Author Topic: ++ คนที่ตกรอบแรกที่อายุ 29 ครับ..เอายังไงต่อกับชีวิตกันดี แนะนำกันนะครับ ++  (Read 22440 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline jujupatt

  • ประชาชน
  • Posts: 7
ผมอายุ 29 ปีนี้ ตกรอบแรกเป็นที่เรียบร้อย อยากถามเพื่อนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันว่าท่านจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต และถ้าหากท่านอยากเป็นจริงๆท่านจะทำอย่างไร

Offline mrpassage69

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 116
 ถ้าพี่ยังมีไฟและสอบได้อีกปีแนะนำให้ลองดูอีกครั้ง แต่ถ้าหมดโอกาสสอบแล้วแต่ยังมีใจที่จะบินอยู่ ถ้ามีทุนส่วนตัวไม่เดือดร้อนครอบครัวก็ลุยเลยครับอย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปนาน E30

Offline ImpromptuWitz

  • Thai Aviation Services -CoPilot
  • นักรบ
  • ***
  • Posts: 189
ปีหน้าถ้าสอบ = มีโอกาสสอบได้ = มีโอกาสได้ติดปีกเปนนักเรียนทุน

ปีหน้าถ้าไม่สอบ = ไม่มีโอกาสติดปีกในฐานะนักเรียนทุนอีกแล้วตลอดชีวิต

เอาไปคิดดูนะครับ

 O29

ทั้งนี้ การเตรียมตัวที่ดีคือสิ่งสำคัญสำหรับทุกสิ่งครับ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสอบนักบิน

Offline ta86

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 129
ถ้าคุณ jujupatt เกิดหลังจากวันที่ 1 คุลาคมเป็นต้นไปและปีหน้าการบินไทยยังเปิดรับสมัครอยู่ก็ยังลองได้อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ

ถ้าเกิดหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2529 เป็นต้นก็ลองสมัครแอร์เอเชียได้นะครับ เพิ่งเปิดรับสมัครไปเมื่อคืนที่ผ่านนี้เอง

Offline poorpalad

  • ประชาชน
  • Posts: 4
อายุเท่ากันเลยครับ ผมติดแบนการบินไทย 3 ปี พ้นแบนปีหน้าก็อายุ 30 ปี
แต่ผมเกิดธันวาคม 2528 ยังมีโอกาสสอบได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น (หวังว่าปีหน้าการบินไทยคงไม่ลดอายุนะ กลัวเหมือนแอร์เอเชียที่นับจาก 1 มกราคม)
ตอนนี้ผมก็เครียดสุดๆแล้วครับ เพราะเกิดรัฐประหาร มีผลต่อการบินไทยแน่นอน
ผมรอคอยมา 3 ปี นับเวลาทุกวัน ทุกวินาที
กลัวปีหน้าไม่เปิดสอบ กลัวมากด้วยครับ
แต่อย่างไรก็ต้องสู้ครับ เตรียมตัว
คุณ  jujupatt เรามาเตรียมตัวด้วยกันครับ
แม้สายการบินอื่นสอบไม่ได้แล้ว แต่ยังมีนักบิน ฮ. ของ TAS ที่รับถึงอายุ 35 ปีครับ(เสียดายปีนี้รู้ช้า ไม่ได้สอบ)
คุณ jujupatt ลองหาข้อมูลดูนะครับ แต่ไม่รู้ว่าปีหน้า TAS จะเปิดสอบหรือเปล่า ฝากถามเพื่อนๆด้วยครับ แต่ยังไงก็เตรียมตัวไปก่อนเลยครับ
อย่างน้อยภาษาอังกฤษก็ยังได้ใช้ โชคดีนะครับ

Offline NTdream

  • ประชาชน
  • Posts: 1
 SOC2 สู้ ๆ ครับหัวอกเดียวกันซักวันต้องถึงฝัน ถ้าปีหน้าการบินไทยปรับเกณฑ์ก็คงดีเปน 1 jan 1985 แต่คงเปนเรื่องที่เปนไปได้ยากเพราะการบินเปนรัฐวิสาหกิจ ^_^ คงต้องนับเริ่มจาก oct ไม่ก็คงต้องรอลุ้นสายการบินอื่นแต่ Trend Sp แต่ละสายการบินไม่เกิน 28 ทั้งนั้น คงต้องรอดูต่อไปครับ ไม่ก็ทางสุดท้ายคงลงทุนด้วยตัวเองเลย ผมไม่มั่นใจว่า CPL AP Block 4 Phrase ของ catc TG เค้ารับรองหลักสูตรสอบ Qp ได้รึเปล่า ? ถ้าได้ก็คงเปนอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจเพราะมันทะยอยเรียนได้สำหรับคนยังทำงานอยู่ครับ ถ้ายังไม่ท้อเราก็มาสู้และหาทางด้วยกันครับ ^^ SOC1 SOC2 SOC3 O19 O19 O19 O19 O19 O19 สักวันนึงท้องฟ้าคงจะต้องเปิดและเปนของเราครับ ^_^

Offline jujupatt

  • ประชาชน
  • Posts: 7
ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอแชร์ให้ฟังนิดนึงละกันนะครับ ผมได้บทเรียนอะไรเยอะเหมือนกันจากการสอบครั้งนี้ เผื่อมีน้องๆมาอ่าน จะได้ปรับใช้กันได้ ไม่เสียเวลาอ่านแน่ครับ

ผมเกิดมีนา 2528 มารู้ตัวว่าอยากเป็นนักบินตอนปี 2012 หลังจากขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปทำงานที่เยอรมัน เครื่องที่ขึ้นตอนนั้นคือจัมโบ้ Boeing 747 ซึ่งผมจำได้ดีเพราะมันมีสองชั้นตรงส่วนหัวแล้วผมนั่งอยู่ชั้นสอง ระหว่างทางที่บินผมตื่นเต้นตั้งแต่เข้าไปใน departure zone ตามประสาคนไม่เคยบิน ที่สนามบินมิวนิคผมมีโอกาสได้เห็นกัปตัน นักบิน กระเป๋าอยู่ในไลน์ใกล้ๆของผม ตอนนั้นบอกตรงๆว่าเป็นความรู้สึกที่แปลกๆที่เข้ามาคืออธิบายไม่ได้ว่าทำไม รู้แต่ว่าผมอยากทำงานที่โตขึ้นมาเป็นแบบพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ผมจึงมีความคิดที่อยากจะสอบ ประกอบกับมีเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ติดนักบิน tg รุ่น 2007 อยู่แล้วแต่ไม่เคยถามถึงอาชีพของเค้าเลย พอได้มาลองถามลองศึกษายิ่งรู้สึกว่ามันตอกย้ำความต้องการที่จะบินของเราจริงๆ แต่ด้วยงานที่ต้องไปต่างประเทศทั้ง 2012-2013 จึงไม่ได้สอบทั้งสองปี..

จนกระทั่งปีนี้ที่เคลียร์งานที่เป็นพาทที่ต้องเดินทางได้หมด และเป็นปีสุดท้ายที่ผมสอบการบินไทยได้ ผมเริ่มแพลนอ่านหนังสือตอนต้นปี ตื่นตีห้า อ่านจนเจ็ดโมง ไปทำงาน กลับมาสองทุ่ม อ่านจนตีหนึ่งตีสอง ช่วงใกล้ๆจะถึงวันสอบยิ่งหนัก มีติวกับเพื่อนแทบทุกวัน เป็นอย่างนี้อยู่ซักพักจนถึงวันสอบ..

ตอนสอบก็ปกติ General knowledge Aptitude English สอบจบปุ๊บเรารู้เลยว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง
หลักๆก็ General knowledge ที่เรารนเกินไปบางทีอ่านโจทย์ไม่หมดแล้วไปตอบ มาเชคกับเพื่อนมีข้อที่อ่านโจทย์พลาดไปบ้างเหมือนกัน บางข้อเรารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่รนก็ตอบผิดไปเองก็มี
Aptitude มีพาทนึงที่ทำช้ามาก คือ scanning ทำไปห้าข้อแบบไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าด้วย

ตลอดเวลาที่รอผล ยังวนเวียนคิดถึงสองเรื่องนี้ตลอด..

พอมาถึงวันประกาศมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..วันที่รู้ว่าไม่มีชื่อเรา นั่งเชคแล้วเชคอีกมันก็ไม่มีจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเอายังไงต่อไป เพราะไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรต่อถ้าไม่ได้เป็นนักบิน ตอนนี้ก็ยังไม่หายเคว้ง (ฮ่าๆ)

ที่ผมเสียใจที่สุดคือตอนปี2013ช่วงสอบรอบแรกนั้นผมอยู่ที่ไทยแต่ไม่ได้ลงสอบเพราะคิดว่าจะสอบปีถัดไปเนื่องจากปีนั้นต้องบินไปออสเตรเลีย นี่แหละที่เจ็บใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่ลองไปสอบในปี 2013 เพื่อจะได้ลองสนามและเห็นข้อสอบจริงๆก่อน ถ้าได้สอบรอบแรกแล้วรอบอื่นจะตกก็ยังมีโอกาสอีกปีนึง พอรู้ว่าจุดอ่อนเราคือตรงไหนก็มาอุดรูรั่ว อันไหนทำได้ดีแล้วก็ประคองไว้

ที่เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือ เพื่อนเราจะบอกเสมอว่านักบินไม่ได้ต้องการคนเก่งแต่ต้องการคนที่ใช่ ถูกเลยครับ คุณไม่จำเป็นต้องทำได้คะแนนเต็มทุกพาท แต่ที่สำคัญคือคุณต้องทำให้มัน "ได้" ทุกพาท

ฉะนั้นน้องๆที่กำลังจะสอบในรุ่นต่อๆไปนะครับ พี่อยากฝากไว้แค่สองสามเรื่อง
1. ถ้ามีโอกาสสอบ แม้ว่าไม่พร้อม ให้ลองลงสอบดูก่อน ดูว่าเราได้เรื่องไหนไม่ได้เรื่องไหน จะได้อุดรูรั่วทั่งหมดในปีต่อๆไป
2. ฝึกข้อสอบ aptitude ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ฝึกให้ครบทุกแบบที่จะหามาได้ จะได้ไม่มาเจอครั้งแรกในห้องสอบแล้วลนแบบพี่
3. นักบินไม่ได้ต้องการคนเก่ง แต่ต้องการคนที่ "ครบ" ทุกอย่าง

ยังไงทุนการบินไทยพี่คงลงสอบไม่ได้แล้ว ตอนนี้หาข้อมูลของ TAS ที่บินปีกหมุนอยู่ แต่ปีนี้เริ่มกันตั้งแต่กุมภาแล้ว ยังไงถ้าปีหน้ามีโอกาสสอบก็คิดว่าจะลงสมัคร ยังไงขอให้น้องๆและเพื่อนๆทุกท่านโชคดีนะครับ หวังว่าซักวันเราคงมีโอกาสได้เจอกันบนฟ้า บินคนละแบบแต่ก็ยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันนะ :))

Offline ImpromptuWitz

  • Thai Aviation Services -CoPilot
  • นักรบ
  • ***
  • Posts: 189
ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอแชร์ให้ฟังนิดนึงละกันนะครับ ผมได้บทเรียนอะไรเยอะเหมือนกันจากการสอบครั้งนี้ เผื่อมีน้องๆมาอ่าน จะได้ปรับใช้กันได้ ไม่เสียเวลาอ่านแน่ครับ

ผมเกิดมีนา 2528 มารู้ตัวว่าอยากเป็นนักบินตอนปี 2012 หลังจากขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปทำงานที่เยอรมัน เครื่องที่ขึ้นตอนนั้นคือจัมโบ้ Boeing 747 ซึ่งผมจำได้ดีเพราะมันมีสองชั้นตรงส่วนหัวแล้วผมนั่งอยู่ชั้นสอง ระหว่างทางที่บินผมตื่นเต้นตั้งแต่เข้าไปใน departure zone ตามประสาคนไม่เคยบิน ที่สนามบินมิวนิคผมมีโอกาสได้เห็นกัปตัน นักบิน กระเป๋าอยู่ในไลน์ใกล้ๆของผม ตอนนั้นบอกตรงๆว่าเป็นความรู้สึกที่แปลกๆที่เข้ามาคืออธิบายไม่ได้ว่าทำไม รู้แต่ว่าผมอยากทำงานที่โตขึ้นมาเป็นแบบพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ผมจึงมีความคิดที่อยากจะสอบ ประกอบกับมีเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ติดนักบิน tg รุ่น 2007 อยู่แล้วแต่ไม่เคยถามถึงอาชีพของเค้าเลย พอได้มาลองถามลองศึกษายิ่งรู้สึกว่ามันตอกย้ำความต้องการที่จะบินของเราจริงๆ แต่ด้วยงานที่ต้องไปต่างประเทศทั้ง 2012-2013 จึงไม่ได้สอบทั้งสองปี..

จนกระทั่งปีนี้ที่เคลียร์งานที่เป็นพาทที่ต้องเดินทางได้หมด และเป็นปีสุดท้ายที่ผมสอบการบินไทยได้ ผมเริ่มแพลนอ่านหนังสือตอนต้นปี ตื่นตีห้า อ่านจนเจ็ดโมง ไปทำงาน กลับมาสองทุ่ม อ่านจนตีหนึ่งตีสอง ช่วงใกล้ๆจะถึงวันสอบยิ่งหนัก มีติวกับเพื่อนแทบทุกวัน เป็นอย่างนี้อยู่ซักพักจนถึงวันสอบ..

ตอนสอบก็ปกติ General knowledge Aptitude English สอบจบปุ๊บเรารู้เลยว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง
หลักๆก็ General knowledge ที่เรารนเกินไปบางทีอ่านโจทย์ไม่หมดแล้วไปตอบ มาเชคกับเพื่อนมีข้อที่อ่านโจทย์พลาดไปบ้างเหมือนกัน บางข้อเรารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่รนก็ตอบผิดไปเองก็มี
Aptitude มีพาทนึงที่ทำช้ามาก คือ scanning ทำไปห้าข้อแบบไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าด้วย

ตลอดเวลาที่รอผล ยังวนเวียนคิดถึงสองเรื่องนี้ตลอด..

พอมาถึงวันประกาศมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..วันที่รู้ว่าไม่มีชื่อเรา นั่งเชคแล้วเชคอีกมันก็ไม่มีจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเอายังไงต่อไป เพราะไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรต่อถ้าไม่ได้เป็นนักบิน ตอนนี้ก็ยังไม่หายเคว้ง (ฮ่าๆ)

ที่ผมเสียใจที่สุดคือตอนปี2013ช่วงสอบรอบแรกนั้นผมอยู่ที่ไทยแต่ไม่ได้ลงสอบเพราะคิดว่าจะสอบปีถัดไปเนื่องจากปีนั้นต้องบินไปออสเตรเลีย นี่แหละที่เจ็บใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่ลองไปสอบในปี 2013 เพื่อจะได้ลองสนามและเห็นข้อสอบจริงๆก่อน ถ้าได้สอบรอบแรกแล้วรอบอื่นจะตกก็ยังมีโอกาสอีกปีนึง พอรู้ว่าจุดอ่อนเราคือตรงไหนก็มาอุดรูรั่ว อันไหนทำได้ดีแล้วก็ประคองไว้

ที่เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือ เพื่อนเราจะบอกเสมอว่านักบินไม่ได้ต้องการคนเก่งแต่ต้องการคนที่ใช่ ถูกเลยครับ คุณไม่จำเป็นต้องทำได้คะแนนเต็มทุกพาท แต่ที่สำคัญคือคุณต้องทำให้มัน "ได้" ทุกพาท

ฉะนั้นน้องๆที่กำลังจะสอบในรุ่นต่อๆไปนะครับ พี่อยากฝากไว้แค่สองสามเรื่อง
1. ถ้ามีโอกาสสอบ แม้ว่าไม่พร้อม ให้ลองลงสอบดูก่อน ดูว่าเราได้เรื่องไหนไม่ได้เรื่องไหน จะได้อุดรูรั่วทั่งหมดในปีต่อๆไป
2. ฝึกข้อสอบ aptitude ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ฝึกให้ครบทุกแบบที่จะหามาได้ จะได้ไม่มาเจอครั้งแรกในห้องสอบแล้วลนแบบพี่
3. นักบินไม่ได้ต้องการคนเก่ง แต่ต้องการคนที่ "ครบ" ทุกอย่าง

ยังไงทุนการบินไทยพี่คงลงสอบไม่ได้แล้ว ตอนนี้หาข้อมูลของ TAS ที่บินปีกหมุนอยู่ แต่ปีนี้เริ่มกันตั้งแต่กุมภาแล้ว ยังไงถ้าปีหน้ามีโอกาสสอบก็คิดว่าจะลงสมัคร ยังไงขอให้น้องๆและเพื่อนๆทุกท่านโชคดีนะครับ หวังว่าซักวันเราคงมีโอกาสได้เจอกันบนฟ้า บินคนละแบบแต่ก็ยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันนะ :))

เยี่ยมครับ มาเลยครับ

มีท่านนึงที่มาเรียนผลัดเดียวกับผมอายุ 35 ครับ

ถ้ารักท้องฟ้า รักงานท้าทาย อย่ารอครับ ลุย O02

Offline poorpalad

  • ประชาชน
  • Posts: 4
ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอแชร์ให้ฟังนิดนึงละกันนะครับ ผมได้บทเรียนอะไรเยอะเหมือนกันจากการสอบครั้งนี้ เผื่อมีน้องๆมาอ่าน จะได้ปรับใช้กันได้ ไม่เสียเวลาอ่านแน่ครับ

ผมเกิดมีนา 2528 มารู้ตัวว่าอยากเป็นนักบินตอนปี 2012 หลังจากขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปทำงานที่เยอรมัน เครื่องที่ขึ้นตอนนั้นคือจัมโบ้ Boeing 747 ซึ่งผมจำได้ดีเพราะมันมีสองชั้นตรงส่วนหัวแล้วผมนั่งอยู่ชั้นสอง ระหว่างทางที่บินผมตื่นเต้นตั้งแต่เข้าไปใน departure zone ตามประสาคนไม่เคยบิน ที่สนามบินมิวนิคผมมีโอกาสได้เห็นกัปตัน นักบิน กระเป๋าอยู่ในไลน์ใกล้ๆของผม ตอนนั้นบอกตรงๆว่าเป็นความรู้สึกที่แปลกๆที่เข้ามาคืออธิบายไม่ได้ว่าทำไม รู้แต่ว่าผมอยากทำงานที่โตขึ้นมาเป็นแบบพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ผมจึงมีความคิดที่อยากจะสอบ ประกอบกับมีเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ติดนักบิน tg รุ่น 2007 อยู่แล้วแต่ไม่เคยถามถึงอาชีพของเค้าเลย พอได้มาลองถามลองศึกษายิ่งรู้สึกว่ามันตอกย้ำความต้องการที่จะบินของเราจริงๆ แต่ด้วยงานที่ต้องไปต่างประเทศทั้ง 2012-2013 จึงไม่ได้สอบทั้งสองปี..

จนกระทั่งปีนี้ที่เคลียร์งานที่เป็นพาทที่ต้องเดินทางได้หมด และเป็นปีสุดท้ายที่ผมสอบการบินไทยได้ ผมเริ่มแพลนอ่านหนังสือตอนต้นปี ตื่นตีห้า อ่านจนเจ็ดโมง ไปทำงาน กลับมาสองทุ่ม อ่านจนตีหนึ่งตีสอง ช่วงใกล้ๆจะถึงวันสอบยิ่งหนัก มีติวกับเพื่อนแทบทุกวัน เป็นอย่างนี้อยู่ซักพักจนถึงวันสอบ..

ตอนสอบก็ปกติ General knowledge Aptitude English สอบจบปุ๊บเรารู้เลยว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง
หลักๆก็ General knowledge ที่เรารนเกินไปบางทีอ่านโจทย์ไม่หมดแล้วไปตอบ มาเชคกับเพื่อนมีข้อที่อ่านโจทย์พลาดไปบ้างเหมือนกัน บางข้อเรารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่รนก็ตอบผิดไปเองก็มี
Aptitude มีพาทนึงที่ทำช้ามาก คือ scanning ทำไปห้าข้อแบบไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าด้วย

ตลอดเวลาที่รอผล ยังวนเวียนคิดถึงสองเรื่องนี้ตลอด..

พอมาถึงวันประกาศมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..วันที่รู้ว่าไม่มีชื่อเรา นั่งเชคแล้วเชคอีกมันก็ไม่มีจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเอายังไงต่อไป เพราะไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรต่อถ้าไม่ได้เป็นนักบิน ตอนนี้ก็ยังไม่หายเคว้ง (ฮ่าๆ)

ที่ผมเสียใจที่สุดคือตอนปี2013ช่วงสอบรอบแรกนั้นผมอยู่ที่ไทยแต่ไม่ได้ลงสอบเพราะคิดว่าจะสอบปีถัดไปเนื่องจากปีนั้นต้องบินไปออสเตรเลีย นี่แหละที่เจ็บใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่ลองไปสอบในปี 2013 เพื่อจะได้ลองสนามและเห็นข้อสอบจริงๆก่อน ถ้าได้สอบรอบแรกแล้วรอบอื่นจะตกก็ยังมีโอกาสอีกปีนึง พอรู้ว่าจุดอ่อนเราคือตรงไหนก็มาอุดรูรั่ว อันไหนทำได้ดีแล้วก็ประคองไว้

ที่เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือ เพื่อนเราจะบอกเสมอว่านักบินไม่ได้ต้องการคนเก่งแต่ต้องการคนที่ใช่ ถูกเลยครับ คุณไม่จำเป็นต้องทำได้คะแนนเต็มทุกพาท แต่ที่สำคัญคือคุณต้องทำให้มัน "ได้" ทุกพาท

ฉะนั้นน้องๆที่กำลังจะสอบในรุ่นต่อๆไปนะครับ พี่อยากฝากไว้แค่สองสามเรื่อง
1. ถ้ามีโอกาสสอบ แม้ว่าไม่พร้อม ให้ลองลงสอบดูก่อน ดูว่าเราได้เรื่องไหนไม่ได้เรื่องไหน จะได้อุดรูรั่วทั่งหมดในปีต่อๆไป
2. ฝึกข้อสอบ aptitude ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ฝึกให้ครบทุกแบบที่จะหามาได้ จะได้ไม่มาเจอครั้งแรกในห้องสอบแล้วลนแบบพี่
3. นักบินไม่ได้ต้องการคนเก่ง แต่ต้องการคนที่ "ครบ" ทุกอย่าง

ยังไงทุนการบินไทยพี่คงลงสอบไม่ได้แล้ว ตอนนี้หาข้อมูลของ TAS ที่บินปีกหมุนอยู่ แต่ปีนี้เริ่มกันตั้งแต่กุมภาแล้ว ยังไงถ้าปีหน้ามีโอกาสสอบก็คิดว่าจะลงสมัคร ยังไงขอให้น้องๆและเพื่อนๆทุกท่านโชคดีนะครับ หวังว่าซักวันเราคงมีโอกาสได้เจอกันบนฟ้า บินคนละแบบแต่ก็ยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันนะ :))

ปีหน้าไปสอบ TAS ด้วยกันครับ (ถ้าเค้าเปิดอีกนะ หวั่นๆอยู่เหมือนกัน) แต่อย่างไรก็สู้ๆครับ

Offline sakurangi7

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 56
ทำงานเก็บตังค์แล้วเรียนเองครับ แต่ทำงานราชการนี่ ทำยังงัยก็เก็บไม่ได้ 2.3ล้าน  O21
ผมว่า จะย้ายงานไปส่วนกลาง แล้วหาทางกู้เงินของไทยพาณิช หรือธนะชาติที่มีโครงการกู็เงินเรียนนักบินอยู่ แล้วลงเรียนหลังเลิกงานราชการ นี่คงเป็นทางออกสุดท้ายของผมล่ะ

ปล....ผมตกรอบแรกมา3ปีรวด 2012 2013 2014  หลายคนคงคิดว่าคงไม่เหมาะกับเราแล้ว หรือเราคงไม่ใช่สำหรับอาชีพนักบิน แต่ใครจะรู้ล่ะ แค่ตกรอบแรกเอง ถ้าเป็นรอบโปรก็ว่าไปอย่าง  สู้ๆครับ
ปล2...ถ้าผมเลือกทางที่พูดไปนั้นจริง สงสัยคงอดแต่งงานไปอีกนาน   ฮ่าาาา

Offline domdome

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 306
ทำงานเก็บตังค์แล้วเรียนเองครับ แต่ทำงานราชการนี่ ทำยังงัยก็เก็บไม่ได้ 2.3ล้าน  O21
ผมว่า จะย้ายงานไปส่วนกลาง แล้วหาทางกู้เงินของไทยพาณิช หรือธนะชาติที่มีโครงการกู็เงินเรียนนักบินอยู่ แล้วลงเรียนหลังเลิกงานราชการ นี่คงเป็นทางออกสุดท้ายของผมล่ะ

ปล....ผมตกรอบแรกมา3ปีรวด 2012 2013 2014  หลายคนคงคิดว่าคงไม่เหมาะกับเราแล้ว หรือเราคงไม่ใช่สำหรับอาชีพนักบิน แต่ใครจะรู้ล่ะ แค่ตกรอบแรกเอง ถ้าเป็นรอบโปรก็ว่าไปอย่าง  สู้ๆครับ
ปล2...ถ้าผมเลือกทางที่พูดไปนั้นจริง สงสัยคงอดแต่งงานไปอีกนาน   ฮ่าาาา


ผมสอบได้ปีหน้าครับ พ้นโทษแบนพอดีมาพยายามด้วยกันครับ

Offline sakurangi7

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 56
ทำงานเก็บตังค์แล้วเรียนเองครับ แต่ทำงานราชการนี่ ทำยังงัยก็เก็บไม่ได้ 2.3ล้าน  O21
ผมว่า จะย้ายงานไปส่วนกลาง แล้วหาทางกู้เงินของไทยพาณิช หรือธนะชาติที่มีโครงการกู็เงินเรียนนักบินอยู่ แล้วลงเรียนหลังเลิกงานราชการ นี่คงเป็นทางออกสุดท้ายของผมล่ะ

ปล....ผมตกรอบแรกมา3ปีรวด 2012 2013 2014  หลายคนคงคิดว่าคงไม่เหมาะกับเราแล้ว หรือเราคงไม่ใช่สำหรับอาชีพนักบิน แต่ใครจะรู้ล่ะ แค่ตกรอบแรกเอง ถ้าเป็นรอบโปรก็ว่าไปอย่าง  สู้ๆครับ
ปล2...ถ้าผมเลือกทางที่พูดไปนั้นจริง สงสัยคงอดแต่งงานไปอีกนาน   ฮ่าาาา


ผมสอบได้ปีหน้าครับ พ้นโทษแบนพอดีมาพยายามด้วยกันครับ


ผมเกิด 17 พค. 28 น่ะคุณโดม โอกาศที่จะสอบ SP อีก แทบไม่มี เพราะ กบท.นับตั้งแต่1ตุลา  ยังงัยๆก็ขอบคุณน่ะครับ
 E08

Offline Qdevil

  • ประชาชน
  • Posts: 1
ไม่นึกว่ายังมีคนที่หัวอกเดียวกันกับเรา
         ผมเองก็เกิด 1985 ตกรอบแรกปีนี้เป็นปีที่สามละ 2012 2013 2014 ต้องยอมรับว่าปีนี้หวังไว้ค่อนข้างมาก ว่าจะไปได้ไกลกว่านี้ เพราะผมลงทุนลาออกจากงานมาร่วม 3 เดือน เพื่อเตรียมตัวสอบ จากประสบการณ์ในครั้งก่อน ทำให้ได้เรียนรู้และพยามแก้ไขข้อผิดพลาดตัวเอง ทำให้ครั้งนี้คิดว่าทำได้ดีกว่าครั้งก่อนๆมาก แต่พบว่าก็ยังไม่ดีพอ การเป็นนักบินเป็นอาชีพที่ผมไฝ่ฝันมาตั้งแต่เร่ิมจำความได้ การที่ไม่ผ่านรอบแรกในปีนี้อีก ทำให้ผมเหวอเหมือนกัน และเคว้งคว้างมาก เพราะได้ลาออกจากงานมาและไม่คิดจะทำอาชีพอื่นเลย แต่ยังดีที่ผมเกิดปลายเดือน ตุลาคม ยังไม่โอกาสสอบได้อีก 1 ปี
         ตอนนี้จึงพยายามหางานใหม่ และปีหน้าข้าจะมาทวงคืน  O30
         ปล.ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน(และตัวเอง 555) ถ้าคุณยังมีโอกาศ สู้ต่อไปเถอะครับ รับรองคุ้ม การได้ทำงานที่ฝันไว้มันยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

Offline sakurangi7

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 56
ไม่นึกว่ายังมีคนที่หัวอกเดียวกันกับเรา
         ผมเองก็เกิด 1985 ตกรอบแรกปีนี้เป็นปีที่สามละ 2012 2013 2014 ต้องยอมรับว่าปีนี้หวังไว้ค่อนข้างมาก ว่าจะไปได้ไกลกว่านี้ เพราะผมลงทุนลาออกจากงานมาร่วม 3 เดือน เพื่อเตรียมตัวสอบ จากประสบการณ์ในครั้งก่อน ทำให้ได้เรียนรู้และพยามแก้ไขข้อผิดพลาดตัวเอง ทำให้ครั้งนี้คิดว่าทำได้ดีกว่าครั้งก่อนๆมาก แต่พบว่าก็ยังไม่ดีพอ การเป็นนักบินเป็นอาชีพที่ผมไฝ่ฝันมาตั้งแต่เร่ิมจำความได้ การที่ไม่ผ่านรอบแรกในปีนี้อีก ทำให้ผมเหวอเหมือนกัน และเคว้งคว้างมาก เพราะได้ลาออกจากงานมาและไม่คิดจะทำอาชีพอื่นเลย แต่ยังดีที่ผมเกิดปลายเดือน ตุลาคม ยังไม่โอกาสสอบได้อีก 1 ปี
         ตอนนี้จึงพยายามหางานใหม่ และปีหน้าข้าจะมาทวงคืน  O30
         ปล.ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน(และตัวเอง 555) ถ้าคุณยังมีโอกาศ สู้ต่อไปเถอะครับ รับรองคุ้ม การได้ทำงานที่ฝันไว้มันยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

คุณครับ....ผมก็เพิ่งลาออกมา ออกตอนเดือนมีนา เพื่อเตรียมสอบนักบิน แต่ก็แอบไปสอบงานราชการสำรองไว้ แล้วก็สอบราชการได้ รอเรียกบรรจุอยู่  ตอนที่ผลนักบินออก ผมก็เหวอมากมายจริงๆ ความรู้สึกมันเหมือนกับว่า แล้วตรูจะทำอะไรกิน เพราะจิตใจผมผูกติดกับมัน นึกถึงมัน เกือบทุกวันมาได้5ปีแล้ว แต่ตอนนี้เลิกคิดเรื่อง SPแล้ว กำลังหาทางเป็น QP ต่อครับ

Offline Witski

  • StudentPilot
  • ประชาชน
  • ***
  • Posts: 7
ถ้ามีเวลาเตรียมตัวอีกปีแล้วยังสอบได้ก็เต็มที่กับมันเถอะครับ ไว้ถ้าไม่สามารถสอบได้จริงๆแล้วค่อยมาตัดสินใจว่าจะไปยังไงต่อดี สู้ๆนะครับ

Offline noppakul

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 237
ผมในฐานะที่พยายามล่าฝันมาก็เข้าปีที่ 4 ครั้งที่ 9 TG2014 ผ่านรอบแรกได้

แต่ TG 2011-2013 ตกรอบแรก
TAA 2011-2013 ตกรอบแรก
PG 2013-2014 ตกรอบแรก

8ครั้ง ที่ผมตก ไม่มีครั้งใดที่ทำให้ผมเสียใจ ผมคิดว่า ความพยายามในชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน
ผมจึงพยายามมากกว่าคนอื่น ผมจำได้ว่า หลังจาก ตกTG 2013 ปีที่แล้ว

ผมเริ่มอ่านตั้งแต่ตุลาคม จนถึงวันสอบ รวมๆก็เกือบ 8 เดือน ที่ผมทุ่มเทอ่านแล้วฝึก ฝึกๆๆๆๆ แล้วก็ฝึก แอพทุกอันที่ได้จาก
พี่ๆน้อง SP TG TAA ทุกๆปี ที่ได้เป็นส่งต่อให้ แล้วหวังว่าปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะสอบ

เพราะผมเหนื่อยเหลือเกิน ทำงานเป็นกะ อ่านหนังสือ เรียนภาษาอังกฤษ ทำทุกอย่างจนตัวเป็นเกลียว แค่หวังว่าจะผ่านรอบแรกได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ปีนี้ผมมีเวลาเตรียมตัวอ่านและฝึกจริงๆ แค่3วันก่อนสอบ แต่ทั้ง8เดือน ผมสะสมความรู้และเก็บเกี่ยวทุกๆสิ่งที่ผมสามารถจะทำได้ ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ เพราะทุกๆครั้งที่ล้ม ผมยังมีแรงยืนขึ้นมาใหม่
และหวังทุกๆครั้ง ว่าจะล้มกำแพงที่มีอยู่ ทุกๆข้ออ้างที่สร้างมาว่าไม่มีเวลาตลอดเวลา3ปีที่เสียไป

ขอทุ่มเทให้มันที่สุดอีกสักครั้ง ปีนี้ผมถึงผ่านได้ เพราะผมไม่ยอมแพ้

ผมหวังว่าทุกๆคนที่ยังมีโอกาส ยังสอบได้ อย่าท้อแต่พยายามให้มากขึ้น ฝึกให้มากขึ้น ทำให้มากขึ้น

ปีนี้ผมทำ gen 42 (ถูก35), eng 80 ถูก 68+, app คิดเลข25 ถูกหมด /series 12 (ถูก11)/ แตกต่าง เหมือนกัน 12 ข้อ (ถูก10) / สแกน 8ข้อ มั่นใจถูกหมด / memory 25ถูกหมด

มีคนทำได้เยอะกว่าผมมาก แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ผ่าน แต่ผมมั่นใจว่าผมกาทุกข้อที่ 100% ถ้าไม่ชัวร์ ผมก็ไม่กา

ปีนี้ก็จะทำให้ได้ไกลที่สุด แล้วจะมาคอยอัพเดทให้นะครับ

Offline sakurangi7

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 56
ไปให้ถึงฝั่งให้ได้น่ะครับคุณ noppakul ผมเอาใจช่วยเต็มที่ เห็นหน้าในเวปนี้กันมานาน  อิอิ
ส่วนผมมันจบแล้วจริงๆสำหรับเส้นทาง SP เพราะเกิด พค.1985 อย่างน้อยก็รู้สึกยินดีและสุขใจไปด้วยที่เห็นคนที่สู้และเดินทางมาด้วยกันสามารถไปสู้เส้นชัยได้ แม้ตัวเราเองจะทำไม่ได้ครับผม สู้ๆคับ เอาใจช่วยเสมอคับผม E30

Offline ta86

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 129
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับคุณ noppakul ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ
ส่วนเพื่อนๆคนอื่นๆที่อายุเกินก็ขอให้ลองต่อไปกับ TAS นะครับ

Offline mrpassage69

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 116
ผมในฐานะที่พยายามล่าฝันมาก็เข้าปีที่ 4 ครั้งที่ 9 TG2014 ผ่านรอบแรกได้

แต่ TG 2011-2013 ตกรอบแรก
TAA 2011-2013 ตกรอบแรก
PG 2013-2014 ตกรอบแรก

8ครั้ง ที่ผมตก ไม่มีครั้งใดที่ทำให้ผมเสียใจ ผมคิดว่า ความพยายามในชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน
ผมจึงพยายามมากกว่าคนอื่น ผมจำได้ว่า หลังจาก ตกTG 2013 ปีที่แล้ว

ผมเริ่มอ่านตั้งแต่ตุลาคม จนถึงวันสอบ รวมๆก็เกือบ 8 เดือน ที่ผมทุ่มเทอ่านแล้วฝึก ฝึกๆๆๆๆ แล้วก็ฝึก แอพทุกอันที่ได้จาก
พี่ๆน้อง SP TG TAA ทุกๆปี ที่ได้เป็นส่งต่อให้ แล้วหวังว่าปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะสอบ

เพราะผมเหนื่อยเหลือเกิน ทำงานเป็นกะ อ่านหนังสือ เรียนภาษาอังกฤษ ทำทุกอย่างจนตัวเป็นเกลียว แค่หวังว่าจะผ่านรอบแรกได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ปีนี้ผมมีเวลาเตรียมตัวอ่านและฝึกจริงๆ แค่3วันก่อนสอบ แต่ทั้ง8เดือน ผมสะสมความรู้และเก็บเกี่ยวทุกๆสิ่งที่ผมสามารถจะทำได้ ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ เพราะทุกๆครั้งที่ล้ม ผมยังมีแรงยืนขึ้นมาใหม่
และหวังทุกๆครั้ง ว่าจะล้มกำแพงที่มีอยู่ ทุกๆข้ออ้างที่สร้างมาว่าไม่มีเวลาตลอดเวลา3ปีที่เสียไป

ขอทุ่มเทให้มันที่สุดอีกสักครั้ง ปีนี้ผมถึงผ่านได้ เพราะผมไม่ยอมแพ้

ผมหวังว่าทุกๆคนที่ยังมีโอกาส ยังสอบได้ อย่าท้อแต่พยายามให้มากขึ้น ฝึกให้มากขึ้น ทำให้มากขึ้น

ปีนี้ผมทำ gen 42 (ถูก35), eng 80 ถูก 68+, app คิดเลข25 ถูกหมด /series 12 (ถูก11)/ แตกต่าง เหมือนกัน 12 ข้อ (ถูก10) / สแกน 8ข้อ มั่นใจถูกหมด / memory 25ถูกหมด

มีคนทำได้เยอะกว่าผมมาก แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ผ่าน แต่ผมมั่นใจว่าผมกาทุกข้อที่ 100% ถ้าไม่ชัวร์ ผมก็ไม่กา

ปีนี้ก็จะทำให้ได้ไกลที่สุด แล้วจะมาคอยอัพเดทให้นะครับ
โห ประสบการณ์พี่ช่างโชกโชน พอมองตัวเองแล้วเด็กๆไปเลยครับ
ยังก็พยายามให้เต็มที่นะครับ คว้าความฝันมาให้ได้สู้ๆ

Offline noppakul

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 237
ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่าน นะครับ สู้ๆนะครับ
sakurangi7  ta86  mrpassage69

ขอให้โชคดีครับ

Offline Jazzja

  • ประชาชน
  • Posts: 10
ผมในฐานะที่พยายามล่าฝันมาก็เข้าปีที่ 4 ครั้งที่ 9 TG2014 ผ่านรอบแรกได้

แต่ TG 2011-2013 ตกรอบแรก
TAA 2011-2013 ตกรอบแรก
PG 2013-2014 ตกรอบแรก

8ครั้ง ที่ผมตก ไม่มีครั้งใดที่ทำให้ผมเสียใจ ผมคิดว่า ความพยายามในชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน
ผมจึงพยายามมากกว่าคนอื่น ผมจำได้ว่า หลังจาก ตกTG 2013 ปีที่แล้ว

ผมเริ่มอ่านตั้งแต่ตุลาคม จนถึงวันสอบ รวมๆก็เกือบ 8 เดือน ที่ผมทุ่มเทอ่านแล้วฝึก ฝึกๆๆๆๆ แล้วก็ฝึก แอพทุกอันที่ได้จาก
พี่ๆน้อง SP TG TAA ทุกๆปี ที่ได้เป็นส่งต่อให้ แล้วหวังว่าปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะสอบ

เพราะผมเหนื่อยเหลือเกิน ทำงานเป็นกะ อ่านหนังสือ เรียนภาษาอังกฤษ ทำทุกอย่างจนตัวเป็นเกลียว แค่หวังว่าจะผ่านรอบแรกได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ปีนี้ผมมีเวลาเตรียมตัวอ่านและฝึกจริงๆ แค่3วันก่อนสอบ แต่ทั้ง8เดือน ผมสะสมความรู้และเก็บเกี่ยวทุกๆสิ่งที่ผมสามารถจะทำได้ ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ เพราะทุกๆครั้งที่ล้ม ผมยังมีแรงยืนขึ้นมาใหม่
และหวังทุกๆครั้ง ว่าจะล้มกำแพงที่มีอยู่ ทุกๆข้ออ้างที่สร้างมาว่าไม่มีเวลาตลอดเวลา3ปีที่เสียไป

ขอทุ่มเทให้มันที่สุดอีกสักครั้ง ปีนี้ผมถึงผ่านได้ เพราะผมไม่ยอมแพ้

ผมหวังว่าทุกๆคนที่ยังมีโอกาส ยังสอบได้ อย่าท้อแต่พยายามให้มากขึ้น ฝึกให้มากขึ้น ทำให้มากขึ้น

ปีนี้ผมทำ gen 42 (ถูก35), eng 80 ถูก 68+, app คิดเลข25 ถูกหมด /series 12 (ถูก11)/ แตกต่าง เหมือนกัน 12 ข้อ (ถูก10) / สแกน 8ข้อ มั่นใจถูกหมด / memory 25ถูกหมด

มีคนทำได้เยอะกว่าผมมาก แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ผ่าน แต่ผมมั่นใจว่าผมกาทุกข้อที่ 100% ถ้าไม่ชัวร์ ผมก็ไม่กา

ปีนี้ก็จะทำให้ได้ไกลที่สุด แล้วจะมาคอยอัพเดทให้นะครับ

สุดยอดครับ ผมเพิ่งสอบปี2014 ปีแรก แล้วก็ตกรอบแรกแอบเสียดายอยุ่เหมือนกัน พอมาได้อ่านโพสนี้ ตัวเองเปนเด็กน้อยไปเลยครับ คิดว่าปีหน้าต้องสอบอีกแน่นอน โพสนี้และอีกหลายๆๆโพส เปนกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับ

Offline ZENIRO

  • ThaiSmile:)-CoPilot
  • ประชาชน
  • ***
  • Posts: 14
การตกรอบแรกอาจจะไม่ได้หมายความว่า "ไม่เหมาะ" แต่น่าจะเป็น "ไม่ใช่เวลา" มากกว่าครับ

ตราบใดที่ยังมีโอกาสอยู่ ถึงจะแค่ปีเดียวก็สอบเถอะครับ การจะสอบติดนั้นใช้โอกาสครั้งเดียวเท่ากันทุกคนครับ

สู้ๆครับพี่ ผมเป็นกำลังใจให้ จขกท.

Offline Tas#213

  • Thai Aviation Services -CoPilot
  • ประชาชน
  • ***
  • Posts: 9
ผมอ่านแล้วซึ้งเลยครับ ไฟในใจผมติดเลย ผมอายุแค่ 23 ความตั้งใจ ความอดทน ความมุ่งมั่นยังห่างกับพวกพี่ๆอีกไกล ขอบคุณประสบการณ์ดีดีครับ O06 O06

Offline DuraSail

  • จิตใจของฉันแข็งแกร่งดั่ง
  • Moderator
  • ราชาเทวะ
  • ***
  • Posts: 2,592
ช่วงนี้โอกาสได้งานสูงมากครับ แต่ถ้าไม่ได้รักการบินจริงๆ พี่ก็ขอแนะนำให้ลองหางานอย่างอื่นทำดูนะครับ

อย่างพี่ ก็บินไป ทำงานอื่นๆไปด้วย เพราะงานการบินอย่างเดียวมันก็เบื่อ และเหนื่อยเหมือนกันนะครับ ต้องทำงานในเวลาที่ร่างกายควรจะนอน พอเริ่มอายุเยอะ จะเริ่มเหนื่อยมว้ากกกก เป็นพิเศษครับ