Author Topic: นกแอร์ผงาด ระดม 3 พันล้านปรับฝูงบิน  (Read 8183 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline pilotguide

  • ราชาเทวะ
  • *****
  • Posts: 1,019
"พาที" ดันนกแอร์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สิงหาคมนี้ หวังระดมทุน 3 พันล้านบาทเพิ่มกระแสเงินสด และขยายการลงทุนช่วง 3 ปีนี้ โดยตั้งเป้าปรับฝูงบินใหม่เป็นโบอิ้ง 737-800 เน้นโอเปอเรชั่นลิสต์เป็นหลักพร้อมเดินแผนสยายปีกเปิดบินประจำต่างประเทศ เล็งเมืองจีน เอเชีย อาเซียน ดีเดย์จุดบินแรกย่างกุ้งปลายปีนี้
 
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ว่า นกแอร์ กำลังอยู่ระหว่างเตรียมแผนในการเสนอขายหุ้นสามัญ เพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยคาดว่าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในราวเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะกระจายหุ้นประมาณ 30% ของหุ้นเดิมและหุ้นออกใหม่เสนอขายให้แก่ผู้สนใจทั่วไป โดยมีบริษัทไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (น่าจะเป็นบลจ.ไทยพาณิชย์) เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินหรือเอฟเอ เพื่อให้ได้เม็ดเงิน 3 พันล้านบาท เพื่อนำมาดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 2556-2558)
 
"การตัดสินใจนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงดังกล่าว ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ของประเทศไทยรวมถึงศักยภาพในการขยายธุรกิจของนกแอร์ หลังจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานกแอร์ก็มีกำไรในการดำเนินงานต่อเนื่อง อาทิ ปี 2553 มีกำไรอยู่ที่ 634 ล้านบาท ปี 2554 กำไรราว 200 ล้านบาท ปี 2555 กำไร 504 ล้านบาท และหลังการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทิศทางในการดำเนินธุรกิจก็จะเป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารเป็นสำคัญ"
 
ซีอีโอนกแอร์ยังระบุอีกว่า สำหรับ แผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีนี้ จะเน้นเป้าหมายการทำงานในแต่ละปีโดยปี 2556 จะรักษาส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศให้คงอยู่ที่ 35 % สามารถดำเนินธุรกิจให้มีกำไรก่อนหักภาษีและทำให้แบรนด์ของนกแอร์ติดตลาดประเทศไทย ส่วนปี 2557 จะเน้นเรื่องการขยายจุดบินไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมองเส้นทางบินภายในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป้าหมายจะทยอยเปิดปีละ 1 เมือง ที่จะเลือกจุดบินที่มองว่าจะทำกำไรได้ก่อนเป็นสำคัญ เพราะเคยมีบทเรียนในอดีตมาแล้ว เน้นเติบโตอย่างยั่งยืน ให้สอดคล้องกับทีมงานและการพัฒนาโนว์ฮาวต่างๆ และในปี 2558 คาดว่าจะขยายจุดบินในภูมิภาคนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถทำกำไรก่อนหักภาษีได้เป็นสำคัญ
 

ส่วนการขยายธูรกิจได้ศึกษาไว้หลายเมืองไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ อาเซียน แต่การจะตัดสินใจว่าจะเปิดจุดบินใด ต้องดูสถานการณ์การบินปัจจุบันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะมีปัจจัยภายนอก อย่างน้ำมัน เศรษฐกิจการเมือง และภัยธรรมชาติ เป็นต้น เพราะนกแอร์ เป็นสายการบิน พรีเมียมโลว์อสต์การบริหารจัดการจึงถือเป็นหัวใจสำคัญ
 
นายพาที กล่าวต่อว่า การระดมทุนครั้งนี้ จะนำมาใช้ในการขยายธุรกิจปกติ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และการขยายฝูงบิน ที่นโยบายหลักจะเป็นการเช่าดำเนินงาน (Operating Lease) เท่่านั้น ไม่มีการซื้อเครื่องบินในแบบเช่าทางการเงิน (Finance Lease) โดยต้องการจะปลดระวางเครื่องบินเก่าออก เพื่อเปลี่ยนเครื่องบินใหม่มาทดแทน ซึ่งจะใช้ฝูงบินโบอิ้ง 737-800 เนื่องจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงลงได้มาก และยังช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันได้มากกว่า ซึ่งก็ถือว่าคุ้มแม้ว่าเครื่องบินใหม่ จะทำให้นกแอร์มีค่าเช่าเครื่องบินเพิ่มขึ้นราว 15%
 
ปัจจุบันนกแอร์มีเครื่องบินทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งจะทยอยปรับเปลี่ยนฝูงบินใหม่มาเป็นโบอิ้ง 738-800 ทั้งหมด โดยมีทั้งเครื่องบินใหม่ และเครื่องบินที่อายุเฉลี่ยราว  3-4 ปี เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินเก่าและโบอิ้ง 737-400 ที่มีอายุการใช้งานมากสุดอยู่ที่ 20 ปี ซึ่งเช่ามาจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะหมดสัญญาเช่า และภายในสิ้นปีนี้ จะมีฝูงบินใหม่รวมกว่า 13 ลำ อีกทั้งเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ยังทำให้สายการบินสามารถให้บริการที่นั่งได้เพิ่มขึ้นเป็น 189 ที่นั่ง จากเดิมที่นั่งเพียง 160 ที่นั่ง ส่งผลให้มีจำนวนที่นั่งในการขายเพิ่มขึ้นด้วย
 
"การเปลี่ยนฝูงบินในช่วงเวลานี้ถือว่าเหมาะสม เพราะในขณะนี้สายการบินในยุโรปหลายสายการบินประสบปัญหาทำให้การรับมอบเครื่องบินที่สั่งไว้มีปัญหาตามไปด้วย ทำให้นกแอร์มีโอกาสที่จะเช่าเครื่องบินจากโบอิ้งมาดำเนินธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น" นายพาทีกล่าว
 
ส่วนแผนขยายเครือข่ายเส้นทางบินในปีนี้ มีแผนจะขยายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศ โดยจะบินประจำสู่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์และเวี่ยดนาม ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ จำนวน 2 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มจากที่เปิดเที่ยวบินในลักษณะเช่าเหมาลำใน 2 เส้นทางซีอาน และหังโจว ของจีน เข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากมองว่าเมียนมาร์ในปัจจุบันเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมาก มีความต้องการในการเดินทางเพิ่มสูงทั้งคนไทยและต่างชาติ ขณะที่จุดบินในประเทศ ซึ่งนกแอร์เปิดให้บริการอยู่แล้ว 27 เมือง
 
"แนวโน้มธุรกิจปีนี้ถือว่าดีมากมีการจัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการเดินทางล่วงหน้า ทำให้เดือนมกราคม 2556  มีกำไรอยู่ที่ 100 ล้านบาท อัตราการบรรทุกเฉลี่ยอยู่ที่ราว 90% เนื่องจากคนรุ่นใหม่นิยมเดินทางโดยเครื่องบินรวมถึงเอสเอ็มอีที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายก็หันมาใช้บริการโลว์คอสต์แอร์ไลน์เพิ่ม นกแอร์จึงมีแผนพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มรายได้ โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อให้บริการ WI-FI บนเครื่องบินได้ในปี 2557 ที่จะรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่" นายพาทีกล่าวทิ้งท้าย
 
อนึ่งนกแอร์ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2547 ในนามบริษัท สกายเอเชีย จำกัด และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2549 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ปัจจุบันผู้ถือหุ้นนกแอร์ ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 49%  บริษัทนกแอร์แมเนจเม้นท์ จำกัด 25% (ประกอบด้วยนายพาที สารสิน และกลุ่มผู้บริหารนกแอร์) บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด 6% ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 5% บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 5% ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ 10%

Offline DuraSail

  • จิตใจของฉันแข็งแกร่งดั่ง
  • Moderator
  • ราชาเทวะ
  • ***
  • Posts: 2,592

Offline pilotguide

  • ราชาเทวะ
  • *****
  • Posts: 1,019
แอบได้ยินมาว่าหลังจากเข้าตลาดหุ้นแล้ว อาจจะมีการรับ SP เป็นของตัวเองด้วยนะครับ ดีจังเลยสำหรับคนที่รอโอกาสครับ คาดว่าน่าจะปีหน้านะครับ


Offline Topview

  • TAA-CoPilot
  • นักรบ
  • ***
  • Posts: 84
เป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจการบินจริงๆครับช่วงนี้  - สอบนักบิน 302- - สอบนักบิน 302-

พวกเราก็อาศัยจังหวะนี้ล่ะทำตามฝัน สู้ๆนะค้าบบบ


Offline pilot421

  • ประชาชน
  • Posts: 11
 O29 จะพยายาม ตามฝันให้สำหรับ เปงกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังไล่ตามความฝันนะคร้าบบบ O02 - นักบิน 303- O07

Offline kanawut

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 292
ถ้าเปิด SP อีกล่ะก็...

ลางานจนหัวหน้าบ่นชัวร์  O33