บอร์ดการบินไทย ลดค่าตอบแทนตนเองลง

[peng_117]

ปา-จุ๋มจิ๋ม-่ลดค่าตอบแทนบอร์ดบินไทย ยังคงเสวยสุข [20 มี.ค. 52 - 05:13]

พล. อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงมติคณะกรรมการที่สำคัญ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 52 ที่จะมีขึ้นวันที่ 21 เม.ย. 52 นี้ โดย คณะกรรมการบริษัทเห็นว่าการบินไทยได้ประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท จึงเห็นควรให้ปรับลดค่าตอบ แทนเบี้ยประชุมกรรมการและสิทธิประโยชน์ด้านบัตรโดยสาร สำหรับกรรมการตั้งแต่ 1 พ.ค. 52 ถึง 30 เม.ย. 53

 
โดย ให้ปรับลดค่าตอบแทน และเบี้ยประชุมกรรมการบริษัท โดยปรับลดลง 1 ใน 4 จากที่เคยได้ในปัจจุบันที่กรรมการบริษัทได้รับค่าตอบแทนคนละ 50,000 บาทต่อเดือน ก็จะลดลง 12,500 บาท เหลือเพียง 37,500 บาทต่อเดือน ส่วนเบี้ยประชุมจากเดิมได้คนละ 30,000 บาทต่อครั้ง ก็จะลดเหลือ 22,500 บาท และให้กรรมการเสียภาษีเงินได้เอง ส่วนสิทธิประโยชน์ด้านบัตรโดยสาร ให้ใช้สิทธิได้ ไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเที่ยวบินที่ได้รับสิทธิปัจจุบัน นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้งดจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานปี 51 ที่ประสบผลขาดทุน

 
คณะกรรมการยังมีมติให้เสนอรายชื่อกรรมการบริษัทชุดใหม่ 14 คนแทนชุดเก่า ประกอบด้วย นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์, นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล, นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ, นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม, พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล, นายอมรศักดิ์ นพรัมภา, นายอำพน กิตติอำพน, นายพิชัย ชุณหวชิร, นายบรรยง พงษ์พานิช, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ, นายกอบชัย ศรีวิลาศ, นายคณิศ แสงสุพรรณ, นายวัลลภ พุกกะณะสุต และนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ

 
ด้าน นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทการบินไทย เปิดเผยว่า สหภาพฯกำลังทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และกระทรวงคมนาคมในฐานะที่กำกับดูแลการบินไทย เพื่อขอให้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นนักบริหารมืออาชีพมาเป็นกรรมการบริษัท เพราะจากการพิจารณารายชื่อกรรมการการบินไทยชุดใหม่ ซึ่งจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณานั้น ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการประจำ แม้จะมีอดีตผู้บริหารการบินไทย 2 คน แต่เชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่น่าจะช่วยฟื้นฟูกิจการการบินไทยได้ “ราย ชื่อกรรมการทั้ง 14 คน ยังเป็นมืออาชีพไม่พอและเป็นคนเดิมๆที่มีส่วนเกี่ยว ข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการบินไทย ขณะที่บางคนมีประวัติด่างพร้อยและบางคนเคยอยู่ในธุรกิจที่เป็น คู่แข่งของการบินไทยมาก่อน ซึ่งน่าเป็นห่วง”

 

นอก จากนั้น สหภาพฯจะเสนอให้กระทรวงการคลังและคมนาคมทบทวนเรื่องค่าตอบแทน เบี้ยประชุม และสิทธิประโยชน์ของกรรมการ เพราะการที่คณะกรรมการการบินไทยชุดปัจจุบันมีมติให้ ลดค่าตอบแทนและเบี้ยประชุม 1 ใน 4 จากปัจจุบันที่กรรมการแต่ละคนได้ค่าตอบแทนเดือนละ 50,000 บาท และได้เบี้ยประชุมครั้งละ 30,000 บาทนั้น สหภาพฯเห็นว่ายังลดน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับวิกฤติที่เกิดขึ้น ขณะที่พนักงานได้ลดสิทธิประโยชน์ไปแล้ว แต่คณะกรรมการชุดปัจจุบันเพิ่งจะมีมติในช่วงที่จะพ้นวาระ ซึ่งจะมีผลกับคณะกรรมการชุดใหม่ สหภาพฯเห็นว่าคณะกรรมการการบินไทยชุดปัจจุบันควรมีจิตสำนึกมากกว่านี้ และกรรมการบางคนเข้าร่วมประชุมเป็นเวลาไม่นาน และออกจากห้องประชุมไปก่อน ถือว่าไม่ได้ทำงานเต็มที่

 
ส่วน สิทธิประโยชน์บัตรโดยสารที่ให้ปรับลดโดยใช้สิทธิได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งนั้นพอ ยอมรับได้ เพราะปัจจุบันกรรมการจะได้รับบัตรโดยสารชั้นหนึ่ง FIRST CLASS ปี ละ 30 ใบ เป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศ 15 ใบ และในประเทศ 15 ใบ โดยสิทธิประโยชน์นี้รวมไปถึงบุคคลในครอบครัวและผู้ติดตามด้วย แต่สหภาพฯจะเสนอให้ยกเลิกสิทธิประโยชน์ของอดีตกรรมการการบินไทย ที่ปัจจุบันจะได้รับบัตรโดยสารที่มีส่วนลด 75% ของค่าโดยสารปกติ โดยเส้นทางบินระหว่างประเทศจะได้รับปีละ 12 ใบ ในประเทศ 6 ใบ และสิทธินี้ครอบคลุมถึงบุคคลในครอบครัวและผู้ติดตามด้วย ซึ่งเห็นว่าอดีตกรรมการไม่ควรได้รับสิทธิประโยชน์ตั๋วโดยสาร เพราะบางคนเป็นกรรมการเพียง 3-6 เดือน แต่ได้รับสิทธิประโยชน์ตลอดชีพซึ่งไม่เป็นธรรมต่อการบินไทย

 
นาย โอกาส เตพละกุล ประธานคณะทำงานโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และพลังงาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) เปิดเผยหลังประชุมเชิงปฏิบัติการ “เรื่องประเทศไทยควรมีสนามบินเดี่ยวหรือสนามบินคู่” ว่า ไทยควรมี 2 ท่าอากาศยานควบคู่กัน โดยให้ท่าอากาศยานดอนเมืองรองรับเที่ยวบินในประเทศ ทำให้ผู้โดยสารในประเทศได้รับความสะดวก เห็นว่าอย่ายึดติดว่าฮับต้องเป็นสนามบินเดียว และในเร็วๆนี้ สป.จะจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา.

ข่าวจาก ไทยรัฐ