บ้านแห่งการบิน > Topic ทรงคุณค่า เหมาะแก่การศึกษาของผู้เริ่มต้น

แชร์ประสบการณ์การสอบนักบิน และบอกลา saknid.com

(1/4) > >>

kanawut:
สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆ น้องๆที่มีความฝันเดียวกัน

ผมตั้งใจจะเขียนบทความนี้เพื่อเป็นการตอบแทนทีผมได้ความรู้จากเว็บนี้ เพื่อตอบแทนพี่ๆที่ผมเคยหลังไมค์ไปคุยบ่อยๆ เพื่อขอบคุณโปรเฟสเซอร์ Kenth Johansson ผู้ที่ทำให้ผมมีโอกาสพัฒนาตัวเอง และเพื่อเป็นแนวทางให้น้องๆต่อไป

ปี 2010 ผมรู้จักเว็บนี้ได้โดยบังเอิญ ขณะนั้นผมเรียนอยู่ปี 3 ด้วยความฝันอยากเป็นนักบินตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้ปี 2011 เมื่อกอง BI มาจัดแนะแนว ผมก็ได้ไปร่วมงาน และได้สมัครสอบเมื่ออยู่ปี 4 สอบครั้งแรกผมกาไป 35 จาก 100 ข้อ เมื่อประกาศผลว่าผมผ่านข้อเขียน ผมดีใจมาก หลังการตรวจร่างกาย ผมทราบว่าเกรดของปี 4 ออกไม่ทันกำหนดของการบินไทย ทำให้ต้องโทรมาสละสิทธิ์สอบสัมภาษณ์กัปตัน แต่เมื่อประกาศรายชื่อผู้ผ่านการตรวจร่างกาย กลับมีชื่อผมอยู่ด้วย ผมก็เลยคิดว่าลองไปดูสักตั้งคงไม่เสียหาย เมื่อไปถึงก็ได้คุยกับพี่ๆทีมงาน ก็เลยทราบว่า ถ้าผมสอบสัมภาษณ์กัปตันผ่าน แต่เกรดออกไม่ทัน ก็จะโดนแบนสามปีอยู่ดี ผมเดินออกมาด้วยความเสียดายเพราะไม่รู้ว่าปีหน้าผมจะมีโอกาสเข้ามายืนตรงนี้อีกหรือไม่

ปี 2012 เนื่องจากรู้แนวข้อสอบแล้ว ทำให้ผมอ่านหนังสือตรงจุดมากกว่าเดิม ทำข้อเขียนไป 75 ข้อ ปีนี้ผมเข้ามาถึงรอบเล่นเกม+สัมภาษณ์เดี่ยวกับโปร มันเกินความคาดหมายของผมไปมาก สำหรับเด็กเพิ่งจบ เริ่มงานได้ 2 อาทิตย์ แต่มาสอบรอบที่คนลือกันว่ายากนักหนาที่จะเข้ามาได้ ผมได้สัมภาษณ์กับโปร Kenth Johansson ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ คำพูดสุดท้ายของโปรคือ You're lucky to be here, hope for the best. ผมคิดว่า ผมทำได้ดีพอตัว น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด

แต่แล้ววันที่ประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือกจาก SIAP ผมก็ได้รู้ความจริงว่า สิ่งที่ผมคิด ผมมั่นใจมาตลอดนั้น มันผิดไปโดยสิ้นเชิง ในประกาศ ไม่มีชื่อผมอยู่ ผมผิดไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ตอนนั้นผมยังไม่ทราบจริงๆว่าเพราะอะไร ผมเฟลไป 3-4 วัน ผมโกรธโปร ว่าทำไมต้องพูดจาให้ความหวังกันด้วย

อย่างไรก็ดี ผมยังพอมีความหวังอยู่บ้าง เพราะปีนั้นเป็นปีแรกที่จะมีการส่งรายชื่อไปเป็นศิษย์การบินของไทยสมายล์ด้วย มีข่าวว่ารายชื่อจะออกมาทีหลัง ผมตั้งใจรอ แต่มันก็ไม่มีชื่อผมอีก คราวนี้ผมกลับมาคิดทบทวนแล้วว่า มันมีอะไรบางอย่างผิดจากที่เราคิดจริงๆ และผิดไปมากๆ มากจริงๆ

ปี 2013 เวลาผ่านไป 8 เดือน นับแต่เริ่มทำงานประจำที่แรก ผมคิดถึงวันที่ผมสัมภาษณ์กับโปร Kenth Johansson และผมก็ได้รู้ว่า ถ้าผมมีโอกาสคุยกับท่านอีก ผมจะเปลี่ยนคำตอบที่เคยให้ไว้ สิ่งที่ผมเคยตอบไปนั้น มันช่างฟังดูอ่อนต่อโลกจริงๆ ผมไม่รู้สึกโกรธท่านแล้ว ผมขอบคุณท่านที่ให้โอกาสผมสำรวจข้อบกพร่องของตัวเอง เขาให้เวลาเรา เพื่อเราจะได้มีอะไรไปเล่าให้เขาฟังในอีกสามปีข้างหน้า บางทีเราอาจจะคิดอะไรได้มากกว่านี้อีกก็ได้

ปีนี้ผมสอบนักบินหลายที่ แอร์เอเชีย บางกอก ตกรอบแรกทั้งหมด และสอบ ATC ของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ผมสอบ ATC ผ่าน ลาออกจากงานเดิมช่วงปลายปี 2013 ผมคิดว่า อย่างน้อยเราก็ได้เข้าใกล้ความฝันไปอีกขั้นก็ยังดี

ปี 2014 ปีนี้ผมสอบข้อเขียนของแอร์เอเชียผ่าน และผ่านข้อเขียนบางกอกเข้าไปเป็นตัวสำรองรอตรวจร่างกาย ผมได้ข้อคิดดีๆจากท่านกัปตันของแอร์เอเชียในการสอบสัมภาษณ์ และได้เล่นจอยสติ๊ก ทำให้ผมเข้าใจหลักการของมัน (และก็คิดได้อีกว่าตอนเล่นจอยโปรนั้นผมก็ทำได้ไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับครั้งนี้) ผมตกสัมภาษณ์แอร์เอเชีย แต่ก็ทำใจไว้แล้ว เลยไม่อะไรมากนัก

เดือนสิงหาคม ผมได้รับข่าวร้าย คือ ข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของโปรเฟสเซอร์ Kenth Johansson ผมเสียใจที่ผมจะไม่มีโอกาสกลับไปกล่าวขอบคุณท่านในปีหน้า ผมไม่อยากเชื่อว่าผมจะรู้สึกผูกพันกับคนคนนึงได้มากขนาดนี้ ทั้งที่คุยกันไม่ถึงสองชั่วโมง ภาพทุกอย่างที่ได้คุยกันมันย้อนกลับมาในหัวผม ทั้ง แววตา ท่าทาง น้ำเสียง

ส่วนบางกอกแอร์นั้นได้ยกเลิกตัวสำรองทั้งหมด ไปสอบใหม่ปี 2015

ปี 2015 ผมอ่านหนังสือหนักกว่าทุกปี เพราะเป็นโอกาสครั้งท้ายๆของผมแล้ว ผมสอบบางกอก เข้าไปถึงรอบไฟนอล แต่ก็ตกทั้งทีมีโอกาส 50/50 ผมเสียใจ แต่ไม่นานนัก เพราะคิดว่าเสียใจไปมันก็เท่านั้น ออกแนวเสียดายเงินค่าตรวจร่างกาย และค่าเดินทางไปกลับมากกว่า (ผมออกมาประจำต่างจังหวัดแล้ว) ข่าวร้ายกว่าคือ การบินไทยไม่เปิดรับศิษย์การบินในปีนี้ โดนแบนไปฟรีๆอีกปีนึง

จนถึงตอนนี้ เพื่อนๆผมที่สอบมาด้วยกัน ติดปีกไปแล้ว 6 คน

ปี 2016 ด้วยความผิดหวังและเหนื่อยกับการสอบปีก่อน ผมเลยไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ประกอบกับข้อสอบยากขึ้น ผมเลยตกบางกอกรอบแรก ต่อมามีข่าวดีจากการบินไทย ทำให้ผมกลับมาฟิตอีกรอบ ผมอ่านหนังสือมากกว่าเดิม เน้นส่วนที่เข้าใจให้คล่องขึ้น เน้นความระมัดระวัง ทำอะไรช้าลง แลกกับความถูกต้องที่มากขึ้น ลดความเสี่ยงทุกอย่างเท่าที่สามารถในทุกรอบของการสอบ อาหารการกิน การเดินทาง ผมเปิดห้องโรงแรมนอนในรอบแอพ และรอบสัมภาษณ์เดี่ยว คราวนี้ผมได้สัมภาษณ์กับโปรเฟสเซอร์ Lars Axelsson คำถามแรกที่โดนถามคือ รู้มั้ยว่าทำไมคราวก่อนถึงตก คำถามต่อๆมาก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันประกาศผลโปร ปี 2012 จนถึงตอนนี้ ว่าผมไปพัฒนาอะไรมาบ้าง มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ผมตอบเขาไปสี่ประเด็น บางประเด็นเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจเมื่อเดือนก่อนนี้เอง

เมื่อประกาศผล ปรากฎว่า ผมไม่ผ่าน อีกแล้ว เมื่อถามเพื่อนอีก 4 คนที่เคยตกโปรรอบเดี่ยวมาแล้วแล้วมาสอบใหม่ก็ไม่มีใครผ่านเลย ทำให้ตอนนี้ผมมีความสับสนมากกว่าความเสียใจแล้วว่า ทำไมตกทั้ง 5 คนทั้งที่ทักษะหรือโปรไฟล์ของแต่ละคนก็ไม่ได้กระจอก อย่างน้อยมีสักคนที่แก้ไขข้อบกพร่องมาจนผ่านก็ไม่ได้เลยเหรอ แต่พอมานั่งคิดดีๆอีกสองสามวันก็พอจะรู้แล้วว่าความเหมาะสมที่เค้าว่าน่ะมันหมายถึงคุณสมบัติอะไร ที่ทั้ง 5 คนนี้ไม่ได้มี และมันไม่ใช่สิ่งที่ปรับปรุงได้ด้วย

ผมไม่ได้หมายความว่าคนที่ติดจะไม่มีประสิทธิภาพนะครับ แต่คนที่ติดต้องมีความเหมาะสมด้วย ถึงคุณจะเก่งมาก แต่ไม่เหมาะสม เขาก็ไม่เอา เขาเอาคนเก่ง+เหมาะสม ดีกว่า อย่างที่ท่านกัปตันมารุตกล่าวอยู่บ่อยๆ

ผมไม่ได้โกรธหรือโทษใครแล้ว ผมแค่เสียดายเวลา,แรงที่ลงไป อย่างไรก็ดี ผมมาเขียนกระทู้นี้ก็เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังถ้ามีความตั้งใจ เราควรอยู่กับความจริงและยอมรับมันให้ได้ คนที่ตกโปรแล้วมาสอบซ้ำ ไม่มีใครมาลองเล่นๆ แต่ถ้าเราไม่ใช่คนประเภทที่เขาอยากได้ เราก็ต้องยอมรับผลการตัดสิน มันเป็นสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมของเรา

อย่างไรก็ตาม ผมก็อยากจะบอกว่า เมื่อรู้แล้วว่าผมไม่ใช่คนประเภทที่เขาเห็นว่าเหมาะสม แต่หากมีโอกาสอีกครั้ง ผมก็คงเข้าไปสอบใหม่ แม้ผมจะรู้ว่าอาจจะต้องฝืนบ้างถ้าจะทำอาชีพนี้ แต่ถ้าแลกกับการได้ทำตามความฝัน มันก็เป็นราคาที่ผมจ่ายได้ มันก็เหมือนกับการคบใครสักคน เราก็ควรรับได้ทั้งข้อดีและข้อเสียของเขาด้วย ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์ 100%

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าจะเจอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนบนความถี่นะครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับที่คอยให้คำแนะนำเสมอมา สวัสดีครับ

pnpp:
อยากกดปุ่มไลค์

Mcbluemer:
คุณสุดยอดแล้วครับ หลายคนมาก ที่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาถึงจุดที่คุณทำด้วยซ้ำ คุณมีประสิทธิภาพในตัวเอง และผมเชื่อว่าจะทำให้คุณประสบความสำเร็จไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม

ปล.ใจนายแน่มากครับ นับถือๆ

domdome:
ผมเป็นคนนึงที่เข้าจนถึงรอบสุดท้าย ครั้งที่ 2 มีความหวังเหมือนทุกคนที่เคยตกรอบโปร และกลับไปพัฒนาตัวเอง คำว่าพัฒนาตัวเอง เป็นคำที่ได้ยินบ่อยๆ จากการสอบข อง TG ทุกครั้ง คุณจะพัฒนาจนขีดสุดเท่าไหร่ แต่บุคลิกคุณไม่เหมาะ กับองค์กรก็ตกครับ เข้าใจเจ้าของกระทู้ครับรู้สึกอย่างไร ผมไม่มีโอกาสกลับเข้าไปสอบอีกได้แล้ว แต่อยากจะฝากให้คนที่มีความฝันที่จะเป็นนักบินอย่าทิ้งความฝันครับ ทำให้เต็มที่ แต่.......ไปให้ถูกองค์กรถูกกับบุคลิกของเรา ครับผม

domdome:
อีกที  ก็นิสัยอย่างเจ้าของกระทู้นี้ไง เขาถึงไม่รับอ่ะครับ

 
ปล. ตูด้วยนี่หว่า  E25 E25 - สอบนักบิน 302-

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

Go to full version