นักบิน, สอบนักบิน, โรงเรียนการบิน, เรียนบิน | SakNid.com

บ้านทั่วไป "สักนิด" => ห้องนั่งเล่น (เรื่องทั่วๆไป ไม่เกี่ยวกับการบิน) => Topic started by: DuraSail on 28 November 2008, 01:28:25 +07

Title: วัดพระบาทน้ำพุ
Post by: DuraSail on 28 November 2008, 01:28:25 +07
วันก่อนได้อ่านอีเมลล์เรื่อง พิพิธภัณฑ์ชีวิต อ่านแล้วก็"ตระหนัก" ยังไงไม่รู้
เฮ้อ ชีวิตคนเรา

อ่ะ เรื่องราวเกียวกับวัดพระบาทน้ำพุครับ เอามาจากเว็บนี้ http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/watprabat.htm (http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/watprabat.htm)

วัดพระบาทน้ำพุ
 
วัดพระบาทน้ำพุกับบางเรื่องราวที่ไม่มีใครอยากรับรู้..

วันนี้อยากพาไปเที่ยวครับ..
บางคนเคยร่วมบริจาคเงินให้กับวัด แต่ไม่เคยเห็นความเป็นไปในวัด
นึกภาพไม่ออก จิตนาการไม่ชัด

แต่ถ้าได้เห็น ได้รับรู้ แม้เพียงไม่กี่ภาพ
ความสุขใจจากการได้บริจาคเงิน ช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์ อาจมีเพิ่มมากขึ้นแม้เพียงน้อยนิด..ก็ยังดี

(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-01.jpg)

ภายในวัดค่อนข้างร่มรื่น โดยเฉพาะวันที่ฝนตก
วันนี้เป็นวันหยุด ผู้คนมาเที่ยวหนาตา..ไม่เงียบเหงาวังเวงเหมือนวันปกติ   
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-02.jpg)


บ้านพักหลังน้อยของผู้ป่วย เรียงเป็นแถวปานรีสอร์ท
บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ด้านหลังพิงภูเขา

คนปกติแม้มีเงินก็หมดสิทธิ์ที่จะมาอ้อนวอนขอเข้าอยู่อาศัย
ต้อนรับเฉพาะผู้ติดเชื้อไร้บ้านเท่านั้น

ชุมชนแหล่งสุดท้ายของผู้ติดเชื้อ
ถูกขับออกจากบ้าน ไม่มีครอบครัว บ้างก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้หน้าวัด

บ้างก็เสียชีวิตเพียงเข้าพักในคืนแรก
ด้วยร่างกายที่อ่อนแอ ถูกหอบหิ้วมาไกลแสนไกลจากภาคเหนือ
แถมถูกทิ้งให้นอนหนาวอยู่หน้าวัดตลอดคืน
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-03.jpg)
กว่าเจ้าหน้าที่ของวัดจะไปพบในตอนเช้าก็สายเสียแล้ว..   



พิพิธภัณฑ์ชีวิต..
บางคนบอกเป็นสุสานที่ไม่มีดินกลบหน้า
หลายคนไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้
หลายคนบอกดูแล้วกินข้าวไม่ลง

แต่หลายคนก็ได้แง่คิดติดกระเป๋ากลับบ้าน.. 

(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-04.jpg)

พิพิธภัณฑ์ที่นี่ไม่ได้มีไว้แสดงงานศิลปะ
ไม่มีของที่มีค่า หรือของเก็บสะสมของใคร..

ภายในมีซากศพของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ที่บริจาคเป็นวิทยาทานให้ทางวัดจัดแสดง เพื่อกระตุ้นเตือนต่อมรักสนุกของผู้ที่ยังมีลมหายใจ..ว่าเอดส์ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ไกลตัวเหมือนที่หลายคนคิด

ภาพแรกเป็นเด็กชายอายุเพียง 5 ขวบที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่
ส่วนใหญ่ผู้เป็นแม่จะตายก่อน เด็ก ๆ จะวิ่งเล่นในวัดได้นานหลายปี

ปัจจุบันเด็กเล็ก ๆ ที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่จะถูกย้ายไปอยู่โครงการ 2 ที่อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี

ที่วัดไม่มีเด็กเล็ก ๆ วิ่งเล่นให้เห็นเหมือนก่อน.. 
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-05.jpg)


เมื่อตอนที่ผมอายุ 5 ขวบ ผมจำความไม่ได้
เด็กคนนี้จำแม่ของเขาเองได้หรือเปล่าคงไม่มีใครรู้

ถ้าเป็นสมัยก่อน เมื่อผู้เป็นแม่ใกล้เสียชีวิต
หลวงพ่อจะไปจูงมือลูกมาเพื่อให้กราบเท้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย
เด็กหลายคนจะรีบกราบ ๆ ให้เสร็จเพื่อวิ่งออกไปเล่นต่อกับเพื่อน ๆ

ปล่อยให้ผู้เป็นแม่นอนน้ำตาไหลด้วยความห่วงใยในอนาคตข้างหน้าของลูก
เหมือนคนที่เป็นแม่ทั่วไป..

เด็กหลายคนรู้เพียงว่าแม่ไปสวรรค์แล้ว
และอีกไม่นานเขาก็จะได้พบกับแม่ของเขาอีกครั้ง.. 
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-06.jpg)


ร่างนี้เป็นร่างของสาวประเภท 2..
หน้าตา(เคย)ดี จากป้ายประวัติข้างตัวบอกว่าเป็นสาวบริการ.. 
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-07.jpg)


คนนี้อดีตนักร้องสาวค่าเฟ่ และขายบริการเช่นกัน
ป่านฉะนี้ ผู้ที่เคยใช้บริการกับเธอคงตามเธอไปเรียบร้อยแล้ว.. 
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-08.jpg)


บริเวณห้องรับบริจาค..
มีคนค่อนข้างมาก ผู้ติดเชื้อบางคนบอกว่า ถ้าวันไหนที่ห้องบริจาคมีผู้คนคับคั่ง.. จะเป็นอีกวันที่พวกเขามีความสุข

เขาไม่ได้สนใจในปริมาณเงินว่าจะมากน้อยขนาดไหน
เพียงแต่เขารู้ว่า.. ผู้คนในสังคมยังไม่หลงลืมพวกเขา

แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่เหลือญาติพี่น้องอีกแล้ว
แต่อย่างน้อยก็ยังมีใครบางคนที่แม้ไม่เคยรู้จัก แม้จะไม่ใช่ญาติ.. ยังคอยเป็นห่วง 
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-09.jpg)

ส่วนใหญ่ผมจะหยอดเงินใส่กล่องบริจาคที่วางอยู่ด้านหน้าห้องบริจาค
ภายในห้องมีไว้สำหรับออกใบอนุโมทนาบัตรสำหรับผู้ที่ต้องการหลักฐานเอกสาร
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-10.jpg)


บริเวณกุฏิหลวงพ่อ วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน
ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว ที่นี่ถูกบรรจุเข้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีเรียบร้อยแล้ว
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-11.jpg)


หลวงพ่อกำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่รู้จักเหนื่อย
มีการแจกภาพถ่ายพร้อมลายเซนต์เป็นที่ระลึก..
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-12.jpg)


ด้านหน้าอาคารผู้ป่วยระยะสุดท้าย..
คนไข้บางคนยังพอมีเรี่ยวแรงก็สามารถออกมาเดินเล่นได้
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-13.jpg)


ภายในอาคาร กลิ่นยาโชยเข้าจมูก
หลายคนนอนหมดแรงอยู่บนเตียง

เจ้าหน้าที่มาบอกให้ผมสามารถถ่ายภาพภายในห้องได้
แต่ผมยิ้มเขิน ๆ ไม่อยากเอากล้องไปจ่อถ่ายภาพพวกเขา
ไม่อยากให้คนป่วยรู้สึกว่าพวกเขาเป็นตัวประหลาด

ทำได้เพียงเดินดูบรรยากาศภายในห้องเท่านั้นเอง..

(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-14.jpg)

คงมีสถานพยาบาลของวัดพระบาทน้ำพุเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ที่มีโลงศพวางกองอยู่หลังห้องผู้ป่วย

วางท้าทายสายตาของผู้ป่วย และทุกคนก็มองเห็น ไม่มีใครมองว่าเป็นลางร้าย หรือบั่นทอนสุขภาพจิตของผู้ป่วย เพราะทุกคนไม่มีใครออกไปจากวัดแห่งนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ยังมีลมหายใจ.. เขาอยู่ไปแต่ละวันเพื่อรอคอยวันตายเท่านั้นเอง
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-15.jpg)


กองเถ้ากระดูกมนุษย์นับพันเพื่อรอคอยญาติมารับ
และมีไม่ถึง 1% ที่ถูกนำกลับบ้าน..

ลองหลับตาและจินตนาการเล่น ๆ..
ถ้ากองกระดูกเหล่านี้กลายร่างเป็นคน.. บริเวณนี้คงแออัดยัดเยียด

บ้างก็คงนั่งกอดเข่า บ้างก็ยืนชะเง้อมองหาบุคคลอันเป็นที่รัก
บ้างก็คงร้องไห้จนน้ำตาเหือด.. ช่างเป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมายจริง ๆ
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-16.jpg)


วันนี้ฝนตก..
ยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จะได้กลิ่นอับจาง ๆ

อยากมีหูทิพย์..
อยากฟังว่าพวกเขาจะมีเรื่องราวอะไรมาเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าเป็นจริง.. หูของผมคงอื้ออึงจนฟังไม่รู้เรื่อง
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-17.jpg)


บางส่วนถูกบดเป็นผง บรรจุลงกล่อง เพียงหวังว่าจะได้ง่ายและไม่อุดจาดตา ยามที่ญาตินำกลับบ้าน

แต่เมื่อความพยายามของทางวัดไร้ผล
แม้จะอำนวยความสะดวกให้ปานใดก็ตาม แต่กองเถ้ากระดูกก็ไม่เคยลดน้อยลง..ไม่เคยมีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ

สุดท้ายความเพียรพยายามก็หมดแรง..
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า แล้วอนาคตของกองกระดูกเหล่านี้จะเป็นอย่างไร

แกบอกว่า..
ในอนาคตจะใช้เถ้ากระดูกพวกนี้ผสมปูนหล่อเป็นองค์หลวงพ่อเพื่อให้คนมากราบไหว้
ไม่รู้แกพูดประชด.. หรือเป็นความตั้งใจจริง
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-18.jpg)


ก่อนจะเดินจากมา..
แกชี้มือให้ผมมองดูสองแม่ลูก ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด
แต่แกบอกว่า.. ผมเข้าใจผิด

แม่ลูกคู่นี้คือผู้ติดเชื้อรายล่าสุดที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าวัดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งสองคนกอดคอกันร้องไห้จนตาบวม แกบอกว่าเพียงเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของผู้เป็นแม่เพียงแว้บเดียว แกก็รู้ว่าผู้เป็นแม่เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว ส่วนลูกสาวตัวน้อยยังไม่มีใครรู้ว่าติดเชื้อจากผู้เป็นแม่หรือไม่

แกบอกให้ผมถ่ายภาพ..
ผมจะอ้อมไปถ่ายที่ด้านหลังเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้าชัดเกินไป แต่แกบอกว่าไม่จำเป็น..เพราะคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นผู้ป่วยที่นี่ออกไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอก
(http://www.littlecatzhome.net/chongter/Articles/general/WatPraBat/WatPraBat-19.jpg)


วัดพระบาทน้ำพุคือแดนประหารทางสังคม
ไม่มีใครได้ออกไปจากวัด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนถูกขับไล่ออกมาจากบ้าน จากครอบครัว จากสังคม..เป็นเพียงขยะมนุษย์ที่ไร้ค่าในสายตาของผู้คนภายนอก

แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีขอพรางหน้าเธอไว้หน่อยก็แล้วกัน
ผมนั่งมองดูสองแม่ลูกอยู่เป็นนาน สำหรับผมวัดแห่งนี้เป็นแดนประหลาด

ถ้าเป็นนักโทษ ยังมีเวลาพ้นโทษ ยังมีโอกาสที่จะฝันถึงอนาคต
ถ้าเป็นคนป่วย ก็ยังมีวันหาย มีวันที่จะกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น

แต่ที่นี่เหมือนเป็นอีกโลก.. อีกสังคม
ที่นี่ไม่มีอนาคต ไม่มีวิมานในอากาศที่สวยหรู และไร้ซึ่งความฝัน
มีแต่ความจริงของชีวิต..ว่าทุกคนกำลังจะตายไม่มีข้อยกเว้นว่าเด็กหรือผู้ใหญ่

จากอดีตอัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 3-5 รายต่อวันเผาศพจนเมรุแตก
แต่ปัจจุบันด้วยเงินบริจาคที่มากพอจะหายาดี ๆ มาผู้ป่วยได้ใช้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตลดลงเป็นเดือนละ 4-5 ราย

แต่ถ้าไม่มีรายได้จากการบริจาคของผู้ใจบุญและถ้าวัดแห่งนี้มีอันต้องปิดตัวลง ผู้ป่วยเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน..
ผมหันหน้าไปถามลุงสัปเหร่อ แกส่ายหน้าบอกไม่รู้เหมือนกัน
รู้แต่ว่างานของแกคงเพิ่มมากขึ้น อัตราการตายอาจกลับไปเหมือนยุคก่อน คงได้เห็นเมรุเผาศพต้องแตกอีกครั้ง..

แล้วเราสองคนก็นั่งกอดเข่ากันเงียบ ๆ ..
มองดูเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเล่นอย่างไม่รู้ประสา
จะมีคนภายนอกสักกี่คนที่จะรู้ว่า..ภายในวัดพระบาทน้ำพุมีเรื่องเศร้ามากมายที่เล่าไม่รู้จบ..???


กด 1900 222 200 ทำบุญให้ วัดพระบาทน้ำพุ

กด 1 ครั้ง ทำบุญ 9 บาท

วัดพระบาทน้ำพุ มีรายจ่าย~ 3.5 ล้าน/เดือน ซึ่ปัจจุบันคงเพิ่มขึ้นไปอีกไม่รู้เป็นเท่าไหร่แล้ว
Title: Re: วัดพระบาทน้ำพุ
Post by: DuraSail on 28 November 2008, 01:31:01 +07
รายการบริจาคนั้น ผมลองกดดูแล้ว ใช้ได้จริงครับ
กดแล้วจะมีให้เลือก กด 1 เพื่อบริจาค