Author Topic: พีจี ทุ่มงบ 2 หมื่นล. ซื้อแอร์บัสใหม่ 4 ลำ  (Read 4365 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline pilotguide

  • ราชาเทวะ
  • *****
  • Posts: 1,019
พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถบางกอกแอร์เวย์ส กางแผน 5 ปี ทุ่ม 2 หมื่นล้านบาท ขยายฝูงบินใหม่รับท่องเที่ยว-การบินฟื้น โดยดีลซื้อแอร์บัส A 350 อีก 4 ลำ ตั้งเป้าสิ้นปีดันรายได้แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท รับผู้โดยสาร 2.8 ล้านคน ล่าสุดเปิดบินเข้ามุมไบขายตั๋วโปรโมชันเริ่มที่ 5.5 พันบาททั้งเล็งเปิดบินอีกหลายจุดบินเข้าอินเดียและเปิดบินเช่าเหมาลำเข้า เมืองจีน พร้อมลดความเสี่ยงทำเฮดจิ้งน้ำมันเพิ่มอีก 30-40%

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส เปิดเผยถึงแผนการดำเนินการในช่วง 5 ปี (2554-2558) จะเพิ่มฝูงบินใหม่อีก 7 ลำ จากปัจจุบันมีเครื่องบินประจำฝูงบินทั้งหมด 17 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 8 ลำ แอร์บัสเอ 320 จำนวน 3 ลำและแอร์บัสเอ 319 จำนวน 6 ลำ เพื่อนำมาเพิ่มความถี่และเปิดจุดบินใหม่ในเส้นทางที่มีศักยภาพ รองรับการขยายตัวของธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวของไทย ตามแผนที่วางจะเป็นการทยอยรับมอบโดยในช่วงปลายปีนี้จะได้รับมอบเครื่องบิน แอร์บัสเอ มา 1 ลำ โดยกำลังพิจารณาว่าจะเป็นแอร์บัสเอ 319 จุผู้โดยสารได้ 138 ที่นั่งหรือแอร์บัสเอ320 จุผู้โดยสารได้ 162 ที่นั่ง ซึ่งเป็นในลักษณะของการเช่าเครื่องบิน ส่วนปีหน้าจะรับมอบเครื่องบินแอร์บัสเอ 319 อีก 2 ลำ ช่วงต้นปี 1 ลำและปลายปี 1 ลำ

ส่วนแผนในปี 2558 จะได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ 350 ที่สายการบินได้มัดจำกับแอร์บัส ไว้แล้วจำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สามารถบินระยะได้ จุผู้โดยสารได้ 300 คน เป็นการเช่าซื้อระยะเวลา 12 ปี และในขณะนี้ได้เลือกเครื่องยนต์เทรนต์ XWB ของโรลส์รอยซ์ สำหรับติดตั้งอากาศยาน A350 ทั้ง 4 ลำ โดยจะเริ่มบินในปี 2558 ซึ่งราคาตลาดเครื่องรุ่นนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 160-180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อลำหรือ 4 ลำมีมูลค่าราว 19,200 -21,600 ล้านบาท

นายพุฒิพงศ์ยังกล่าวอีกว่า เครื่องบินดังกล่าวจะนำมาให้บริการเส้นทางบินในภูมิภาคที่มีระยะบิน 5-6 ชั่วโมง เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย ซึ่งน่าจะประสบผลสำเร็จกว่าแผนเดิมที่สั่งเครื่องบินรุ่นนี้มาเพื่อบินใน เส้นทางยุโรป เพราะปัจจุบันจุดบินเข้ายุโรปมีการแข่งขันสูงมาก สู้เอาไปบินเส้นทางภูมิภาคและนำไปเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินที่มีศักยภาพ จะเป็นการเสริมจุดแข็งด้านเครือข่ายของบางกอกแอร์เวย์สและสร้างรายได้ในการ ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากกว่า

"ในปีนี้ธุรกิจการบินเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 53 ทำให้แนวโน้มการเดินทางน่าจะขยายตัวราว 5-8% เป้าหมายของบางกอก แอร์เวย์ส น่าจะเติบโตได้กว่า 20% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้กว่า 13,000 ล้านบาท มีผู้โดยสารใช้บริการราว 2.86 ล้านคนเพิ่มขึ้น 10% เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 8,200 ล้านบาท มีจำนวนผู้โดยสาร 2.63 ล้านคน"

โดยจะเน้นการเพิ่มเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ-ภูเก็ตเป็น 6 เที่ยวบินต่อวันหลังพบดีมานด์เพิ่มขึ้นมากสืบเนื่องจากค่าห้องพักถูกกว่า เกาะสมุย ซึ่งมีโรงแรมเชนเกิดขึ้นทำให้ขายห้องพักในราคาสูงกว่าและทำให้นักท่องเที่ยว เลือกไปภูเก็ตแทน และยังมีแผนเพิ่มเที่ยวบิน ภูเก็ต-เกาะสมุย และแผนจะเพิ่มเที่ยวบินเชียงใหม่เป็น 5 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศก็มีการเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางสู่พนมเปญ เป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน หลวงพระบางเพิ่มเป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน เป็นต้น

สำหรับเส้นทางบินใหม่เข้าประเทศอินเดียอีกหลายเมือง โดยจะเริ่มเปิดบินเส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแอร์บัสเอ 319 จุผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้ 12 ที่นั่งและชั้นประหยัด 108 ที่นั่ง และขายตั๋วราคาพิเศษไป-กลับ เริ่มต้นที่ 5,590 บาท เดินทางได้ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ และยังมีแผนจะขยายเส้นทางบินใหม่สู่เดลีและกัลกัตตาด้วย ถ้ารัฐบาลไทยสามารถเจรจาขอสิทธิการบินเข้า 2 เมืองนี้ได้เพิ่มขึ้น ส่วนช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้มีแผนจะเปิดบินเข้าเชนไน ,บังกะลอร์ด้วย

ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินและเปิดจุดบินนี้ ส่งผลให้สายการบินเพิ่มจำนวนที่นั่งในการขายได้อีกราว 20% "การรุกตลาดอินเดียเพราะเห็นว่าช่วงหลังนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามา เมืองไทยเป็นจำนวนมากและใช้บริการของบางกอกแอร์เวย์สในเส้นทางภูเก็ตและเกาะ สมุย จึงสนใจเข้าไปเปิดตลาดนี้ เพราะไม่เพียงแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแล้วยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางบินเข้า เสียมราบได้อีกด้วย

และนอกจากได้ผู้โดยสารอินเดียพบว่ามีผู้โดยสารจากยุโรปต่อเที่ยวบินที่มุมไบ เข้าไทยด้วย รวมถึงการเจาะกลุ่มคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพราะอินเดียก็มีชื่อเสียงในเรื่องของ บอลลีวูด และวัดในสไตล์ฮินดู"นอกเหนือจากการเปิดจุดบินใหม่เข้าอินเดียแล้วยังมี แผนกลับไปบินในเมืองจีน แต่จะเป็นในลักษณะชาร์เตอร์ไฟลต์ เพราะจีนเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้นส่วนจุดบินประเทศ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดบินเข้าสู่หาดใหญ่ สกลนคร นครพนม เป็นต้น

พร้อมทั้งจะทำโปรโมชันสำหรับตลาดคนไทยต่อเนื่องเพื่อแก้ภาพลักษณ์ที่คนไทย มักจะมองว่าบางกอกแอร์เวย์ส ขายตั๋วแพง ปีนี้ตั้งเป้าว่าคนไทยน่าจะใช้บริการเพิ่มราว10-15 % สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปีนี้ คงเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งได้มีการทำเฮดจิ้งน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกราว 30-40% จากเดิมที่เคยอยู่ประมาณ 25%

ส่วนผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศ ผมเชื่อว่าหากตราบใดที่การประท้วงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปิดสนามบินหรือเกิด ความวุ่นวายเสียชีวิต กระทบต่อการเดินทางที่ลำบาก ก็ไม่น่าจะกระทบการท่องเที่ยวไทยมากนัก จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,609 13 - 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จากฐานเศรษฐกิจ 14 ก.พ. 2554

ที่มา : http://www.hflight.net/forums/topic/5037-%e0%b8%9e%e0%b8%b5%e0%b8%88%e0%b8%b5-%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%9a-2-%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a5-%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%aa/

ปล. ยินดีกับ QP ทั้งหลายด้วยครับ เป็นปีทองอีกปีเลยทีเดียว สายการบินเปิดรับเยอะขึ้น นักบินกองทัพไม่สามารถมี CPL ได้ (รุ่นใหม่ๆนะ) ที่อั้นไว้นานก็มีโอกาสกับเค้าบ้าง