ระทึก!!เครื่องบินโดยสารชนนกกลางเวหาดิ่งลงแม่น้ำในนิวยอร์ก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มกราคม 2552 09:03 น.
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000004969เอเจนซี/เอเอฟพี - เครื่องบินของสายการบินยูเอสแอร์เวย์ส ดิ่งลงสู่แม่น้ำฮัดสันเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี(15) หลังพุ่งชนฝูงนกและทำให้เครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัวดับ ผู้โดยสารและลูกเรือ 150 คนตะเกียกตะกายขึ้นสู่เรือกู้กัย อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
"ตอนนี้เรายังไม่มีเครื่องบ่งชี้อื่นๆที่มันจะเป็นมากกว่าอุบัติเหตุ" ลอรา บราวน์ เจ้าหน้าที่สำนักงานการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) กล่าว
เธอบอกว่าในเบื้องต้นมีรายงานว่าฝูงนกชนเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 เที่ยวบิน 1549 จากสนามบินลาการ์เดียในนิวยอร์ก มีปลายทางที่ชาร์ล็อตต์ นอร์ทแคโรไลนา "มีรายงานว่ามีฝูงนกขนาดใหญ่บินในบริเวณดังกล่าว แต่เราไม่ได้ชี้ชัดว่ามันเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้"
เครื่องบินของสายการบินยูเอสแอร์เวย์ส บรรทุกผู้โดยสาร 148 คนและลูกเรือ 5-6 คน ประสบอุบัติเหตุตกลงสู่แม่น้ำฮัดสันในนครนิวยอร์ก หลังจากขึ้นบินได้เพียง 3 นาที และรายงานเบื้องต้นทุกคนได้รับความช่วยเหลือออกจากเครื่องแล้ว บราวน์ระบุ
เอฟเอเอเปิดเผยว่ากำลังเข้าสืบสวนรายงานที่ว่าเครื่องบินพุ่งชนฝูงนกหลังจากขึ้นบินได้ไม่นานและร่วงลงสู่แม่น้ำท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด
ผู้โดยสารที่ตื่นตระหนกหลายสิบคนออกมายืนรวมกลุ่มบนปีกของเครื่องบิน ในความพยายามอยู่เหนือน้ำที่เย็นยะเยือก ขณะที่พวกเขารอความช่วยเหลืออพยพออกจากเครื่องบินไปยังเรือกู้ภัยที่เข้าไปจอดทาบ
ผู้โดยสารรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่าได้ยินเสียงคล้ายระเบิดไม่กี่นาทีหลังเครื่องทะยานสู่ท้องฟ้า "เครื่องยนต์ระเบิด เกิดไฟลุกไปทุกที่และมีกลิ่นคล้ายแก๊ส" เจฟฟ์ โคลอดเจย์ จากคอนเนตทิคัตระบุ "
เรือข้ามฟากและเรือของหน่วยกู้ภัยหลายลำ รุดเข้าช่วยผู้โดยสารที่บางส่วนเกาะกลุ่มยืนอยู่บนปีกเครื่องบินส่วนที่ยังไม่จม บางส่วนสวมเสื้อชูชีพก่อนที่เรือตำรวจจะเดินทางมาถึง
ต่อมา ดง ปาร์เกอร์ ประธานสายการบินยูเอสแอร์เวย์ส ยืนยันว่าผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัย ส่วนสำนักงานการบินแห่งสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่ามีผู้โดยสารจำนวนมากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลนิวยอร์ก
ต้องชมนักบินเขาเลยนะคับที่ยังสามารถเอาเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย
Topic: ระทึก!!เครื่องบินโดยสารชนนกกลางเวหาดิ่งลงแม่น้ำในนิวยอร์ก (Read 7849 times)
