเป็นจริง 1000 เปอร์เซ็นต์
.
ตอนท้าย Professor ขอจับมือและบอกว่าคุณเป็นคนตรงไปตรงมาที่สุดตั้งแต่เคยสัมภาษณ์มา
ไม่ว่าทำอะไรคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
.
จากนั้นก็ร่ำลากันครับ และทิ้งท้าย Professor ว่า... คุณหน้าเหมือนพ่อผมนะ
(จะมีใครเพี้ยนคุยกับ Professor แบบนี้ไหม 555)
.
พอถึงวันประกาศผลสอบ ผมยังจำได้เลยครับ ว่าอยู่ร้านส้มตำแถวปากช่อง เมื่อประกาศผลไม่มีชื่อขึ้น ผมรู้สึกโล่งมากกกกกก ว่ามันสิ้นสุดลงเสียที…
ไม่เสียใจเลยครับ เพราะ ผมได้ทำมันอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ
.
อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังทำตามความฝันและขอให้พยายามให้เต็มที่
“น้ำมันไม่ร้อนทอดอะไรก็ไม่สุก ความพยายามที่ไม่สุดทำอะไรก็ไม่สำเร็จ”
.
สู้ๆ ทุกท่านครับ ... เมื่อบานประตูใบหนึ่งได้ปิดลง นั่นหมายความว่าประตูบานใหม่กำลังเปิดรับครับ
.
ท้ายนี้ Everything Happens For A Reason คือ
.
1. การสอบ TG ทำให้ผมได้พบกับแฟนคนปัจจุบัน ซึ่งเธอเป็นคนที่ดีมากๆ ครับ
2. การสอบ TG เป็นอะไรที่ยากมากๆ ที่อธิบายให้ครอบครัวฟัง เนื่องจากครอบครัวไม่อยากให้เป็นนักบิน เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและองค์กร -*- เป็นต้น
3. การสอบ TG ทำให้ผมรู้ว่านักบินไม่ใช่ทางของผม และตอนนี้ผมได้เจอสิ่งที่ต้องการแล้วครับ
4. การสอบ TG ทำให้ผมได้รู้จักคนใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการทำธุรกิจ
5. การสอบ TG ไม่เคยทำให้ผมเสียเวลา แต่เป็นทางผ่านสู่การเปิดประตูบานถัดไป...
.
ปล. ผมขอฝากเพจ CAN FLY “PILOT”
.
Link :
https://www.facebook.com/canflypilot2018/.
ซึ่งผมมีความตั้งใจที่จะแนะนำการสอบนักบิน TG 2018
และ เอกสาร Aptitude Test ครั้งเดียวเท่านั้น ผ่านระบบ Facebook Group
เพราะความรู้ตอนนี้ยังพอมี หลังจากนั้นไม่ได้ทบทวนคงเลือนหายไป...
.
ที่ผมมาทำตรงจุดนี้… เนื่องจากตัวผมเองเคยใช้เงินจำนวนมากในการติว
ซึ่งหากครอบครัวไม่สนับสนุน ผมเองคงไม่มีโอกาสได้เรียน
.
ฉะนั้น ผมอยากเปิดโอกาสตรงนี้ ให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียม
ใครจะไปรู้ล่ะครับว่า... เด็กแว๊นซ์อาจจะเป็นนักบินที่ดีได้ หากเขาได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน จริงไหม ?
.
โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง และรายได้ส่วนหนึ่งผมจะนำไปบริจาคให้เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษาในนามของคนที่เข้าร่วมทุกคนครับ
.
ขอกล่าวลา Webboard แห่งนี้ ด้วยวิทยาทานข้างต้นทั้งหมดครับ สวัสดีครับ...