Author Topic: บอร์ด ทอท.อนุมัติจัดจ้างซื้อรถเข็นกระเป๋ากว่า 566 ล้านบาท  (Read 4727 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline peng_117

  • Administrator
  • นักรบ
  • *******
  • Posts: 178
บอร์ด ทอท.อนุมัติจัดจ้างซื้อรถเข็นกระเป๋ากว่า 566 ล้านบาท
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติจ้างงานให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้จัดจ้าง บริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ทสภ. ตามที่คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ งานจ้างผู้ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษฯ ได้มีหนังสือเชิญบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าชั้นนำ 3 อันดับแรกของโลก เข้ายื่นข้อเสนอประกอบด้วย Smart Carte, Wanzl และ Expresso ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถเข็นกระเป๋าในต่างประเทศ ซึ่งป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Wanzl และ Expresso ได้มอบหมายให้บริษัทผู้แทนจำหน่าย ในประเทศไทยเข้ายื่นเสนอ ราคากับ ทอท.

ผลปรากฏว่า บริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเข็นกระเป๋า Wanzl ในประเทศไทย เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นคู่สัญญากับ ทอท.ในงานจัดจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ทสภ.ในครั้งนี้ โดย ทอท.จะดำเนินการจ้างบริษัทฯ ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ทสภ. ประกอบด้วยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 9,034 คัน มีกำหนดเวลา 7 ปี อัตราค่าจ้างเป็นเงิน 566,244,000.- บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กำหนดส่งมอบงานภายใน 90 วัน

อย่างไรก็ตาม รถเข็นกระเป๋ายี่ห้อ Wanzl ที่บริษัทฯ จะจัดส่งให้ ทอท.เป็นที่นิยมใช้กันในท่าอากาศยานชั้นนำของโลก ทำด้วยวัสดุอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรง ล้อหน้ามีก้านสำหรับยึดติดกับทางลาดเลื่อน สามารถรับน้ำหนักกรณีวางกระเป๋าซ้อนกันได้ดี รวมทั้งจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุม และตรวจนับรถเข็นกระเป๋า ชนิดอิเล็กทรอนิกส์ (RFID) ที่รถเข็นกระเป๋าดังกล่าวทุกคัน เพื่อป้องกันการสูญหายของรถเข็นกระเป๋า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีหน้าที่ในการจัดการดูแลรถเข็นกระเป๋า ให้อยู่ในพื้นที่เหมาะสมตลอด ระยะการใช้งาน และนำเอารถเข็นกระเป๋าที่ใช้งานแล้วไปจัดเก็บในพื้นที่ที่กำหนดไว้ด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อ ทอท. เพื่อเจรจากับบริษัทฯ ในการส่งมอบรถเข็นกระเป๋างวดแรกให้ ทอท.ใช้งานก่อนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 จำนวน 4,500 คัน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสาร ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในช่วงปลายปี 2552 นี้

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.เห็นชอบโครงการก่อสร้างกลุ่มอาคาร ผู้โดยสารภายในประเทศ ทสภ.(ปีงบประมาณ 2553 - 2556) วงเงินรวม 9,133.520 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารโดยรวมของ ทสภ.จาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 65 ล้านคนต่อปี การก่อสร้างกลุ่มอาคารผู้โดยสารภายในประเทศพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง จะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร 20 ล้านคนต่อปี รวมถึงปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลัก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 33 ล้านคนต่อปี ผู้โดยสารภายในประเทศ 12 ล้านคนต่อปี เป็น รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศเพียงอย่างเดียว 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลารวม 4 ปี (ปีงบประมาณ 2553 - 2556) แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2556 และคาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารภายในประเทศได้จนถึงปี พ.ศ.2562 โดยหลังจากคณะกรรมการ ทอท. เห็นชอบแล้ว ทอท.จะเสนอแผนลงทุน ไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) เพื่อขออนุมัติ ครม. ต่อไป และเพื่อเป็นการบรรเทาความแออัดในการให้บริการ ของอาคารผู้โดยสารหลัก ด้วยการแยกการให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศออกมาจากอาคารผู้โดยสารหลัก และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถรวมของ ทสภ.ด้วย

Offline FP 1

  • ATT01/08
  • ราชาเทวะ
  • ***
  • Posts: 1,025
ถ้าคนไทยเราไม่ไปขโมยมัน ก็คงไม่ต้องเสียเงินไปติด RFID ให้รถเข็นกระเป๋าหรอกนะ
รถเข็นไทย ไฮโซจริงๆ