Author Topic: การบินไทยโละ 10 เส้นทางบิน ส่ง'ไทยสมายล์'เ  (Read 6795 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline TK

  • StudentPilot
  • นักรบ
  • ***
  • Posts: 81
สวัสดีครับ  E07 เเอบซุ่มอ่านอยู่นาน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ เอาข่าวมาฝากเผื่อโดนถามตอนสัมภาษณ์


บินไทยดันแผนกู้รายได้ครึ่งปีหลัง เหตุกำไรครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้า 50% เดิน หน้าโละ 10 เส้นทางบินขาดทุน รวมเกาะสมุย-อุบลราชธานีดึงการบินไทยสมายล์เสียบแทน พร้อมโฟกัสรูตบินใหม่ที่ทำกำไร มุ่งเพิ่มเที่ยวบินในเอเชียรับเออีซี ดันผลผลิตปีหน้าโต 10% ทั้งรีไวส์แผนจัดหาฝูงบินล็อต 2 หลังบอร์ด สั่งวิเคราะห์ข้อมูลการเงินใหม่ โดยจัดหาตามศักยภาพที่ลงทุนได้ ซึ่งอาจไม่ใช่ 38 ลำ ตามแผนที่ ครม.เดิมเคยไฟเขียวเบื้องต้นไว้ 

             นายโชคชัย ปัญญายงค์ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภารกิจเร่งด่วน ของการบินไทยในขณะนี้คือการจัดทำแผนระยะสั้นที่จะดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อเพิ่มรายได้ เพื่อให้ผลการดำเนิน งานในปีนี้ยังเป็นผลบวก หลังจากในช่วง
6 เดือนแรกมีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 3.2% และยังคงมีกำไรต่ำกว่าเป้าหมาย 50% รวมถึงปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจของยุโรปที่เริ่ม ส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้านคาร์โกของการ บินไทย

+ชู 4 กลยุทธ์ดันรายได้
             ดังนั้นในการประชุมเชิงปฏิบัติการหรือเวิร์กช็อปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีแนวทางดำเนินยุทธศาสตร์ระยะ สั้นใน 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การยกเลิกเส้นทางบินที่ขาดทุน เพื่อนำเครื่อง บินไปให้บริการเพิ่มขึ้นในเส้นทางที่ทำกำไร 2. การปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้เหมาะสมกับดีมานด์ของผู้โดยสาร เช่นในเส้นทางบอมเบย์ที่มีการแข่งขันสูง ก็จะถอนเครื่องบินโบอิ้ง 747 ออกและนำแอร์บัสเอ320 ที่ขนาดเล็กกว่า มาทำการบินแทน 3. การเพิ่มเส้นทางที่มี ศักยภาพในการสร้างกำไรและ 4. การควบ คุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการปรับขึ้นเงินเดือน ค่าล่วงเวลา ค่าภาษีและค่าแรง 300 บาท และค่าใช้จ่ายด้านน้ำมัน การซ่อมบำรุงอากาศยานจากการทำเฮดจิ้ง
             "ที่ผ่านมาแม้จะมีผลการดำเนินการ ที่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เช่นในเดือนมิถุนา
ยน ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซัน การบินไทยมีอัตราการบรรทุกเฉลี่ย (Cabin Factor) อยู่ที่ 75.6% เกินเป้าหมายที่วางไว้ 71% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 65% ดังนั้นเมื่อรวมกับยุทธศาสตร์ระยะสั้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับการ ได้รับมอบเครื่องบินใหม่เข้ามาในปีนี้เพิ่มขึ้น ก็น่าจะทำให้ผลการดำเนินงานเป็นไป ในทางที่ดีขึ้น"
+แก้ปัญหา 10 รูตขาดทุน
             สำหรับการบริหารจัดการเส้นทางบินที่จะช่วยสร้างรายได้ในระยะสั้นนี้ การ บินไทยจะมีการแก้ปัญหาใน 10 เส้นทางบินที่ขาดทุน โดยเป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศ 6 เส้นทาง และในประเทศ 4 เส้นทาง โดยให้การบินไทยสมายล์ไปทำการบินแทน เพราะจากการเปิดบินในเส้นทาง บินแรกกรุงเทพฯ-มาเก๊า ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมากประกอบกับมีต้นทุนดำเนินธุรกิจที่ต่ำกว่า ทำให้การเพิ่มเน็ตเวิร์กมาทดแทนเส้นทางที่การบินไทยขาดทุน เพื่อนำเครื่องบินไปขยายในจุดที่สร้างกำไรแทนได้
             โดยในเดือนสิงหาคมนี้การบินไทยสมายล์ จะเปิดบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี 2 เที่ยวบินต่อวันแทนการ บินไทย ที่จะนำเครื่องบินไปเพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง จาก 2 เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนในเดือนกันยายน จะเพิ่มเที่ยวบินไปยังไทเป เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน และการบินไทยสมายล์ จะเปิดบินเข้าสู่เมืองไฮเดอร์ราบัด ประเทศอินเดีย 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยการบินไทยจะถอน ตัวจากเส้นทางบินนี้ออกไป ขณะที่การรับ มอบเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 ลำแรกจะมาทำการบินในเส้นทางสู่ฮ่องกงและสิงค-โปร์ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ด้วย
             ส่วนในเดือนตุลาคม การบินไทยจะ เปิดจุดบินสู่เมืองซับโปโร ประเทศญี่ปุ่น การเพิ่มเที่ยวบินสู่เมืองมอสโกจาก 3 เป็น 4 เที่ยวบิน เพิ่มเที่ยวบินสู่เมืองโจ-ฮันเนสเบิร์ก จาก 3 เป็น 4 เที่ยวบิน คุนหมิง จาก 5 เป็น 7 เที่ยวบิน เฉินตู จาก 5 เที่ยวบินเป็น 7 เที่ยวบิน เซียะเหมิน จาก 3 เป็น 4 เที่ยวบิน รวมไปถึงการลดเส้นทางบินในจุดที่ขาดทุน เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี จากเดิม 2 จะลดเหลือ 1 เที่ยวบิน และการหารือกับทางบางกอก แอร์เวย์ส ถึงแนวโน้มที่จะยกเลิกเส้นทางบินสู่เกาะสมุย เป็นต้น รวมถึงการขยายเน็ตเวิร์กของการบินไทยสมายล์สู่กระบี่ เชียงใหม่และภูเก็ต
             นอกจากนี้ยังจะใช้กลยุทธ์ไดนามิก ไพรซิ่ง ในการปรับเปลี่ยนราคาขายตั๋วให้รวดเร็ว แทนจากเดิมที่การกำหนดราคาขาย ที่ค่อนข้างยาว ซึ่งการใช้กลยุทธ์นี้จะทำให้ การบินไทยมีรายได้และมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
+ปักธงขยายเน็ตเวิร์กเอเชีย
             อีกทั้งการเวิร์กช็อปที่ผ่านมา ยังได้ หารือถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ด้วย โดยในปีหน้าจะเพิ่มผลผลิตขึ้นได้อีก 10% ของจำนวนโปรดักต์ที่ขายในตลาดเพื่อสร้างกำไร เนื่องจากจะมีเครื่องบินรับมอบเพิ่ม โดยเฉพาะแอร์บัสเอ380 ที่จะเข้าครบทั้ง 6 ลำทำให้มีจำนวนที่นั่งในการขายเพิ่มขึ้น โดย 4 ลำแรกจะนำไปทำการบินสู่แฟรงก์เฟิร์ต และฝรั่งเศส ส่วนลำที่ 5 และ 6 จะนำไปบินในเส้นทางออสเตรเลีย และญี่ปุ่นแทน และจะนำเครื่องบินโบอิ้ง747 จำนวน 4 ลำ ออกจาก ฝูงบินเนื่องจากมีอายุการใช้งานนานแล้ว
             "ทิศทางการขยายเน็ตเวิร์กการบินไทยในปีหน้า จะโฟกัสที่ภูมิภาคเอเชียเพิ่ม ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน เกาหลี โดยจะเพิ่มเที่ยวบินจาก 55 เที่ยวบินต่อวันเป็น 60 กว่าเที่ยวบินต่อวัน และจะเปิดจุดบินสู่เมืองเชนได ประเทศญี่ปุ่นและเมืองอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนภูมิภาคยุโรป จะไม่เพิ่มเที่ยวบินแต่จะนำเครื่องบินใหญ่อย่างเอ380 เข้ามาบินในเส้นทางบินหลักที่ดีมานด์ผู้โดยสารมาก ซึ่งปัจจุบันมีรายได้จากเส้นทางบินยุโรปอยู่ที่ 20-30% แต่ต่อไปจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในเอเชียเพิ่มขึ้น ส่วนการบินไทยสมายล์ก็จะเน้นขยายเน็ตเวิร์กในเส้นทางบินที่มีระยะทางราว 1-2 ชั่วโมง ในรีจินัลนี้ จีนตอนใต้ และอินโดไชน่า"
+ชะลอแผนตั้งโลว์คอสต์
             ขณะที่แผนจัดตั้งสายการบินต้น ทุนต่ำ คงชะลอไว้ก่อน เพราะต้องการมุ่งดำเนินธุรกิจของการบินไทยสมายล์ให้เกิดการตอบรับจากผู้โดยสารที่ชัดเจนก่อน ซึ่งขณะนี้ฝ่ายบริหารการบินไทย อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดแผนการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะแผนด้านการเงินในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์รายได้ ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาแผนการจัดหาฝูงบินระยะที่ 2 อีก 38 ลำ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในราวเดือนกันยายนหรือตุลา คมนี้ก่อนนำเรื่องเข้าสู่ครม.ต่อไป           
             "บอร์ดการบินไทยเล็งเห็นว่าผลการ ดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย รวมถึงปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจของยุโรปนั้น การลงทุนที่ต้องมีภาระผูกพันและเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับการจัดหาฝูงบินระยะที่ 2 จะต้องศึกษาในรายละเอียด เพื่อให้แผนลง ทุนสอดคล้องกับศักยภาพในการรองรับการขยายธุรกิจในระยะยาว"
+รีไวส์แผนบินล็อต 2
             ทำให้แผนการจัดหาฝูงบินระยะที่ 2 ที่จะรับมอบปี 2561-2565 ก็อาจจะไม่ใช่ 38 ลำ งบลงทุนกว่า 2.4 แสนล้านบาทตามที่ครม.ชุดก่อน ได้อนุมัติกรอบเบื้องต้นไว้แล้ว และยังไม่รวมการจัดหาเครื่องบินลำตัวแคบแอร์บัสเอ 320 อีก 9 ลำ สำหรับการบินไทยสมายล์ ซึ่งจะเป็นจำนวนกี่ลำคงต้องรอผลการศึกษาในรายละเอียดดังกล่าวแล้วเสร็จเสียก่อน
             ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัทการบินไทย จำกัด เปิดเผยว่า การบินไทยจะมีการ กันเงินสดสำรองอยู่ในสัดส่วน 15% ของรายได้ไว้ รวมถึงเตรียมเงินสำหรับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการจัดหาเครื่องบินในส่วนที่ต้องรับมอบใหม่ในช่วงปี2555-2560 ไว้แล้ว ซึ่งมีทั้งส่วนที่ต้องรับมอบและการจ่ายค่ามัดจำ 30% สำหรับฝูงบินระยะแรกที่เพิ่งจัดหาไป 37 ลำ โดยในปี 2555 อยู่ที่ราว 4 หมื่นล้านบาท ปี 2556 ราว 4 หมื่นล้านบาท และปี 2557 อยู่ที่ราว 2.5 หมื่นล้านบาท
             ส่วนแนวโน้มที่การบินไทยจะยกเลิก เที่ยวบินเข้าสมุยเป็นเพราะมีภาระค่าแลนดิ้ง ราว 1 แสนบาท สำหรับการขึ้นลงสนามบิน สมุย ทำให้ไม่คุ้มค่ากับมาร์จิ้นที่ได้รับ