ขอแชร์หน่อยนะครับพอดีเอามาจากพี่ที่เป็นนักบินการบินไทย ไม่อยากให้สังคมมองนักบินเป็นจำ

[Nooentaneer]

ช่วยชี้แจงอีกแรงครับ...

ในฐานะที่กระผมเป็นนักบินการบินไทย ที่สังคมกำลังมองว่าเป็นจำเลย ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมขอกราบขอโทษทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและขออนุญาตชี้แจงความจริงให้ทุกท่านทราบดังนี้

1. กบท. ได้ปรับค่าใบอนุญาตให้กับนักบินตามระดับต่างๆ โดยได้รับสูงสุดที่หกหมื่นบาทเมื่อเป็นกัปตัน เพื่อแก้ปัญหาสมองไหล เพราะมีนักบินลาออกไปอยู่สายการบินต่างชาติที่จ้างมากกว่าสองถึงสามเท่า แม้กระทั่งเวียดนาม โดยแม้ว่าจะปรับแล้ว ก็ยังห่างอยู่สองถึงสามเท่า (รายได้ไม่มากกว่าสายการบินต้นทุนต่ำในประเทศไทยเสียด้วยซ้ำ)
โดยมีนักบินลาออกไปแล้วร่วมร้อยคน

2. บริษัทมีการจัดระบบการเสียภาษีของนักบินสองแบบ พนง.รุ่นเก่าจะจ่ายภาษีโดยบริษัทแยกเก็บไว้ แต่พนง.ที่เข้าหลัง 1 ม.ค. 48 บริษัทจะคำนวณโดยคิดค่าชดเชยภาษีให้ แต่เดิมทางบริษัทได้กำหนดว่า รายรับสุทธิของพนง.รุ่นใหม่ต้องไม่แตกต่างจากพนง.รุ่นเก่า จึงมีการจ่ายชดเชยภาษีให้เพิ่มเติมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นนักบินหรือพนง.ต้อนรับ แต่เมื่อมีการปรับค่าใบอนุญาตแล้ว เงินค่าชดเชยภาษีที่นักบินรุ่นหลังเคยได้รับ บริษัทกลับไม่ยอมจ่ายตามสัญญาเดิม ทั้งที่มีการทักท้วงและยื่นเรื่องตามระเบียบมาเป็นระยะเวลามาเกือบหนึ่งปี

3. ข่าวที่ว่ากัปตันอาวุโสบางท่านที่มีรายได้มาก ส่วนนึงมาจากบริษัทรับเครื่องบินมามากขึ้น มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้น แต่การผลิตนักบินที่ยังไม่เพียงพอ ส่งผลให้นักบิน ต้องบินเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด จนเกิดเป็น overtime(OT) เมื่ออายุงานมาก เงินเดือนก็ย่อมสูงกว่าคนอายุงานน้อย เมื่อเกิดเป็น OT จึงได้มาก

4. นโยบายลดรายจ่ายของบริษัท นักบินและพนง.ต้อนรับ คือกลุ่มที่โดนผลกระทบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนพนง.ในแต่ละเที่ยวบิน แม้ว่าผู้โดยสารจะเต็มลำ ลดจำนวนนักบินในบางเที่ยวบิน ทำให้นักบินเกิดความล้ามากขึ้นในเที่ยวบินไกลและออกเวลากลางคืน (ซึ่งเรื่องนี้ทางนักบินก็มิได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย จึงได้มีการทักท้วงกันอยู่) ลดวันพักผ่อนในต่างประเทศ ลดระดับของโรงแรมที่พักซึ่งบางที่ไปอยู่ในบริเวณที่อาจจะไม่ปลอดภัย

5. ในการลาหยุดครั้งนี้ ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่ทางฝ่ายบริหารของบริษัทกลับเพิกเฉยไม่สนใจเหมือนเช่นเคย เพราะคิดว่านักบินคงจะรวมตัวกันไม่ติด ด้วยเหตุผลของวัฒนธรรมองค์กร แต่พอระยะเวลาผ่านมาใกล้เรื่อยๆ ความนิ่งเฉยของฝ่ายบริหารยิ่งทำให้มีนักบินเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา โดยทางนักบินคาดหวังว่าฝ่ายบริหารจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดความเสียหายใดๆเกิดขึ้นทั้งผลกระทบต่อผู้โดยสารและบริษัทเอง ถือได้ว่าฝ่ายบริหารต่างหากที่เอาผู้โดยสารเป็นตัวประกัน

6. ฝ่ายบริหารไม่สามารถเพิ่มพูนรายได้จากการประกอบกิจการ แต่กลับมาบีบคั้นภายในองค์กรโดยการลดค่าใช้จ่าย ทั่วๆไป โดยมิได้คำนึงถึงให้ถ่องแท้เกี่ยวกับ ความคุ้มค่าทางด้านความปลอดภัยและชื่อเสียงทางด้านบริการของบริษัทฯ ความบีบคั้นในการลดรายจ่ายของบริษัทที่มีต่อฝ่ายบินเป็นสาเหตุสำคัญนึงที่ทำให้นักบินหลายคนเกิดวิกฤตศรัทธาต่อฝ่ายบริหาร

กระผมหวังว่า ท่านผู้อ่านที่มีจิตใจรักความยุติธรรม คงจะพอเข้าใจถึงเหตุผลของปัญหาที่เกิดขึ้น นักบินการบินไทย ได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้มีวินัย และเสียสละมาตลอด หากฝ่ายบริหารทำหน้าที่อย่างถูกต้องและมีธรรมาภิบาล ตรงไปตรงมา ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ช่วงวันสงกรานต์คงจะไม่เกิดขึ้นและทำความลำบากให้เพื่อนร่วมงานต่างหน่วย และประชาชนผู้ใช้บริการของการบินไทย ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อพวกเราจริงๆ มิใช่ฝ่ายบริหารที่กำลังเอาเปรียบลูกจ้างอยู่ในทุกวันนี้

[jason]

ช่วยชี้แจงอีกแรงครับ...

ในฐานะที่กระผมเป็นนักบินการบินไทย ที่สังคมกำลังมองว่าเป็นจำเลย ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมขอกราบขอโทษทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและขออนุญาตชี้แจงความจริงให้ทุกท่านทราบดังนี้

1. กบท. ได้ปรับค่าใบอนุญาตให้กับนักบินตามระดับต่างๆ โดยได้รับสูงสุดที่หกหมื่นบาทเมื่อเป็นกัปตัน เพื่อแก้ปัญหาสมองไหล เพราะมีนักบินลาออกไปอยู่สายการบินต่างชาติที่จ้างมากกว่าสองถึงสามเท่า แม้กระทั่งเวียดนาม โดยแม้ว่าจะปรับแล้ว ก็ยังห่างอยู่สองถึงสามเท่า (รายได้ไม่มากกว่าสายการบินต้นทุนต่ำในประเทศไทยเสียด้วยซ้ำ)
โดยมีนักบินลาออกไปแล้วร่วมร้อยคน

2. บริษัทมีการจัดระบบการเสียภาษีของนักบินสองแบบ พนง.รุ่นเก่าจะจ่ายภาษีโดยบริษัทแยกเก็บไว้ แต่พนง.ที่เข้าหลัง 1 ม.ค. 48 บริษัทจะคำนวณโดยคิดค่าชดเชยภาษีให้ แต่เดิมทางบริษัทได้กำหนดว่า รายรับสุทธิของพนง.รุ่นใหม่ต้องไม่แตกต่างจากพนง.รุ่นเก่า จึงมีการจ่ายชดเชยภาษีให้เพิ่มเติมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นนักบินหรือพนง.ต้อนรับ แต่เมื่อมีการปรับค่าใบอนุญาตแล้ว เงินค่าชดเชยภาษีที่นักบินรุ่นหลังเคยได้รับ บริษัทกลับไม่ยอมจ่ายตามสัญญาเดิม ทั้งที่มีการทักท้วงและยื่นเรื่องตามระเบียบมาเป็นระยะเวลามาเกือบหนึ่งปี

3. ข่าวที่ว่ากัปตันอาวุโสบางท่านที่มีรายได้มาก ส่วนนึงมาจากบริษัทรับเครื่องบินมามากขึ้น มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้น แต่การผลิตนักบินที่ยังไม่เพียงพอ ส่งผลให้นักบิน ต้องบินเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด จนเกิดเป็น overtime(OT) เมื่ออายุงานมาก เงินเดือนก็ย่อมสูงกว่าคนอายุงานน้อย เมื่อเกิดเป็น OT จึงได้มาก

4. นโยบายลดรายจ่ายของบริษัท นักบินและพนง.ต้อนรับ คือกลุ่มที่โดนผลกระทบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนพนง.ในแต่ละเที่ยวบิน แม้ว่าผู้โดยสารจะเต็มลำ ลดจำนวนนักบินในบางเที่ยวบิน ทำให้นักบินเกิดความล้ามากขึ้นในเที่ยวบินไกลและออกเวลากลางคืน (ซึ่งเรื่องนี้ทางนักบินก็มิได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย จึงได้มีการทักท้วงกันอยู่) ลดวันพักผ่อนในต่างประเทศ ลดระดับของโรงแรมที่พักซึ่งบางที่ไปอยู่ในบริเวณที่อาจจะไม่ปลอดภัย

5. ในการลาหยุดครั้งนี้ ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่ทางฝ่ายบริหารของบริษัทกลับเพิกเฉยไม่สนใจเหมือนเช่นเคย เพราะคิดว่านักบินคงจะรวมตัวกันไม่ติด ด้วยเหตุผลของวัฒนธรรมองค์กร แต่พอระยะเวลาผ่านมาใกล้เรื่อยๆ ความนิ่งเฉยของฝ่ายบริหารยิ่งทำให้มีนักบินเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา โดยทางนักบินคาดหวังว่าฝ่ายบริหารจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดความเสียหายใดๆเกิดขึ้นทั้งผลกระทบต่อผู้โดยสารและบริษัทเอง ถือได้ว่าฝ่ายบริหารต่างหากที่เอาผู้โดยสารเป็นตัวประกัน

6. ฝ่ายบริหารไม่สามารถเพิ่มพูนรายได้จากการประกอบกิจการ แต่กลับมาบีบคั้นภายในองค์กรโดยการลดค่าใช้จ่าย ทั่วๆไป โดยมิได้คำนึงถึงให้ถ่องแท้เกี่ยวกับ ความคุ้มค่าทางด้านความปลอดภัยและชื่อเสียงทางด้านบริการของบริษัทฯ ความบีบคั้นในการลดรายจ่ายของบริษัทที่มีต่อฝ่ายบินเป็นสาเหตุสำคัญนึงที่ทำให้นักบินหลายคนเกิดวิกฤตศรัทธาต่อฝ่ายบริหาร

กระผมหวังว่า ท่านผู้อ่านที่มีจิตใจรักความยุติธรรม คงจะพอเข้าใจถึงเหตุผลของปัญหาที่เกิดขึ้น นักบินการบินไทย ได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้มีวินัย และเสียสละมาตลอด หากฝ่ายบริหารทำหน้าที่อย่างถูกต้องและมีธรรมาภิบาล ตรงไปตรงมา ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ช่วงวันสงกรานต์คงจะไม่เกิดขึ้นและทำความลำบากให้เพื่อนร่วมงานต่างหน่วย และประชาชนผู้ใช้บริการของการบินไทย ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อพวกเราจริงๆ มิใช่ฝ่ายบริหารที่กำลังเอาเปรียบลูกจ้างอยู่ในทุกวันนี้

แล้วสงกรานต์ที่ผ่านมา เกิดอะำไรขึ้นหรอ

[iManiac]

กัปตันไม่ยอมบินช่วงสงกรานต์หรือเปล่า ต้องถามคุณปิยสวัสดิื ท่านบอกว่าเคลียร์ปัญหาไปแล้วสำหรับเรื่องนี้

[zello9889]

ช่วยชี้แจงอีกแรงครับ...

ในฐานะที่กระผมเป็นนักบินการบินไทย ที่สังคมกำลังมองว่าเป็นจำเลย ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมขอกราบขอโทษทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวและขออนุญาตชี้แจงความจริงให้ทุกท่านทราบดังนี้

1. กบท. ได้ปรับค่าใบอนุญาตให้กับนักบินตามระดับต่างๆ โดยได้รับสูงสุดที่หกหมื่นบาทเมื่อเป็นกัปตัน เพื่อแก้ปัญหาสมองไหล เพราะมีนักบินลาออกไปอยู่สายการบินต่างชาติที่จ้างมากกว่าสองถึงสามเท่า แม้กระทั่งเวียดนาม โดยแม้ว่าจะปรับแล้ว ก็ยังห่างอยู่สองถึงสามเท่า (รายได้ไม่มากกว่าสายการบินต้นทุนต่ำในประเทศไทยเสียด้วยซ้ำ)
โดยมีนักบินลาออกไปแล้วร่วมร้อยคน

2. บริษัทมีการจัดระบบการเสียภาษีของนักบินสองแบบ พนง.รุ่นเก่าจะจ่ายภาษีโดยบริษัทแยกเก็บไว้ แต่พนง.ที่เข้าหลัง 1 ม.ค. 48 บริษัทจะคำนวณโดยคิดค่าชดเชยภาษีให้ แต่เดิมทางบริษัทได้กำหนดว่า รายรับสุทธิของพนง.รุ่นใหม่ต้องไม่แตกต่างจากพนง.รุ่นเก่า จึงมีการจ่ายชดเชยภาษีให้เพิ่มเติมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นนักบินหรือพนง.ต้อนรับ แต่เมื่อมีการปรับค่าใบอนุญาตแล้ว เงินค่าชดเชยภาษีที่นักบินรุ่นหลังเคยได้รับ บริษัทกลับไม่ยอมจ่ายตามสัญญาเดิม ทั้งที่มีการทักท้วงและยื่นเรื่องตามระเบียบมาเป็นระยะเวลามาเกือบหนึ่งปี

3. ข่าวที่ว่ากัปตันอาวุโสบางท่านที่มีรายได้มาก ส่วนนึงมาจากบริษัทรับเครื่องบินมามากขึ้น มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้น แต่การผลิตนักบินที่ยังไม่เพียงพอ ส่งผลให้นักบิน ต้องบินเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด จนเกิดเป็น overtime(OT) เมื่ออายุงานมาก เงินเดือนก็ย่อมสูงกว่าคนอายุงานน้อย เมื่อเกิดเป็น OT จึงได้มาก

4. นโยบายลดรายจ่ายของบริษัท นักบินและพนง.ต้อนรับ คือกลุ่มที่โดนผลกระทบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนพนง.ในแต่ละเที่ยวบิน แม้ว่าผู้โดยสารจะเต็มลำ ลดจำนวนนักบินในบางเที่ยวบิน ทำให้นักบินเกิดความล้ามากขึ้นในเที่ยวบินไกลและออกเวลากลางคืน (ซึ่งเรื่องนี้ทางนักบินก็มิได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย จึงได้มีการทักท้วงกันอยู่) ลดวันพักผ่อนในต่างประเทศ ลดระดับของโรงแรมที่พักซึ่งบางที่ไปอยู่ในบริเวณที่อาจจะไม่ปลอดภัย

5. ในการลาหยุดครั้งนี้ ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่ทางฝ่ายบริหารของบริษัทกลับเพิกเฉยไม่สนใจเหมือนเช่นเคย เพราะคิดว่านักบินคงจะรวมตัวกันไม่ติด ด้วยเหตุผลของวัฒนธรรมองค์กร แต่พอระยะเวลาผ่านมาใกล้เรื่อยๆ ความนิ่งเฉยของฝ่ายบริหารยิ่งทำให้มีนักบินเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา โดยทางนักบินคาดหวังว่าฝ่ายบริหารจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดความเสียหายใดๆเกิดขึ้นทั้งผลกระทบต่อผู้โดยสารและบริษัทเอง ถือได้ว่าฝ่ายบริหารต่างหากที่เอาผู้โดยสารเป็นตัวประกัน

6. ฝ่ายบริหารไม่สามารถเพิ่มพูนรายได้จากการประกอบกิจการ แต่กลับมาบีบคั้นภายในองค์กรโดยการลดค่าใช้จ่าย ทั่วๆไป โดยมิได้คำนึงถึงให้ถ่องแท้เกี่ยวกับ ความคุ้มค่าทางด้านความปลอดภัยและชื่อเสียงทางด้านบริการของบริษัทฯ ความบีบคั้นในการลดรายจ่ายของบริษัทที่มีต่อฝ่ายบินเป็นสาเหตุสำคัญนึงที่ทำให้นักบินหลายคนเกิดวิกฤตศรัทธาต่อฝ่ายบริหาร

กระผมหวังว่า ท่านผู้อ่านที่มีจิตใจรักความยุติธรรม คงจะพอเข้าใจถึงเหตุผลของปัญหาที่เกิดขึ้น นักบินการบินไทย ได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้มีวินัย และเสียสละมาตลอด หากฝ่ายบริหารทำหน้าที่อย่างถูกต้องและมีธรรมาภิบาล ตรงไปตรงมา ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ช่วงวันสงกรานต์คงจะไม่เกิดขึ้นและทำความลำบากให้เพื่อนร่วมงานต่างหน่วย และประชาชนผู้ใช้บริการของการบินไทย ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อพวกเราจริงๆ มิใช่ฝ่ายบริหารที่กำลังเอาเปรียบลูกจ้างอยู่ในทุกวันนี้

แล้วสงกรานต์ที่ผ่านมา เกิดอะำไรขึ้นหรอ

ผมได้ยินมาประมาณว่าไม่ยอมบินเพื่อเป็นกระประท้วงหน่ะครับ

[MEE]

นัดกันลาพร้อมกันครับ ไม่ใช่ไม่ยอมขึ้นบินนะครับ

[Topview]

เวียดนามแอร์ไลน์เค้าจ่ายเยอะขนาดนั้นเลยเหรอครับ

[GOODLUCK]

งั้นปีนี้ TG ก็รับนักบินเยอะๆไปเลยละกันนะ เงินน้อยผมก็ยอมอ่ะ 555

[aa_cae]

          ในฐานะที่เป็นพนักงานการบินไทยคนหนึ่ง ที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ฝ่ายบินแต่ก็ได้รับผลกระทบจากช่วงนั้นเช่นกัน ประมาณว่าเดินกลับบ้านนี่ไม่มีหัวแล้วเพราะถูกผดส.กินไปหมดแล้ว 555
อ่านเหตุผลของพี่นักบินแล้วก็เข้าใจความอัดอั้นและผมชอบที่ใช้คำว่าวิกฤติศรัทธาที่มีต่อเหล่าผู้บริหารมากๆครับ เพราะว่ามันจริง กินใจ และไม่ต้องขยายความใดๆต่อ
          เรื่องผลประกอบการที่แจ้งต่อสาธารณะชนว่าขาดทุนเป็นร้อยล้านพันล้าน ผมในฐานะที่ทำงานกับผดส.เห็น booking เห็น load pax หลายๆไฟลท์ทั้งในและต่างประเทศ ขอบอกจากใจครับ ว่าค้านสายตาอย่างมาก ทุกวันนี้พนักงาน frontline ที่ต้องเจอกับผดส.อยู่กับหน้างานโดยตรง ทุกคนทำงานเหนื่อยขึ้นทุกวันและทุกคนครับ วอนเห็นใจ
          ใครเคยอ่านประวัติกบท.คงจะรู้ว่าหลังจากตั้งบริษัทมา กบท.ขาดทุนในช่วง 6-7 ปีแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นบริษัทมีผลประกอบการกำไรเพิ่มมากขึ้นมาเป็นลำดับ มากขึ้นมากขึ้นเป็นพันล้านจนมาปีนึงบริษัทขาดทุนแบบติดลบ ผมคิดว่าเด็กการตลาดมหาลัยปีหนึ่งยังดูออกว่าเกิดอะไรกับกราฟผลประกอบการที่โสลบผิดวิสัยของบริษัทที่ขาดทุนแบบฉับพลันขนาดนี้
          เรื่องบางอย่างมันรู้และชัดเจนอยู่เต็มอกครับ แต่พูดไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่า กบท. เป็นบริษัทที่มีแต่เจ้าของชั่วคราวเท่านั้น เป็นวาระวาระไป ไม่มีเจ้าของที่แท้จริง...

[sodasado]

          .... เอาเป็นว่า กบท. เป็นบริษัทที่มีแต่เจ้าของชั่วคราวเท่านั้น เป็นวาระวาระไป ไม่มีเจ้าของที่แท้จริง...

ประโยคนี้เด็ด สะดุดใจเลย 

[sodasado]

ข่าว bangkokbiz ครับ

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20120423/447733/news.html