นักบิน, สอบนักบิน, โรงเรียนการบิน, เรียนบิน | SakNid.com

บ้านแห่งการบิน => ห้องการบิน การบินไทย, ThaiSmile:), Nok Air => Topic started by: Perth on 29 June 2009, 19:49:32 +07

Title: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 29 June 2009, 19:49:32 +07
เมื่อไม่นานมานี้ มีน้องคนนึงแนะนำให้เข้ามาที่Web นี้หน่อยลองเข้ามาดูเรื่องที่คุยกันแนะนำกันในนี้หน่อยว่ามีประโยชน์มากมายเพียงใด เลยลองแวะเข้ามาดูเพราะบอกน้องคนนั้นว่า ตัวผมเองอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ในชีวิตนักบินที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อตอนแก่จะได้เอามาอ่าน และคงเป็นตัวอย่างที่ดีๆให้น้องๆอีกหลายคน ที่อยากเป็นนักบิน หรือยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นดีมั๊ย ก็เลยได้รับคำแนะนำว่าลองมาเช็ค ความนิยมในweb นี้ก่อนแล้วกันนะ ติชมอย่างไรก็Post มาบอกกันได้จะเริ่มถ่ายทอดนะบัดนี้
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 29 June 2009, 20:01:19 +07
เริ่มจากความเป็นมาเลยแล้วกัน ความฝันในการเป็นนักบินเริ่มขึ้นเมื่อไร ตอบว่าไม่เคยมีความฝันในวัยเยาว์เลยว่านักบินเป็นอย่างไร ตอนเด็กๆชอบ บาสเกตบอล กับ เปียโนมากๆ เรียนก็ออกไปทางเด็กเกเรที่ไม่ค่อยตั้งเรียนเท่าไร ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้คิดมากอะไรก็ได้ เพราะประเทศนี้ต้องการแค่ปริญญาตรีเท่านั้น หลังจากนั้นอยากทำงานอะไรก็ทำ ยกเว้นอาชีพเฉพาะทาง ที่เหลือก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง และเครือญาติที่คุณมี ว้าแล้วการอยากเป็นนักบินมันเริ่มขึ้นเมื่อไรล่ะ บังเอิญโชคดีตอนนั้นเข้าเรียนปี 1 แล้วด้วยเพิ่งมีโอกาสได้เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็เกิดความประทับใจในเครื่องบินหลายๆอย่าง โดยเฉพาะ Thrust ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังประทับใจอยู่ แสดงให้เห็นว่าเราคงจะรักจริง
    แต่หลังจากการเดินทางด้วยเครื่องบินครั้งแรกแล้ว เกิดความประทับใจ แต่ก็ไม่มั่นใจลึกๆ ว่าเราจะเอาจริงรึเปล่าก็ปล่อยความฝันนั้นเรื่อยมา จนจบปริญญาตรี
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: ViNcEnT on 29 June 2009, 23:04:13 +07
รอติดตามอยู่ก๊าบ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Hakunamatata on 29 June 2009, 23:48:36 +07
เขียนแล้ว ต้องมาเขียนต่อเรื่อยๆ นะ ห้ามชิ่งๆ  E33
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: DuraSail on 30 June 2009, 00:45:09 +07
รออ่านๆ คับ  O07 O19
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: AP79 on 30 June 2009, 09:37:00 +07
โห..อ่านแล้วยังมีคำถามในใจหลายอย่างแต่ผมก้ออาจมองต่างมุมกับพี่เขานิดนึงนะครับว่า..กับคำว่าประเทศนี้ต้องการแต่ปริญญาตรีเท่านั้น..ไม่ด่วนสรุปไปหน่อยหรือครับ..ผมว่าจบจากไหนวุฒิอะไรก้อทำงานได้แล้วครับ..บางคนจบถึงปรฺญญาเอกเป็นดอกเตอร์แต่สู้คนจบ ปวส ไม่ได้..ผมว่าอยู่ที่ผลงานมากกว่าจบวุฒิไหนมากกว่าครับ..อย่างคุณพ่อผมไม่เห็นต้องจบปริญญาเลยก้อทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าคนที่จบดอกเตอร์บางคนซะอีก
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 30 June 2009, 10:31:32 +07
ขอบคุณสำหรับคำติชมของคุณ AP79 นะครับจะได้แก้ไขให้ดีมากขึ้น อธิบายได้ว่าคือ ในยุคของผมช่วงนั้นการจบปริญญาตรีเป็นค่านิยมที่สังคมกำลังต้องการในช่วงนั้น กล่าวคือ การที่เรียนจบบัญชีมาก็ไม่ต้องไปทำบัญชีก็ได้ คือให้มีปริญญาก็พอแล้ว จะเห็นได้จากการประกาศรับสมัครงานจะระบุแค่ว่า จบปริญญาตรี แต่ไม่ได้หมายความว่า การเรียนปริญญาตรีเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ หรือคนที่ไม่จบปริญญาตรีไม่เก่งนะครับ นี่แค่เริ่มเท่านั้นครับ กรุณาติดตามต่อแล้วจะทราบว่าการเป็นนักบินนั้น ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ความตั้งใจที่จะเป็นเลยจริงๆ ย้ำเป็นนักบินนะครับ ไม่ใช่นักบินAIRLINE ดังจะกล่าวในตอนต่อไป ---- การเริ่มเรื่องของผมเกิดมาจากการที่ได้อ่านหนังสือที่มีท่านผู้มีประสบการณ์หลายๆท่านได้ออกหนังสือมา แล้วมองว่าเรื่องของผมทำไมถึงได้แตกต่างกันมากมายขนาดนี้ ประกอบกับตั้งแต่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจนถึงปัจจุบันผ่านการตอบโทรศัพท์จากท่านทั้งหลายที่อยากเป็นนักบิน Airline มาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยสาย ทั้งนี้ไม่รวมไปถึงท่านที่เป็นนักบินอยู่ปัจจุบันที่อยากจะออกไปทำงานต่างประเทศอีกหลายๆท่านที่กระผมนับถือ ----- เรื่องราวต่างๆพึ่งเริ่มเท่านั้นครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 30 June 2009, 10:56:12 +07
ต่อมาจบปริญญาตรีแล้วยังไงต่อล่ะ ก็เริ่มหางานทำ ก็เลยได้ไปทำงานกับเพื่อนที่ซี้กันอยู่ที่พันธ์ทิพย์ พลาซ่าสมัยนั้น ซึ่งไม่ได้ตรงกับสาขาที่ตัวเองจบปริญญามาเลยแต่ด้วยมีใจรักทางด้านคอมพิวเตอร์ ประกอบกับการที่เตรียมตัวสอบเป็น Student Pilot ของการบินไทยไปด้วย การสอบStudent Pilot ผ่านไปได้ด้วยดีจนถึงรอบสัมภาษณ์กับ Pro ตอนนนี้พอมองกลับไปก็ได้รู้ว่าตอนนั้น เราก็ไม่สมควรที่สอบผ่านจริงๆ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิออะไรมากเพราะกำลังจะ ตั้งร้านคอมฯของตัวเอง ประกอบกับมีการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านคอมพิวเตอร์ด้วย แล้วก็ได้มีโอกาสได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความรู้ทางด้านการบินผ่านInternet ด้วยโมเด็มแบบ 32K ราคาชั่วโมง Internet ประมาณนาทีละ 1 บาท (ตอนนี้เลยเริ่มเปิดเผยอายุตัวเองแล้ว) เวลาผ่านไป3 ปีไวเหมือนโกหก มีโอกาสสอบ Student Pilot ของการบินไทยอีกครั้ง น่าเสียดายที่ยุคของผมตอนนั้นมีแต่การบินไทยที่เดียวเท่านั้นที่รับ Student Pilot ----- การสอบดำเนินไปได้ด้วยดีอีกครั้ง จนถึงรอบสัมภาษณ์กับ Pro เหมือนเดิมพอมองกลับไปตอนนี้ก็รู้แล้วว่าทำไมตอนนั้นถึงสอบไม่ผ่านเหมือนเดิม  แต่ตอนนี้ต่างไปจากเดิม ตรงที่ว่าเราเริ่มรู้อะไรๆ เกี่ยวกับการบินมากขึ้นจากความรู้ที่เราแสวงหามาด้วยตนเอง ทำให้เราเริ่มหาหนทางให้ตัวเองในการเป็นนักบิน แต่ทัศนคติในตอนนั้นกลับคิดว่าสอบอะไรของมันวะ ทำไมไม่ได้ ทำไมไม่ได้ ถามตัวเองซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า(กบยังไม่ออกจะกะลา) แล้วก็คิดว่าเราจะทำยังไงให้เอาชนะการสอบนี้ได้ คิด คิด หาหนทาง เอายังงี้ดีกว่ามันมีสอบ QP หว่า ระหว่างรออีก 3 ปีค่อยกลับมาสอบใหม่ก็ได้ไปเรียนเองให้มันรู้ก่อนซิ ว่าเป็นยังไง สรุปการเป็นนักบินของผมตอนนี้เลยมีความจะชนะ PRo เข้าไปด้วย.+ ความอยากเป็นนักบินที่เป็นทุนเดิมอยู่..........
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 30 June 2009, 11:21:57 +07
ทีแรกว่าจะพัก ขออีกนิดนึงแล้วกัน------ที่นี้ก็เริ่มค้นคว้าหาข้อมูล หมายเหตุไว้นิดนึงนะครับ--ขอมูลต่างๆที่จะได้อ่านต่อไป เป็นข้อมูลที่ผมหาได้ในช่วงเวลาของผม ประกอบการตัดสินใจของผมเท่านั้น ไม่อาจเอามาใช้ประกอบการตัดสินใจกับเหตุการณ์ปัจจุบันนะครับ --- เริ่มหาสถานที่เรียนเอง การเป็นนักบิน(ตอนนั้นคิดแต่ว่าเป็นนักบิน AIRLINE) ภาษาอังกฤษต้องสำคัญแน่ๆเลย ไปหาที่เรียนเมืองนอกดีกว่า ไม่ใช่ว่าไม่รักเมืองไทย แต่โรงเรียนการบินที่ทราบในเมืองไทยตอนนั้น ยังคงมีการใช้กำลังในการสอนกันอยู่ ซึ่งเป็นคนรับในส่วนนี้ไม่ได้ (กลัวสวน) :) คงอธิบายอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมไม่ไปเรียนเป็นทหารอากาศตั้งแต่ทีแรก ก็เริ่มศึกษาจนได้ความว่า ในขณะนั้น ใบอนุญาตในการทำการบิน หรือใบอนุญาตนักบินแบ่งออกเป็น 4 แบบใหญ่คือ เรียงตามลำดับการยอมรับในการสมัครงานทั่วโลกในขณะนั้น ขยายความนิดนึงครับเผื่อท่านที่ไม่มีความรู้ทางด้านใบอนุญาตเลย ใบอนุญาตในการทำการบินนั้นหลักๆเลยนครับ แบ่งเป็น
1.ใบอนุญาตนักบินสวนบุคคล หรือ PPL บรรทุกผู้โดยสารได้แต่ห้ามเก็บตังค์
2.ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี หรือ CPL เก็บตังค์ได้ละ แต่ต้องมีแบบระบุในใบอนุญาตด้วยนะครับ ว่าบินเครื่องบินแบบไหน เป็นกัปตันหรือเป็นCo-Pilot
3.ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก หรือ ATPL เป็นนักบิน AIRLINE ละ ย่อมาจาก Air Transport Pilot -License นะครับ อันนี้แต่ละประเทศไทยไม่เหมือนชาวบ้านเค้า จะชี้แจงภายหลังครับ ของเมืองนอกจะมี FROZEN ATPL ด้วยแต่ของไทยเท่าที่ทราบ การบินไทยกำลังพยายามทำให้ป็นไปได้สำหรับนักเรียนทุนของการบินไทยอยู่ แต่สำหรับทั่วไปในประเทศไทยยังไม่มีครับ
 -------ต่อเลยนะครับ--------
1.ใบอนุญาตของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้วนะครับ เพราะรวมเป็นใบรวมของสหภาพยุโรปแล้ว -ได้รับการยอมรับมากเพราะได้มายาก ข้อสอบไม่มีโผให้อ่านก่อน สอบวิชาเยอะกว่าชาวบ้านเค้า เช็คภาคอากาศก็ยาก มีคนถือน้อยมาก
2. ใบอนุญาตของออสเตรเลีย --ยังมีอยู่และยังยากเหมือนเดิม ข้อสอบคล้ายๆของอังกฤษแต่วิชาน้อยกว่า แต่ปัญหาคือเวลาเช็คภาคอากาศยากสุดๆ เอาข้อสอบภาคทฤษฎีที่เราทำผิดมาถามก่อน - เค้าจะให้กระดานขาวเรามา1 อัน มีกรรมการนั่งฟังอยู่ 3 ท่าน แล้วอธิบายมาซิว่าทำไมเราตอบผิด
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: panyoy on 30 June 2009, 11:38:38 +07
รอติดตามครับ   O07
ขอบคุณที่สละเวลามาเล่าให้ฟังครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Zeus on 30 June 2009, 12:09:02 +07
ขอเข้ามาปาดก่อนครับ เดี๋ยวมาอ่านต่อ   O18
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: AP79 on 01 July 2009, 10:08:08 +07
ขอบคุณครับคุณน้า(ขออนุญาตใช้สรรพนามนะครับ ถ้ามากกว่านี้ก้อขออภัยครับผม)ที่กรุณาเปิดใจกว้างและรับฟังความคิดเห็นของผมนะครับ ถือว่าเป็นเหมือนกระจกสะท้อนละกันครับ ผมอาจมีประสบการ์ณแค่หางอึ่งเทียบกับคุณน้าไม่ได้ อาจมองแคบไปนิด แล้วจะคอยติดตามตอนต่อไปของคุณน้านะครับผม
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 03 July 2009, 23:05:41 +07
3. ใบอนุญาตของอเมริกา อาจจะเนื่องมาจาก ก่อนเหตุการณ์ SEP11 มีโรงเรียนการบินเปิดอยู่มากมาย ข้อสอบมีการรวมเล่มเป็นฐานข้อมูลไว้ให้ซื้อมาอ่านได้อย่างเพลิดเพลิน
4. ใบอนุญาตขององค์กรการบินระหว่างประเทศ(ขออภัยถ้าเรียกชื่อภาษาไทยผิดนะครับ เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ ว่าตกลงจะเรียกว่าอะไรกันแน่) ก็คือ ICAO (International Civil Aviation Organization) อ่านว่า ไอ-เค-โอ ซึ่งก็เป็นองค์กรที่ประเทศเราเป็นสมาชิกอยู่นั่นเอง ใบอนุญาตของประเทศไทยจึงจัดรวมอยู่ในหัวข้อนี้ด้วย โดยส่วนตัวไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกันว่าทำไมประเทศเราไม่มี ใบอนุญาตจำเพาะของไทย แต่ก็ประเทศทั้งหลายที่ไม่มีใบอนุญาตจำเพาะของตัวเองนั่นแหละครับ ทั้งหมดจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ มีเรื่องมากมายที่อยากจะกล่าวถึงองค์กรนี้ที่หลากประเทศเป็นสมาชิก แต่พอเอาเข้าจริงๆ แต่ละประเทศก็ต่างมีกฎของประเทศตัวเอง ทำให้บางที่กฎของ ICAO หมดความหมายไป
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 03 July 2009, 23:11:06 +07
เบรคนิดนึงครับ สามารถฝากคำถามไว้ได้นะครับ อะไรที่ตอบได้ก็จะตอบให้ แต่ของเว้นเรื่อง technical ทั้งหลายนะครับ เพราะเพื่อนๆนักบินในที่นี้ สามารถตอบได้ครับ ขอบคุณครับ อีกเรื่องคือรบกวนของความคิดเห็นตอบกลับในเรื่องนี้ เพราะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อ ทำหนังสือออกมาเป็นรูปเล่ม มีเรื่องไหนอยากให้เจาะลึก ขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อย หรือเรื่องไหนที่อยากรู้แต่ไม่ได้เขียน รบกวนฝากเรื่องไว้ได้เลยนะครับ ทางผู้เขียนจักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 03 July 2009, 23:22:10 +07
หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลมาบ้างพอสมควรแล้ว ก็เลยกำหนดเป้าหมายของ ใบอนุญาตไปที่ ใบอนุญาตของอังกฤษ แต่ติดปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนที่แสนจะแพง ต้องขอขอบพระคุณ พระคุณของคุณพ่อคุณแม่และบรรดาพี่ๆทั้งหลายไว้นะที่นี้ด้วย ก็เริ่มเอาข้อมูลที่ได้ปรึกษากับครอบครัวว่าจะเดินทางไปที่ไหนดี ตอนนั้นภาษาอังฤษก็ไม่ได้เก่งกล้าสามารถอะไร อาศัยเรียนพิเศษเอา เวลาว่างก็ฟังเพลงสากล แล้วพยายามฟังให้ออกว่ามันร้องว่าอะไร ดูหนังก็อย่าดูที่มันพากย์ไทย ก็เลยสรุปกับทางบ้านว่าสงสัยต้องเรียนภาษาก่อน  เป็นความโชคดีของผมอยู่อีกอย่างคือมีญาติได้เดินทางไปบุกเบิกทำกิจการอยุ่ที่ประเทศออสเตรเลีย อยู่ก่อนแล้ว ทางผู้ปกครองของผมจึงลงความเห็นว่าไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียก่อนแล้วกัน เพราะมีญาตอยู่จะได้ไม่ต้องไปบุกเบิกอะไรมากมาย พอเริ่มชำนาญภาษาแล้วค่อยคิดการต่อไป ที่นี้เราก็เริ่มหาข้อมูลต่อว่าที่ออสเตรเลีย ต่อไปขอเรียกว่าเมือง Perth ที่ผมจะไปเรียนภาษาเนี่ย มีโรงเรียนการบินอะไรอยู่บ้างที่เราพอจะหาข้อมูลต่อไปได้
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Athrun on 03 July 2009, 23:33:53 +07
มารออ่านด้วยอีกคนครับ และในอนาคตอาจจะขอถามอะไรบางอย่างหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ  E18
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 03 July 2009, 23:36:05 +07
จากข้อมูลที่ได้หาก็พบอีกว่าที่ออสเตรเลียมีสถาบันอยู่ที่นึง ในรัฐออสเตรเลียใต้ (South Australia) ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อสถาบันนะครับ แต่เป็นสถาบันทางด้านการบินที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ สามารถทำการเรียนภาคพื้น และภาคอากาศที่ออสเตรเลีย แต่ได้ใบอนุญาตของอังกฤษ ทำให้ดีใจมากๆ ที่จะสามารถเรียนที่นี่ได้ โดยไม่ต้องไปไกลถึงอังกฤษ ค่าครองชีพก็ถูกกว่า ทำให้ประหยัดเงินไปได้อีกมากโข ก็เลยเริ่มติดต่อขอรายละเอียดถึงหลักสูตรต่างๆที่ทางโรงเรียนของอังกฤษนั้นเปิดสอน (พึ่งมาทราบทีหลังว่าสายการบินแห่งชาติของเราก็เคยส่งนักบินไปเรียนที่โรงเรียนนี้ด้วย) มีสายการใหญ่หลายสายส่งนักเรียนการบินของตัวเองมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ทำให้เรายิ่งอยากที่จะไปเรียน โรงเรียนการบินนี้ให้ได้
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: AP79 on 04 July 2009, 09:24:54 +07
เฮ้อ...น้านี่ทำให้ผมต้องอยู่ รร.เพื่อติดตามเรื่องอันตื่นเต้นของน้าจริงๆ..เพราะที่บ้านไม่มีเนตให้เล่นอยู่ รร.มีที่นอน.อาหารกินฟรี แถมยังได้บินมากกว่าเพื่อนอีกครับ..ยุครัดเข็มขัดก้อต้องทำอย่างนี้แหละ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: cadet38 on 04 July 2009, 10:06:57 +07
ตกลงคุณ perth เป็นนักบินการบินไทยหรือเปล่าครับเนี่ย ถ้าใช่อยู่ฟลีทไหนครับ  O35
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: dukedig on 04 July 2009, 10:51:37 +07
รอติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ E37
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Athrun on 04 July 2009, 15:15:55 +07
ผมขอรบกวนถามอะไรบางอย่างหน่อยนะครับคุณ Perth โดยผมได้ส่งคำถามผ่านไปทาง Message ให้คุณแล้วนะครับ ขอบคุณครับ  O07
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 04 July 2009, 15:52:52 +07
ก่อนที่จะเดินทางทีแรกก็ไม่ได้มีความคิดที่จะรบกวนค่าใช้จ่ายทางด้านการเรียนบินกับทางบ้าน แต่ช่วงนั้นต้องขอบอกตามตรงว่า ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะฟองสบู่แตกใหม่ๆ นักศึกษาปริญญาตรีที่เรียนจบมาตกงานกันระนาว(ฟองสบู่แตกช่วงไหนก็ลองศึกษาประวัติศาสตร์ดูนะครับ) ซึ่งคล้ายๆกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศในช่วงนี้มากๆ  จากที่เคยเขียนก่อนหน้านี้ว่าอยากมีร้านของตัวเองในพันธ์ทิพย์ ก็รอแล้วรออีก จนถึงรอบการประมูลพื้นที่ร้านครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจเดินทางไปเรียน อย่าเรียกว่าประมูลเลย เรียกว่ายื่นขอพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าดีกว่า ปรากฎว่าไม่ได้ เพื่อนๆกลุ่มที่รวมตัวกันก็เลยต้องสลายตัวไปตามระเบียบ ผมจึงได้ตัดสินใจไปเรียนการบินต่อเต็มตัว ด้วยความคิดที่คุ้นๆ เหมือนยังได้ยินอยู่ในปัจจุบัน ขออนุญาตยกมา “ตอนนี้ประเทศเรากำลังขาดแคลนนักบินอยู่อย่างมากมาย ผลิตออกมาเท่าไรก็ไม่พอ เพราะฉะนั้นเราต้องเร่งเปิด โรงเรียนการบินในภูมิภาคนี้เพื่อ ทำให้เป็นแหล่งผลิตนักบินที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป” ไม่รู้ว่าน้องๆรุ่นใหม่ยังเคยได้ยินกันอยู่รึเปล่า แต่ผมจะบอกว่ามันเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง หรือ ปัจจุบัน เครื่องเล่นซีดี กระตุก ซ้ำไปซ้ำมาตลอด 20 ปีให้หลังมานี้  ซึ่งประโยคที่ได้ยินมานี้ก็มีส่วนที่เป็นจริงอยู่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด  ซึ่งจะขยายความให้ทราบต่อในภายหลัง เดี๋ยวจะมีความคิดเลิกอยากเป็นนักบิน Airline กันซะหมด
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 04 July 2009, 15:53:56 +07
วันแรกของการเดินทางไปเริ่มเรียนภาษาก็ส่งข่าวแจ้งให้ทางโรงเรียนที่ South Australia รู้ด้วยว่าต่อไปจะติดต่อเราได้ที่ไหน เพื่อจะได้รู้ข้อมูลกันอยู่ตลอดเวลา การเดินทางไปเรียนภาษาที่เมือง Perth ก่อนนับส่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าได้รู้เลยว่าคราวนี้ ภาษาที่เราคิดว่ามันคงจะพอได้ มันเริ่มจะไม่ได้ขึ้นมาแล้ว เราก็เลยต้องปรับตัวครั้งใหญ่อีก จากการที่คิดว่าเรามีญาติอยู่ที่ Perth จะเป็นเรื่องที่ดีในการเริ่มต้น กลับไม่ใช้สิ่งที่เราคิดแล้ว เพราะเราก็ยังคงอยู่ในสังคม สภาวะแวดล้อมแบบไทยๆ อยู่นั่นเองอาทิตย์แรกที่ไปถึงก็เริ่มวุ่นวายอีกครั้ง กับการที่ต้องออกมาหาที่พักเองข้างนอก อยู่ให้ไกลคนไทยที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงต้องกล่าวขอบพระคุณและขอโทษญาติๆทาง Perth ไว้นะโอกาสนี้ด้วย แต่เพราะจุดประสงค์ในการไปของผมชัดเจน ว่าต้องการมาพัฒนาทางด้านภาษา จึงดูเหมือนว่าทำไมทำตัวไม่ค่อยอยากจะคบกับคนไทย ไม่คุยไม่สุ่งสิงด้วย สรุปว่าที่สุดแล้วก็เลยได้ออกมาอยู่ตัวคนเดียวที่ หอพักนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยที่ผมไปเรียนภาษาอยู่นั่นเอง ช่วงเรียนภาษาก็มีโอกาสทำงานที่ร้านอาหารไทย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางครอบครัวแล้วก็ได้หาประสบการณ์ในการพบปะกับคนต่างชาติไปในตัวด้วย ส่วนหอพักที่อาศัยอยู่ก็เต็มไปด้วยนานาชาติ ทำให้ภาษาเราพัฒนาไปได้อย่างดี การที่ได้ไปทำงานอู่ที่ร้านอาหารไทยก็ได้พบปะกับคนไทยที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนหน้าผม แล้วก็อยากเรียนบินเหมือนกันแล้วตอนนี้พี่เค้าก็เรียนบินอยู่ด้วยก่อนแล้ว สมมุติว่าชื่อพี่บีแล้วกัน พี่บีมา Perth ก่อนหน้าผมหลายปีมากๆ  ทำให้ภาษาพี่บีดีมากๆ พี่บีอยากเป็นนักบินมากๆๆๆๆๆๆ พี่บีมาที่นี่เพื่อทำงานและเก็บเงินเรียนเอง ลืมบอกไปว่าพี่บีไม่ได้ทำงานที่ร้านอาหารไทย แต่รู้จักกับผมผ่านทางน้องอีกคนหนึ่ง พี่บีขับ Taxi อยู่ในPerth เพื่อส่งให้ตัวเองเรียนเป็นนักบิน คนๆนี้เป็นคนแรกที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมในหลายๆเรื่อง พี่บีพาผมไปนั่งเครื่องบินเล็กครั้งแรก Cessna 172 ยังคงเป็นความประทับใจอยู่ไม่รู้ลืม ประทับใจพี่บีตรงที่ว่าเป็นคนที่มีความพยายามสุดๆ ทำงานเก็บเงินส่งค่าเช่าบ้าน ค่ากิน แล้วยังต้องเก็บเป็นค่าเรียนอีก  แล้วพี่บีก็ไม่ได้มีเป้าหมายในการเป็นนักบิน Airline เลย พี่บีรู้แต่ว่าเวลาอยู่บนฟ้าแล้วมันมีความสุขดีว่ะ แล้วพี่บีก็บอกผมว่าถึงแกอยากจะกลับมาเมืองไทย เพื่อสอบเป็นนักบิน airline ก็คงไม่มีที่ไหนรับแก เพราะแกไม่ได้จบปริญญาตรี กว่าแกจะเรียนจบบิน จบปริญญาตรีก็แก่เกินที่จะสมัครแล้ว ตอนนั้นพี่บีบอกผมว่าอีกไม่นานพี่บีก็จะได้ Visa แบบถาวรแล้วถ้าแกเรียนบินจบแกอยากจะลองสมัครงานเกี่ยวงานด้านการบิน ที่นั่นดู ที่Australia มีงานเกี่ยวกับทางด้านการบินหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับประเทศไทย บินพ่นยาฆ่าแมลง บินทิ้งล่ม บินขนส่งผู้ป่วย บินขนส่งไปรษณีย์ ฯลฯ อย่างที่บอกจริงๆว่า พี่บีเป็นคนแรกจริงๆที่ทำให้ผมรู้ว่าโลกของการบิน ไม่ได้เป็นแค่โลกของ Airline และทหารเท่านั้น  เพราะก่อนออกมาจากประเทศไทยรู้จักแต่นักบิน ทหารกับนักบิน Airlineจริงๆครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 04 July 2009, 16:01:01 +07
ขออนุญาตให้เรื่องที่เขียนต่อไปเรื่อยๆเป็นคำตอบ ของคุณ Cadet38 นะครับ ขอบคุณครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 05 July 2009, 08:28:43 +07
ระหว่างที่เรียนภาษาอยู่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนอีกครั้ง คราวนี้เล่นเอามึนเหมือนกัน  การที่จะเข้าเรียนโรงเรียนการบินที่ South Australia นั้นจะต้องมีการสอบวัดระดับความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ + การสอบความถนัดในการเป็นนักบินด้วย (Aptitude Test) ฟังดูคุ้นๆ ก็คือแบบเดียวกับที่สอบเป็นนักเรียนการบินของการบินไทยนั่นแหละครับ การวางแผนการเดินทางของผมจึงต้องเผื่อเวลามากขึ้น เพราะต้องไปหาที่อยู่ที่ South Australia ก่อนหลังจากนั้นก็เผื่อเวลาที่จะเดินทางไปสอบ แล้วถ้าสอบไม่ผ่านล่ะ เค้ามีอยู่เหมือนกันว่าไม่ผ่านระดับไหนต้องการเวลาในการปรับปรุงเท่าไร แผนก็คือถ้าไม่ผ่านลงเรียนภาษาแล้วก็หางานทำไปก่อนที่นั่นเลย แต่ก็มีความหวังลึกๆว่าจะผ่าน เพราะสอบแต่ทางด้านข้อเขียนอย่างเดียว ไม่มีสอบสัมภาษณ์กับ Pro แบบการบินไทยครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 05 July 2009, 08:29:53 +07
แต่แผนทั้งหมดกลับไม่เป็นไปตามแผน จึงได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้เหมือนกันว่า ไม่ใช่แค่มีแผนสำรอง แต่ควรจะมีไปถึงแผนที่สาม ที่สี่ เลยเพื่อความสบายใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ เช้าที่สดใสที่ Perth กำลังจะออกไปเล่นบาส ก็ได้รับโทรศัพท์มาจากโรงเรียนที่ South Australia ว่าไอ้ใบอนุญาตของอังกฤษที่ คุณอยากจะมาเรียนนั้น เราไม่สามารถที่จะให้คุณมาสอบได้แล้ว เรามีความจำเป็นต้องย้ายหลักสูตรที่คุณจะเรียนไปวิทยาเขต(Campus) ที่ประเทศโปรตุเกส ตอนนั้นยังไม่มี Ronaldo ซะด้วยสิ ก็ถามกลับไปว่า แล้วหลักสูตรที่ว่าเนี่ยจะเปิดสอนอีกเมื่อไร  ทางโรงเรียนก็ตอบว่ายังไม่มีโครงการเลย ท่าทางจะอีกนาน คิดว่าคุณน่าจะลองไปหาประสบการณ์ที่ โปรตุเกส ดูนะ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 05 July 2009, 08:31:25 +07
ขอเวลาผมคิดซักวัน สองวันแล้วกัน แล้วจะโทรกลับไปบอกนะ อย่างแรกที่ทำเลยคือโทรกลับมาบอกทางบ้านว่า แม่ ไอ้ที่อยากจะมาเรียนคงไม่ได้เรียนแล้วล่ะ ทางบ้านก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น อธิบายกันยืดยาว ก็มาสรุปว่าแล้วจะไปมั๊ย โปรตุเกสน่ะ เราก็บอกไปเหมือนเดิมว่าขอเวลาคิดก่อนยังพอมีเวลา แล้วจะโทรไปบอกอีกทีว่าเอายังไง เราก็ยังลังเลอยู่ เพราะ ที่โรงเรียนการบินที่โปรตุเกส อยู่ห่างไกลผู้คนมากๆ เหมือนไปเป็นนักเรียนรุ่น 1 เลย(ตามข้อมูลที่ได้รับมาจาก South Australia) เริ่มปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาที่โรงเรียนภาษาก่อน แกเป็นคนเวียตนาม แต่ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ แกบอกว่าทางยุโรปยังไม่ค่อยยอมรับคนเอเชี่ยน เท่าไรนัก ถ้าไม่จำเป็นถึงที่สุดจริงๆ แกขอให้อยู่ที่ Australia ต่อดีกว่า แล้วแกจะช่วยเรื่องหาที่เรียนกับขอ ขยายเวลาใน visa เสียงที่หนึ่งที่ไม่เห็นด้วย หลังจากนั้นก็มีอีกสาม สี่เสียงตามมาจากเพื่อนชาวAussie แต่คิดว่า มันคงไม่รู้เท่าไรหรอก เพราะมันก็ไม่เคยไปโปรตุเกสเหมือนกัน แต่ถ้าผมไปเนี่ยจะทำให้พวกมันลำบาก เพราะทีมบาสจะขาดคนไปหนึ่งคน แล้วตอนนี้มันยังไม่รู้จะหาใครมาแทน เพราะตอนนั้นกำลังแข่งบาสภายในเมืองPerth อยู่ด้วย(ให้คำปรึกษาได้ยอดเยี่ยมมาก ไม่เป็นไรยังไงมันก็จริงใจดี ตกลงว่า มาเล่นบาสหรือมาเรียนบิน)  แต่การที่ตัดสินใจไม่ไปเรียนที่โปรตุเกสนั้นเกิดมาจาก เพื่อนที่สนิทมากๆชาวญี่ปุ่น คนนึง ที่เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการเดินทางไปยุโรปโดยเฉพาะโปรตุเกส (คิดอยู่เหมือนกันว่าจะเขียนเรื่องต่อไปนี้ดีหรือไม่ เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เอาน่าลองเปิดใจกว้าง เรื่องมันก็ผ่านมา สิบกว่าปีแล้ว ปัจจุบันอาจไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนก็ได้นะ แล้วก็คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองไทยกับนักท่องเที่ยวก็คงไม่ต่างกันเท่าไร ว่าเลยแล้วกัน)
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 06 July 2009, 17:15:51 +07
คือว่ามีเพื่อนของเค้า เดินทางไปที่โปรตุเกสแล้วโดนวิ่งราว ฟังดูธรรมดามากเลยแต่ตอนที่จะเล่าต่อนี่แหละ เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ซักพัก ถ้าทางเจ้าของมันจะไม่ยอมให้ง่ายๆ ปรากฎว่ามีการชักดาบ ออกมาตัดแขนกันเกิดขึ้น ฟังดูน่ากลัวมาก มันบอกว่าถ้าไปเที่ยวแล้วไปเป็นกลุ่มทัวร์ แล้วเที่ยวแต่ในเมืองท่องเที่ยวไม่น่าจะปัญหา แต่ถ้าไปแล้วต้องไปอยู่คนเดียวในที่ ที่ไม่มีชุมชนของคน Asian อยู่เลยอย่าดีกว่า พวกนักเรียนญี่ปุ่นที่ไปบุกเบิกก็มีประเภทโดนปล้นรายวันเลย เราเลยคิดหนักว่า ท่าทางจะไม่ไหวเพราะ
1.   เดินทางไปคนเดียว รุ่นบุกเบิก ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ
2.    ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ที่ทาง ในยุโรปแพงขึ้นมาก
3.   ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เกี่ยวกับภาษา โปรตุเกส ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
ตกลงใจว่าถ้าอย่างนั้นช่างน้ำหนักดูยังพอมีทางเลือก เรียนให้ได้ใบอนุญาตของออสเตรเลีย ก่อนแล้วค่อยขอสอบเทียบใบอนุญาตเป็นของอังกฤษแล้วกัน อีกทั้งอยู่ที่นี่ต่อก็มีเรื่องที่ดีหลายเรื่อง
1.   ไม่ต้องไปเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ
2.   ที่อยู่ ที่กิน รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว
3.   มีกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทและคอยช่วยเหลือกันดีมากๆ
4.   เหตุผลข้อนี้สำคัญที่สุด คือ ปิ้งสาว คิดว่าเจออีกครึ่งนึงที่ดีของชีวิตแล้ว(My Better Half) มีโอกาสดีที่จะได้สานต่อ
รู้สึกว่าเรื่องเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว เริ่มซีเรียส จะขอพยายามไม่หลุดคอนเซ็ปของหนังสือนะครับว่า ท่านที่ไม่มีความรู้ทางด้านการบินควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้รู้เรื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจหรือเพื่อประกอบความรู้ ที่นี่พอตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปโปรตุเกสแล้วยังไงต่อล่ะ หาโรงเรียนดีกว่าก่อนอื่นก็โทรแจ้งโรงเรียนที่ South Australia ก่อนว่าตกลงว่าเราไม่เรียนแล้วนะ เค้าก็ถามเราว่าให้เปลี่ยนหลักสูตรก็ได้ เราบอกว่าถ้าให้เราเรียนหลักสูตรเดิมเราเอา เพราะถ้าเรียนเพื่อเอาใบอนุญาตออสเตรเลียเราคงไม่ต้องไปถึงที่นั่นหรอก (หมายเหตุโรงเรียนที่South Australia ตอนนี้เปลี่ยนชื่อไปแล้วนะครับ ท่านที่ PM ถามผมมาแล้วลองไป Search แล้วไม่เจอ ให้ PM มาใหม่นะครับ แล้วผมจะส่งเป็น website ใหม่ของโรงเรียนให้เลย ยังคงเป็นโรงเรียนดังและเข้ายากอยู่ แต่สายการบินใหญ่ก็ยังส่งนักเรียนการบินมาเรียนเช่นเดิม – ค่าเรียนแพงหน่อยนะครับ แต่คิดว่าคุ้มกับผลที่ได้ – ออ ตอนนั้นผมถามเค้าด้วยว่าระหว่างที่เรียนทำงานไปด้วยได้มั้ย เค้าบอกว่าไม่น่าจะได้เพราะ คงต้องเรียนหนักมากนะ)  ทางนั้นก็เข้าใจดี
มีคำแนะนำมาขั้นตรงกลางอีกอย่างนะครับ ท่านที่วางแผนจะไปเรียนการบินต่างประเทศ ประเทศเรามีแพทย์ที่สามารถตรวจร่างกาย เพื่อขอใบอนุญาตได้ทุกใบอนุญาตในโลกนี้นะครับ กรุณาลองสอบถาม และหาดูก่อนที่จะเดินทางนะครับ เพราะจะช่วยประหยัดไปมากมาย ย้ำ กรุณาตรวจก่อนเดินทางเพราะค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกายต่างประเทศนั้นแพงมาก ตรวจเท่าที่ตรวจได้ไปก่อน ถ้ามีอะไรต้งตรวจเพิ่มเติมค่อยไปว่ากันที่นั่นครับ อย่างใบอนุญาตของ Australia นั้น มีแพทย์ท่านนึงที่สามารถตรวจร่างกายได้ครับ ตรงนี้ข้อมูลจะลงลึกเกินไป PM แล้วกันครับ คุณหมอท่านใจดีมากๆ รู้จักนักบินที่ถือใบอนุญาต Australia เกือบทุกคน

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 06 July 2009, 22:08:33 +07
กลับมาต่อที่ Perth หาโรงเรียนการบินใหม่ เริ่มจาการที่เราเคยไปสนามบินที่เป็นสนามบินของการเรียนบินกับพี่บี มาแล้วไม่น่ามีปัญหา สนามบินที่เป็นสนามบินสำหรับเรียนการบินของ Perth ชื่อสนามบิน Jandakot Airport ครับ อยู่ทางใต้ของสนามบิน Perth สภาพแวดล้อมดีมากๆ ลืมบอกไปว่า Perth เป็นเมืองที่ลมแรงติดอันดับ3 ของเมืองที่ลมแรงที่สุดในโลก (ข้อมูลสมัยผมนะครับ) รองลงมาจาก Chicago แล้วก็อะไรอีกเมืองนึงจำไม่ได้ – ขออภัย – เหมาะแก่การเรียนบินมากมั้ยครับ บอกตามตรงครับ ถ้ารู้ก่อนว่าลมแรงขนาดนี้ย้ายที่เรียนไปแล้วครับ – จึงเป็นเหตุผล(รึเปล่า) ที่มีโรงเรียนการบินมาตั้งอยู่ที่นี่มากมาย รวมไปถึงโรงเรียนการบินของศิษย์การบิน Singapore Airline ต่อไปขออนุญาตใช้ SQ แทน Singapore Airline นะครับ SQ ส่งนักเรียนของเค้ามาเรียนบินที่นี่ก่อนที่จะส่งไปเรียน Jet transition ที่โรงเรียนเจ้าเก่าของผมที่ South Australia ครับ แล้วก็มีโรงเรียนการบินของ China Southern Airlines โรงเรียนการบินของ Royal Flying Doctor Services (RFDS) อันนี้เป็นของ Aussie เป็นบริการการขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศของรัฐบาลออสเตรเลียครับ เนื่องจากมีภูมิประเทศที่ใหญ่มากๆ ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศจำเป็น ทางรัฐบาลเค้าก็มีบริการไว้ให้ครับ แล้วก็มีโรงเรียนสอนบิน Helicopter ด้วย ส่วนการเลือกโรงเรียนการบินของผมนั้น 2 ที่แรกไม่ต้องพูดถึงรับแต่นักเรียนของตัวเองอยู่แล้ว ก็เลยไปดูโรงเรียนที่พี่บี เรียนอย่างละเอียดอีกครั้ง ผมมีหลักในการเลือกก็คือ ขอเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ไว้ก่อน เพราะ เครื่องบินเยอะ-ได้เปรียบ เวลาเราจะบินหรือเรียนต้องมีเครื่องบินพร้อมให้เราตลอดเวลา มีทดแทนกันได้ตลอด, ปริมาณครูการบิน อันนี้ขอลงลึกนิดนึง
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 06 July 2009, 22:21:12 +07
มีการสอบถามความคิดเห็นเรื่องทุนส่วนตัวเข้ามา ขออนุญาตให้อ่านเรื่องราวของผมไปเรื่อยๆก่อนนะครับ ยังพอมีเวลา ผมจะเขียนเรื่องราวที่ผมไปประสบพบเจอมาในชีวิต และรวมไปถึงเรื่องของเพื่อนๆผมที่ผมเห็นว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมไปถึงเรื่องของคนที่ไม่สมหวังในฝันด้วยนะครับ ทั้งสองแบบ หลังจากนั้นค่อยให้ท่านผู้อ่านตัดสินใจเองดีกว่าครับ ขออนุญาตเป็นข้อมูลให้เท่านั้น ผมต้องการทำเพราะว่าอยากให้คนที่มีความฝัน เหมือนหรือไม่เหมือนกับพวกเราในที่นี้ ได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูล เพราะรู้สึกว่าตอนที่ผมหาข้อมูลนั้น ลำบากยากเย็นแค่ไหนกว่าจะรู้เรื่องระบบต่างๆของการบินในโลกปัจจุบัน อยากให้ข้อมูลเหล่านี้ ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ต่อๆไปครับ ขอบคุณครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 06 July 2009, 23:58:05 +07
กลับไปอ่านทบทวนดู มีหลายๆที่ ที่มีการใช้ภาษาไทยผิดนะครับ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เนื่องจากรีบพิมพ์ ไม่มีโอกาสได้ทบทวนครับ ขอบคุณครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Phoebus on 07 July 2009, 21:24:37 +07
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับ
รอติดตามคับ  O18
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: sodasado on 08 July 2009, 10:56:32 +07
คุณน้า Perth มาต่อเร็วๆ นะครับ

ผมรออยู่เหมือนกันนน...
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: DuPont on 08 July 2009, 12:19:05 +07
ขอบคุณคุณ Perth มากๆครับ E30
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 08 July 2009, 13:49:39 +07
ก่อนที่จะเป็นครูการบินได้นั้น ก็ต้องมีใบอนุญาตก่อนเหมือนกันนะครับ ไม่ได้ดูจากการมีประสบการณ์หรือปริมาณชั่วโมงบิน การที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆ ได้ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี(CPL) ก็สามารถเรียนต่อเพื่อสอบใบอนุญาตเป็นครูการบินได้เลย หมายเหตุ ประเทศไทยกำลังสับสนกับเรื่องพวกนี้อยู่นะครับ รวมไปถึงการที่โรงเรียนการบินในเมืองไทยยังไม่ค่อยจะมีการเปิดสอนให้เป็นครูการบินเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าโรงเรียนการบินในเมืองไทยสับสน หรือ กรมขนส่งทางอากาศไทยกำลังสับสนกันแน่ นะครับ ต่อ ที่Australia นั้นครูการบินแบ่งออกเป็น สามระดับ คือ ครูการบินขั้นพื้นฐาน หรือครูการบินขั้นที่3 ต่อไปขออนุญาตเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษเลยนะครับ ว่า Grade 3 –Instructor หรือ Instructor Rating เหมือนกันครับ คือสอนพื้นฐานศิษย์การบินได้ บินในพื้นที่ที่ใช้เพื่อฝึกบินได้ หลังจากมีชั่วโมงสอนศิษย์มาพอประมาณแล้ว เก็บชั่วโมงครบ(ชั่วโมงสอนนะครับ ไม่ใช่ชั่วโมงบินรวม) ก็จะสามารถสอบเลื่อนขั้นไปเป็น Grade 2- instructor ได้ ก็จะมีสิทธิ์ในการปล่อยเดี่ยว หรือเช็คศิษย์การบินเพื่อบินทั่วไปได้ (GFPT- General Flying Progress Test  - อันนี้ขออธิบายในตอนที่เกี่ยวกับขั้นตอนในการเรียนบินของ Australia นะครับ)
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 08 July 2009, 13:50:22 +07
ต่อมาคือใบอนุญาตสูงสุดของการเป็นครูการบินใน Australia คือ Grade 1-Instructor อันนี้สูงสุดแล้ว คือสามารถ เช็คเพื่อออกใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคล (PPL) และเช็คเพื่อออกใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี(CPL) รวมถึงความสามารถของเครื่องบินต่างๆ ตามที่ครูการบินท่านนั้นมีบรรจุอยู่ในใบอนุญาตครับ มาดูทางฟากอเมริกาบ้าง การแบ่งระดับของครูการบินในอเมริกานั้นแบ่งออกเป็น CFI, CFII และ MEI ครับ อันนี้ผมยังค่อนขช้างสับสนอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน เอาคร่าวๆแล้วกันว่า CFI นั้นสามารถสอนนักเรียนได้ทั่วไป CFII สามารถสอนนักเรียนการบินที่เรียนการบินด้วยเครื่องวัดประกอยการบินได้ (Command Instrument Rating) ส่วน MEI คือครูการบินที่สามารถสอนในเครื่องบินแบบ สองเครื่องยนต์ได้ครับ  ต่อด้วยทางฝั่งอังกฤษและยุโรป ก็จะคล้ายกับทางAustralia ครับ ไม่ใช่สิ ที่ถูกคือต้องบอกว่า ทางAustralia คล้ายกับทางอังกฤษมากว่า ส่วนที่สุดท้ายประเทศไทยเราเองรวมถึง ประเทศที่ออกใบอนุญาตเป็นแบบ ICAOนะครับ มีแค่คำว่า Instructor Rating เท่านั้นครับ ก็เป็นครูได้ตามแบบเครื่องบินที่มีระบุอยู่ในใบอนุญาตครับ ส่วนเรื่องการแบ่งแบบเครื่องบินนั้นก็จะขออธิบายต่อไปภายหลังนะครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 08 July 2009, 13:51:12 +07
ที่นี้การดูปริมาณครูมีความสำคัญอย่างไร ครูยิ่งเยอะก็ยิ่งดีใช่มั๊ยครับ เปรียบเทียบเหมือนโรงเรียนมัธยมของรัฐในประเทศเรา ปัจจุบัน ครู 1 ท่านต่อปริมาณลูกศิษย์ประมาณ 50 คนได้มั้งครับ ครูก็เหนื่อย ลูกศิษย์จะถามอะไรก็เกรงใจ โดยทั่วไปโรงเรียนที่ผมเลือก ครูการบิน 1 คน จะดูแลศิษย์ไม่เกิน 2 คน ครับยิ่งตอนเริ่มบิน ก็จะเป็นแบบ 1 ต่อ 1 เลย จนกว่าจะเริ่มเรียน PPL หลังจากนั้นก็จะเป็นการสุ่มเช็คของโรงเรียนการบินเอง เช่น เรียน PPL หรือ CPL ไปแล้ว 3 flight ก็จะเปลี่ยนครูท่านอื่นที่ไม่ได้สอนเรามาตรวจสอบคุณภาพซักที ส่วนครูที่มีหน้าที่เช็คก่อนออกใบอนุญาต หรือปล่อยเดี่ยว จะไม่มาสอนศิษย์ เป็นประจำ แต่อาจจะมีบ้างในการตรวจสอบคุณภาพศิษย์เป็นครั้งคราวครับ เพราะฉะนั้นเครื่องบินเยอะ ครูเยอะไว้ก่อนดีกว่าครับ ออ การดูมาตราฐานของโรงเรียนก็สามารถตรวจสอบกับ  Website กระทรวง, ทบวง, กรม ที่ดูแลการบินในประเทศนั้นๆ ได้อีกทางหนึ่งครับ จะมีบอกเลยว่าโรงเรียนการบินที่ผ่านมาตราฐานการตรวจสอบนั้นมีโรงเรียนอะไรบ้าง
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 09 July 2009, 22:22:40 +07
หลังจากนั้นก็ดูต่อว่าการบำรุงรักษาเครื่องบินของที่โรงเรียนนั้นเป็นอย่างไร ง่ายมากคือเพราะถ้าสองอย่างแรกที่ให้ดู มาถูกทางแล้ว ปริมาณเครื่องบินที่มาก บ่งบอกถึงการแยกการซ่อมบำรุงเครื่องออกมาเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ลองขอเข้าไปดูในโรงเก็บเครื่องบินได้ครับ ว่ามีใบรับรองอะไรแขวนอยู่บ้าง ตอนที่ผมเรียนโรงเก็บเครื่องบินเป็นอีกที่ ที่ผมชอบไปอยู่เสมอไปคลุกคลีอยู่กับช่าง ประกอบกับขอดูดความรู้อยู่เป็นประจำ ได้ฝึกภาษาไปในตัวอีกต่างหาก แต่บางทีก็ต้องดูสถานการณ์ด้วยเหมือนกันนะครับว่าเค้ายุ่งกันอยู่รึเปล่า หลักๆขอแค่สามอย่างแล้วกันครับ ที่เหลือรายละเอียดปีกย่อยจะขอกล่าวต่อไปคือ การเดินทางไปโรงเรียนจากที่พักเดินทางอย่างไร มีที่พักบริเวณโรงเรียนด้วยรึเปล่า ที่โรงเรียนของ SQ จะมีที่พักจัดไว้ให้ใกล้กับโรงเรียนเดินมาเรียนได้ เหมือนกับที่หัวหินครับ มีสนามบอลไว้ให้ 1 สนาม ห้องเล่นเกมส์ (ขอเพื่อนเข้าไปดูมา) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ขอติดรถเข้ามาในเมืองทุกที สนามบินของโรงเรียนการบินในต่างประเทศนั้นจะอยู่ไกลจากชุมชนพอประมาณ เพราะคงมีแต่พวกเราเท่านั้นละครับ ที่บอกว่าชอบได้ยินเสียงเครื่องบินจัง รอบการเดินทางของรถเมล์นั้นมีน้อยมากๆ พลาดคันนึงก็เลิกเลย ส่วนผมตัดสินใจที่จะไม่อยู่ใน Jandakot ด้วยเหตุผลที่ว่าเราต้องหาเลี้ยงชีพ ด้วยการทำงานพิเศษไปด้วยเพื่อจะได้ ไม่ต้องรบกวนทางบ้านมากไปนัก ซึ่งพอบวก ลบ คูณ หาร ดูแล้วอยู่ข้างนอกคุ้มกว่า แต่พออยู่ข้างนอกก็ต้องการรถอีก เพื่อความสะดวกในการเดินทางมาเรียน (เพราะบางที เรียนแต่เช้า บางทีก็เรียนค่ำมืด ดึกดื่น) โชคดีที่ Australia มีกฎหมายที่ควบคุมความเร็วที่เข้มงวดมากๆ รถมือสอง-มือสามของที่นี่จึงมีสภาพดีและราคาถูก คิดดูแล้วถ้าซื้อมาราคานึง ขายได้ราคาประมาณนึง ลองมาคำนวณดูแล้วคุ้มกว่าขึ้นรถเมล์ แถมยังรับงานเพิ่มด้วยการส่งอาหารตามบ้านได้อีกต่างหาก เพราะงานส่งอาหารที่นี่ ทางร้านไม่มีรถไว้ให้บริการนะครับ ต้องมีมาเองแล้วถึงจะทำงานพวกนี้ได้ อีกเรื่องใบขับขี่ก่อนมาจากเมืองไทยก็เตรียมไปขอออกใบขับขี่นานาชาติมาเลย ที่ข่นส่งทางบก ใกล้ๆกับสถาบันการบินพลเรือนที่ตรงข้าม สวนจตุจักรนั่นแหละครับ แต่พอมาถึงที่ Australia ถ้าคิดว่าจะอยู่นานเกิน 1 ปีก็ให้ไปสอบใบขับขี่ของที่นี่ซะ เพื่อความสะดวกเวลาโดนเรียกตรวจครับ ได้ทดสอบความรู้ทางด้านการขับขี่รถยนต์ของเราเป็นภาษาอังกฤษด้วย มาคิดดูแล้วการให้ความสำคัญของการเดินทางระหว่างโรงเรียนกับที่พักก็สำคัญนะครับ ตรงที่ว่าบางทีเราเรียนเช้ามาก บางทีเราก็เรียนดึกมากๆ เพราะความเพลียบางครั้งก็ทำเอาเราแย่ไปเหมือนกัน
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 09 July 2009, 22:26:36 +07
อันตัวกระผมนั้นมีเรื่องที่จะต้องกล่าวขอบคุณอีกครั้ง (ลิเกสุดๆ) ถึงเพื่อนผู้ใจดีชาวญี่ปุ่น ที่กรุณาให้ผมเอารถยนต์ของเค้ามาใช้ในช่วงที่ผมยังหารถไม่ได้ช่วงแรก ส่วนมันยอมขึ้นรถไปเรียนเอง มันบอกว่าเห็นใจและอยากช่วยเพราะทั้งมันและผมต่างก็ไกลบ้านไกลเมืองมาด้วยกัน ต้องรักกันและช่วยกันเท่าที่จะช่วยได้ ซึ้งมากๆ
นอกเรื่องอีกแล้วนะน้า คราวนี้เรื่องโรงเรียนก็เรียบร้อย ต่อไปก็เรื่องระหว่างเรากับโรงเรียนละ ว่าควรดูอะไรบ้าง มีการระบุเป็นเวลาคร่าวๆหรือไม่ว่าเราควรจะใช้เวลาในการเรียนเท่าไร ค่าใช่จ่ายเท่าไร ในการค่าใช้จ่ายในการเรียนจำนวนนั้น มีการระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายประเภทใดบ้าง มีเวลาบินระบุไว้กี่ชั่วโมง โอ๊ยน้า เรื่องพวกนี้มันต้องเช็คอยู่แล้ว มาคุยเรื่องที่เรามักจะมองข้ามกันดีกว่านะ ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าระบุไว้ล่ะ คราวนี้จะคิดค่าใช้จ่ายยังไง ต้องรู้อันนี้สำคัญ ที่ตามมาก็คือแล้วถ้าตอนเราเรียนเกิดอุบัติเหตุกับเราแล้ว ใครเป็นคนออกค่ารักษาพยาบาล ใครจะรับผิดชอบถ้าเกิดเครื่องบินเสียหายขึ้นมา พวกนี้ควรจะรวมอยู่ในค่าเรียนของเราแล้วนะครับ(เป็นเหมือนซื้อประกันไว้แล้ว) ต้องดูให้แน่นะครับว่ามันอยู่ในค่าใช้จ่ายของเราแล้วจริงๆ ถ้าอยากจะละเอียดมากกว่านี้ก็ ถามด้วยว่า ไอ้ที่มันบอกว่าประกันน่ะ มันแค่ตัวเรากับเครื่องบิน แต่ถ้าความเสียหายไปเกิดกับบุคคลที่สามล่ะ ใครจ่าย เพราะสนามบินตามชนบทใน Australia มีปศุสัตว์เยอะมาก กรุณาระวัง จิงโจ้ วัว แพะ แกะ หรือบางที จระเข้ ก็มี ถ้ามันมีเจ้าของแล้วเราไปชนมันตาย ใครรับผิดชอบ เคยเกิดเหตุการนี้กับนักเรียนการบินของ.... ไม่เอ่ยดีกว่า บินเข้าไปในบ้านคนประมาณว่าร่อนเพลินมั้ง แล้วเป็นกรณีขึ้นมาว่า อันนี้ประกันจ่ายให้ อันนี้ประกันไม่จ่าย เป็นเรื่องราวกันพอสมควร เห็นมั๊ยครับ เพราะอะไรเราจึงต้องถามว่า ทำไม...

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: AP79 on 10 July 2009, 07:56:18 +07
ให้ข้อมูลที่ดีมากครับและละเอียดด้วย จะได้มีข้อมูลมาเปรียบเทียบกันครับ O19...ขอให้น้ามีกำลังใจเขียนต่อไปนะครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 12 July 2009, 21:39:14 +07
อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับทางโรงเรียนกรุณาอย่าจ่ายเป็นเงินก้อนนะครับ แต่ให้ชำระตามที่เราจะต่อรองได้ แบ่งจ่ายได้กี่งวด ก่อนจะสอบต้องจ่ายเท่าไร ทำให้อำนาจต่อรองอยู่กับเราเสมอ เผื่อเกิดกรณีที่อะไรต่อมิอะไร ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ จะได้เจรจาใหม่อีกรอบ ออ... แล้วทางโรงเรียนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการขอ Visa หรือต่อ visa ของเราด้วยนะครับ “โอ้โห...กว่าจะได้เริ่มเรียนบิน” ใกล้แล้ว ใจเย็นๆ
กลับมาต่อที่เรื่องของเรานะครับ การเรียนบินที่ Perth จึงได้เริ่มขึ้น ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อโรงเรียนอีกตามเคย การเรียนที่นั่นจะเริ่มด้วยการเรียน BAK ย่อมาจาก Basic Aeronautical Knowledge ครับ ก็จะเป็นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ อากาศกลศาสตร์เบื้องต้น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์เบื้องต้น พยากรณ์อากาศ อุตุนิยมวิทยา เห็นถามกันเรื่องเนื้อหาวิชาที่ใช้ในการสอบนักบินกันมาก วันนี้เลยเอามาเฉลยให้หมดเลย ว่าเนื้อหาวิชาที่ต้องใช้ในการเตรียมสอบบินนั้น สามารถหาได้อย่างง่ายดายจาก Internet ในปัจจุบัน รวมไปถึงหนังสือที่เกี่ยวกับการเตรียมสอบนักบินนั้นก็มีขายมากมายตามเว็บเพจของร้านหนังสือต่างๆ นั่นไง..ครับ....เฉลยไปแล้ว 1 เรื่องที่ถามกันจัง “ ใครไปเจอหนังสืออะไรดีๆ ก็เขียนกลับมาบอกกันบ้างแล้วกัน”  – ตอนนั้นก็จะโดนบังคับให้อ่านหนังสือ BAK เล่มใหญ่ก่อน 1 เล่มเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการแรกของการเรียนเพื่อใบอนุญาตนักเรียนการบิน (Student Pilot License)  การเรียนบินที่ออสเตรเลียนั้น จะมีการขอให้ซื้อชุดหูฟัง (HeadSet) เป็นของตนเองด้วยนะครับ เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าไม่ได้เรียน หมายถึงมาเช่าเครื่องบินเป็นครั้งคราว เพื่อบินชมวิวในเมือง Perth หรือเมืองใกล้เคียง ทางโรงเรียนก็จะมีบริการไว้ให้ เค้าแค่ขอว่าถ้าคิดจะเรียนบินก็ควรจะมีของตนเองซักอันน่าจะดีกว่า  ส่วนของส่วนตัวอีกชิ้นที่ผมคิดว่าสำคัญตอนเรียนคือ ที่ตรวจเช็คคุณภาพน้ำมัน(Dip Stick) ที่เห็นว่าจำเป็นเพราะที่ Perth สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบน ร้อนก็ร้อนซะ เวลาหนาวก็หนาวมากเช่นกัน อาจทำให้เกิดสภาพการปนเปื้อนในน้ำมันสูง(Fuel Contaminate) มีไว้ตรวจเองอันนึงดีกว่า

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 12 July 2009, 21:41:13 +07
ลืมไปครับ ก่อนเริ่มบินขอกลับไปเรื่องที่ติดค้างไว้ก่อนนะครับ การแบ่งประเภทเครื่องบิน ขออธิบายแบบของไทยก่อน ผมคิดว่าเรากำลังเลียนแบบของ ICAO แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว การแบ่งเครื่องบินของไทยนั้น (ขออนุญาตเขียนจากประสบการณ์ที่ได้เห็นจากใบอนุญาตเลยนะครับ) แบ่งเป็น
1.   แบบเครื่องยนต์เดี่ยว (Single Engine) – ที่ผมไม่แน่ใจก็คือของ  ICAO จะมีการแบ่งแบบ เครื่องยนต์เดี่ยวน้ำหนักวิ่งขึ้น( Maximum TakeOff Weight)ไม่เกิน 5,700 ก.ก.  แต่ของไทยถึงแม้จะได้ใบอนุญาตที่พิมพ์ว่า  Single Engine Land (Land หมายถึง พื้นดิน มี Land กับ Sea ครับ) แล้วแต่ก็ไม่ได้มีการระบุน้ำหนักของการวิ่งขึ้นเอาไว้ครับ
2.    แบบมากกว่า 1 เครื่องยนต์ (Multi Engine) ไม่รู้จะอธิบายยังไงเอาเป็นว่ามีมากกว่า 1 เครื่องยนต์แล้วกันครับ
นอกนั้นก็จะเป็นประเภท ออพชั่นเสริมเช่น ถ้าเป็น Transport Aircraft ที่ต้องการนักบินมากกว่า 1 คน ในการปฏิบัติงาน ก็ต้องมีระบุแบบของเครื่องบินนั้นๆ ไว้ในใบอนุญาตด้วยครับ เช่น  Co-Pilot B737-400 หรือ Captain B737-400
ทาง Australia ล่ะ ต่างกันโดยรายละเอียดปลีกย่อยที่กล่าวว่า มีระบุว่าน้ำหนักวิ่งขึ้นไม่เกิน 5,700 ก.ก. แล้วแบบออพชั่นเสริมต่างๆก็ ก่อนจะบินได้จะต้องมีการระบุแบบลงในใบอนุญาตก่อนนะครับ คร่าวๆเช่น
1.   Single Engine – Land , Sea ระบุน้ำหนักด้วยครับ Sea ก็คือ Sea Plane ที่สามารถขึ้นลงในทะเลได้ครับ
2.   Multi engine – Land, Sea
3.   อันนี้ไม่มีของไทยครับ คือ Constant Speed Prop --- เครื่องบินที่บินด้วยเครื่งอยนต์แบบความเร็วรอบใบพัดคงที่
4.   อันนี้เมืองไทยก็ไม่ระบุ Retractable Under-Carriage (อเมริกา เรียก Gear ครับ) คือเครื่องบินที่เวลาบินขึ้นไปแล้วเก็บล้อได้
5.   อันนี้เมืองไทยก็ไม่ระบุอีก Tail Wheel ครับ เครื่องบินแบบที่มีล้ออยู่ที่หาง
6.   เมืองไทยไม่ระบุเช่นกัน – เครื่องบินที่มีปีก 2 ชั้นครับ
7.   เมืองไทยไม่มีอีก ----น่าจะบอกว่าเมืองไทยมีอันไหนน่าจะง่ายกว่า ----- เครื่องบินที่ใช้สำหรับการบินผาดโผน, บินผาดแผลง ครับ และอื่นๆ อีกมากมายที่ผมสามารถนำมาบรรยายคร่าวๆ พอทำความเข้าใจในแบบเครื่องบินเท่านี้พอนะครับ
ส่วนแบบสองเครื่องยนต์นั้น ต้องระบุแบบ นั้นๆในใบอนุญาตก่อนนะครับ แล้วถึงบินเครื่องแบบนั้นๆ ได้เช่น ต้องมี Multi Engine ก่อน แล้วก็ระบุแบบลงไปอีกว่า Multi Engine ที่ว่าเป็นแบบไหน ยกตัวอย่างถ้าเทียบกับเมืองไทยก็เช่น เครื่องบินสองเครื่องยนต์ Piper Seminole ก็ต้องมีตัวย่อของแบบ PA44 ระบุในใบอนุญาตครับ จึงจะสามารถทำการบินในแบบนั้นๆได้
นอกเหนือจากนั้น พวกออปชั่นเสริมของเครื่องยนต์แบบต่างๆ  Turbo Prop, Turbo Charge ฯลฯ ก็ต้องระบุไว้ในใบอนุญาตทั้งหมดครับ พวกที่เป็นใบอนุญาตที่เกี่ยวกับการบินจะขอกล่าวต่อไปในภายหลังครับ จะเห็นได้ว่าใบอนุญาตในการบิน ไม่เหมือนใบอนุญาตรถยนต์เลยนะครับ ที่เราสามารถขับรถยี่ห้ออะไรก็ได้ โดยที่ไม่ต้องระบุในใบขับขี่ เช่นไม่ต้องสอบใบอนุญาตเพื่อที่จะขับ Benz, BMW, TOYOTA  อะไรทำนองนี้ แต่เครื่องบินไม่ได้เลยนะครับ แบบไหนต้องแบบนั้น คราวนี้ท่านที่เคยสอบถามพวกเรามาก็ได้คำตอบไปด้วยนะครับ…

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 13 July 2009, 22:12:58 +07
ช่วงนี้เวลาเขียนน้อยหน่อยนะครับ ขออภัยไว้ได้วยครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Hakunamatata on 13 July 2009, 23:25:19 +07
ขอเสริมเรื่องใบขับขี่ของที่โน้น ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากไปเรียนบินที่ Australia นะครับ

สมัยผมอยู่โน้น ผมเอาใบขับขี่เมืองไทยเนี้ยแหละ ไปแปลที่กงศุล (Consulate) ของแต่ละเมือง เค้าจะให้กระดาษมาแผ่นนึง ก็ให้เก็บไว้ตลอดเวลาขับรถ ค่าแปลผมจำไม่ได้และ (คิดว่าไม่แพงนะ) แต่ใช้ได้ตลอดชีพเลยครับ ขับรถที่โน้นไม่ยากครับ (พวงมาลัยขวาเหมือนเมืองไทย) ขอให้ตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัดเป็นพอ รับรองไม่มี ticket แปะอยู่หน้ารถ หรือว่า ส่งไปที่บ้านแน่นอน
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: meenoi on 13 July 2009, 23:59:41 +07
ขอเสริมเรื่องใบขับขี่ของที่โน้น ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากไปเรียนบินที่ Australia นะครับ

สมัยผมอยู่โน้น ผมเอาใบขับขี่เมืองไทยเนี้ยแหละ ไปแปลที่กงศุล (Consulate) ของแต่ละเมือง เค้าจะให้กระดาษมาแผ่นนึง ก็ให้เก็บไว้ตลอดเวลาขับรถ ค่าแปลผมจำไม่ได้และ (คิดว่าไม่แพงนะ) แต่ใช้ได้ตลอดชีพเลยครับ ขับรถที่โน้นไม่ยากครับ (พวงมาลัยขวาเหมือนเมืองไทย) ขอให้ตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัดเป็นพอ รับรองไม่มี ticket แปะอยู่หน้ารถ หรือว่า ส่งไปที่บ้านแน่นอน
ที่กรุงเทพก็ไม่มี ticket นะ ... จ่ายสดเลย   E06
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: karn on 14 July 2009, 21:58:02 +07
$25 ครับผมค่าแปล หมดอายุตามใบขับขี่ที่ระบุของประเทศไทยครับ ทำได้ที่กงศุลประจำเมืองทุกเมืองครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 16:26:14 +07
ที่ผมเจอคำถามค่อนข้างบ่อยคือ บินเฮลิคอปเตอร์ ได้ด้วยรึเปล่าอันนี้ก็ขอชี้แจงด้วยเลยว่าใบอนุญาตของเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ คนละใบอนุญาตกันนะครับ คนที่จะบินได้สองประเภทก็ต้องเรียนทั้งสองแบบครับ มีรุ่นพี่นักบินเราหลายท่านที่ถือใบอนุญาต ทั้งสองแบบเลยนะครับ โดยแยกเป็น เครื่องบิน(Fixed Wing) และเฮลิคอปเตอร์(Rotation wing) ครับ
ส่วนข้อมูลเครื่องบินของทาง USA สอบถามมาแล้วได้ความว่า ใบอนุญาตคล้ายๆกับของไทยครับ แต่ที่ USA มากกว่าก็คือ แยกเป็นเครื่องบินที่เครื่องยนต์มากกว่า 200 แรงม้าเท่านั้นครับ นอกนั้น  Single engine หรือ Multi engine ก็คล้ายกับไทย
กลับมาต่อที่เรื่องของผมนะครับ  การเรียนจึงได้เริ่มต้นจาก BAK ครับ แรกเริ่มเลยการบินเที่ยวแรกผมขอเรียกเป็นไทย ว่าการลองบินแล้วกัน(Trial instruction Flight) ครูการบินจะสอนให้ดูพวกอุปกรณ์ ชิ้นส่วนของเครื่องบินต่างๆว่าอะไรเรียกว่าอะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง แล้วก็พาเราไปพื้นที่ฝึกบิน บินผาดโผน-แล้วแต่คำขอ—ครูบางท่านทำได้บางท่านก็ไม่ได้นะครับ แล้วแต่ใบอนุญาตครับ ให้เราลองได้จับ และลองควบคุมคันบังคับ ก็เป็นการบินที่เราได้ลองดูก่อน ส่วนใหญ่ทางโรงเรียนจะจัดคนที่เค้าคิดว่าจะสอนเรามาบินแนะนำเราในเที่ยวแรกนี้เลย เราก็จะได้ลองดูประกอบการตัดสินใจด้วยว่า ท่านที่จะมาสอนเราเนี่ย เค้าเข้ากับเราได้หรือไม่ กรุณาเลยนะครับ เราไปเรียน ถ้าเราเห็นว่าครูคนนี้คิดว่าไม่เหมาะกับเราก็เปลี่ยนดีกว่า เพราะถ้าได้ครูที่ดีจะเป็นผลดีกับเราไปตลอดชีวิตการบินเลยครับ หลังจากกลับมาแล้วทางโรงเรียนก็จะสอบถามเรื่อง ใบสำคัญทางการแพทย์ ต่อไปขอเรียก Medical License เลยนะครับ ในขั้นตอนการเรียน BAK นั้นต้องการแค่ใบอนุญาตขั้น 2 เท่านั้นครับ  Class 2 – Medical เท่าที่ผมจำได้ข้อแตกต่างระหว่าง Class 2 กับ Class 1 Medical ของ Australia นั้นต่างกันคือเรื่องความละเอียดในการตรวจสายตาเท่านั้นครับ

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 16:27:02 +07
เครื่องบินที่ผมเลือกเรียนนั้นก็คือเครื่องบินแบบ Cessna  152 ครับ ผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดในเรื่องบทเรียนนะครับ แต่จะอธิบายคร่าวๆพอเห็นภาพเท่านั้นครับ ก็จะมีการสอนเกี่ยวกับ ข้อจำกัดต่างๆ ของเครื่องบินรุ่นที่เราจะเรียน ก่อนแล้วก็จะเรียนพื้นฐานการควบคุมเครื่องต่างๆ บินตรง บินระดับ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา บินในวงจร (Circuits) ท่านที่นึกภาพไม่ออก ว่าวงจรการบินเป็นอย่างไร อธิบายได้ว่า นึกถึงทางวิ่ง Runway ของเครื่องบินนะครับ ก็จะได้ถนนเส้นตรงๆ มาหนึ่งเส้นแล้วนะครับ ลากถนนเส้นนั้นต่อขึ้นไปบนฟ้าครับ หลังจากนั้นก็เลี้ยวขวา 90 องศา – เรียกวงจรทางขวา – Right hand Circuit ถ้าที่ที่สนามบินบอกให้เลี้ยวซ้ายก็เรียกวงจรทางซ้ายครับ Left hand Circuit หลังจากเลี้ยวขวาหรือซ้ายแล้ว ก็ลากเส้นต่อไปอีกประมาณ ครึ่งนึง ของ Runway ที่เราวิ่งขึ้นมาแล้วก็เลี้ยวขวา 90 องศาอีกครั้งนะครับ อ้อ... การเลี้ยวถ้าขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาก็ขวาตลอดนะครับ ซ้ายก็ซ้ายตลอด ไม่มีเลี้ยวแบบสลับนะครับ คราวนี้เราก็จะอยู่ขนานกับ Runway ที่เราวิ่งขึ้นมาแล้วนะครับแต่เป็นทิศทางตรงกันข้ามกัน หลังจากนั้น ก็บินต่อไปเพื่อจะลากเส้นให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ต่อเส้นจาก Runway ที่เราบินขึ้นมา ก็คือเลี้ยวขวาอีก 2 ครั้ง เพื่อกลับมาทาง Runway ที่เราบินขึ้นมา เรียกว่า บินวงจรหรือ Circuit นะครับ ----หวังว่าท่านที่ยังไม่มีความรู้ทางด้านการบินคงเข้าใจการบินวงจรแล้วนะครับ -----
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 16:27:43 +07
การบินหลักๆของช่วงนี้ก็จะอยู่ที่พื้นที่การฝึก(Training Area) กับในวงจร (Circuit)เท่านั้นครับ ก่อนที่จะมีการปล่อยเดี่ยว (Solo Flight) เราก็ต้องบินให้ครูที่นั่งข้างเราตลอดในช่วงนี้เห็นว่า เราสามารถควบคุมเครื่องได้แล้วนะ น่าจะให้บินเดี่ยวได้รึยัง อะไรทำนองนี้ การฝึกในวงจรส่วนใหญ่ก็เป็นการ ฝึกขึ้นลงสนามแบบล้อแตะพื้นแล้วไปต่อ(Touch And Go) ตอนผมบินฝึกก็มีเพื่อนที่เริ่มเรียนพร้อมกันหลายคน มีสุภาพสตรีท่านนึงมาเรียนอายุประมาณ 45ปี มาเรียนเพื่อขอใบอนุญาต PPL  เธอเป็นผู้ใหญ่น่ารัก-พร้อมทำให้เพื่อนเฮฮาตลอด แม้แต่ตอนบินวงจร คือว่าตอนที่เราบินมาขนานกับ Runway ทิศทางตรงกันข้ามแล้วนั้น จะต้องมีการติดต่อวิทยุเพื่อบอกหอบังการ(Tower) ว่าเที่ยวนี้เราจะทำอะไรเช่น หยุดเลยรึเปล่า หรือ แตะแล้วจะไปต่อ ตอนนั้นเครื่องบินในวงจรมีประมาณ 7 ลำครับ ทุกลำก็ยุ่งกันมากแถมยังต้องคอยระวังกันอีก เธอก็พูดวิทยุบอกหอบังคับการว่า ตอนนี้เธออยู่ตำแหน่งนี้นะ เที่ยวนี้เธอจะทำ Bounce And Go (เด้ง แล้วไปต่อ) ทำให้ทุกลำเฮฮา สนุกสนานไปได้เหมือนกัน – ทั้งนี้ขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดอะไรที่ผิดจากมาตราฐานในการติดต่อกับหอนะครับ----
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 16:28:39 +07
ต่อดีกว่าหลังจากนั้นก่อนที่จะมีการปล่อยเดี่ยวก็จะต้องสอบ Pre-Solo Exam ก่อนนะครับ สอบผ่านแล้วก็จะมีครูอีกท่านมาเช็คเราว่าพร้อมแล้วรึยัง ก็จะบินกับท่านที่เป็นครูตรวจสอบนี้ในวงจรอีก 2 -3 รอบ ถ้าดีท่านก็จะเป็นคนปล่อยเดี่ยวเราเลยครับ ผมเชื่อว่านักบินทุกคนจำวันปล่อยเดี่ยวของตัวเองได้ครับ ตื่นเต้น.. สนุก.. โอ๊ย...ทุกความรู้สึก ของผมครูถามว่ารู้รึเปล่าว่าจะได้ปล่อยเดี่ยวแล้วนะ แล้วก็บอกว่าเที่ยวต่อไปกลับมาลงเครื่องจะเบากว่านี้นิดนึงนะ แล้วครูก็บอกว่าปล่อยแกลงตรงนี้ได้เลย แล้วไปต่อเอง หอบังคับการบินก็จะตื่นเต้นไปกับเราด้วย รอบแรกให้เที่ยวเดียวบินในวงจรแล้วกลับมาลงเลย พอกลับมาหอยังคับการเค้าก็จะประกาศออกวิทยุเลย ว่าเราปล่อยเดี่ยวแล้ว ยินดีด้วยนะ....เริ่มจะบินเป็นแล้วนะเรา..
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 16:29:06 +07
หลังจากบินแค่ในวงจรต่อจากนี้ก็จะเริ่มบินไกลขึ้นกว่าเดิม ออกไปในพื้นที่ฝึกมากขึ้น ก่อนที่จะมีการปล่อยเดี่ยวในพื้นที่ฝึกอีกครั้งก็จะต้อง Pre Area Solo Exam อีกตามเคยครับ หลังจากนี้ก็จะมีการปล่อยเดี่ยวในพื้นที่ฝึก Training Area Solo ออ ก่อนออกพื้นที่ฝึกก็ต้องมีสอบใบอนุญาตในการใช้วิทยุด้วยนะครับ อันนี้ก็เหมือนกันทั่วโลกครับเรียกว่า Flight Radio Operators License ครับ เก็บชั่วโมงหาความชำนาญต่อ ก่อนที่จะสอบ BAK ครับ เพื่อที่จะสอบภาคอากาศเพื่อออกใบอนุญาต GFPT ครับ GFPT อนุญาตให้นักเรียนการบินบินเดี่ยวในวงจร กับพื้นที่ฝึกได้ครับ.....ต่อไปจะเป็นส่วนที่ผมคิดว่าเป็นช่วงการเรียนบินที่สนุกของผมแบบสุดๆเลยครับ PPL นั่นเองครับ จะขอแบ่งเป็นภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัตินะครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 18 July 2009, 17:07:41 +07
ขอโทษ ขอแทรกกลับมาเรื่องใบขับขี่อีกครั้ง รบกวนท่านที่อยู่ออสเตรเลีย ตอนนี้ช่วยเช็คให้หน่อยนะครับว่า ยังคงเหมือนตอนที่ผมอยู่รึเปล่า ว่าสิทธิ์ที่ได้ระหว่างใบขับขี่ที่แปล กับใบขับขี่ที่ทำที่ออสเตรเลียต่างกันอย่างไร เพราะตอนที่ผมอยู่จำได้ว่ามีสิทธิ ไม่เท่ากันอยู่นะครับ ลองเช็คดูครับ ไม่แน่ใจว่า ตอนเช่ารถ หรือตอนที่ทำประกันภัยรถ ซักอย่างนี่แหละครับ ขอโทษนะครับเห็นเขียนกันเรื่องนี้เลยอยากทราบขึ้นมาเหมือนกัน ----เรื่องมันนานมามากก แล้วครับ ขออภัยที่ให้รายละเอียดจุดนี้ไม่ได้นัครับ ขอบคุณครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: karn on 18 July 2009, 18:42:45 +07
ผมอยู่ที่ออสเตรเลียครับผม แล้วเรื่องใบแปลนั้นมีสิทธิเท่าเทียมกับใบขับขี่ของออสเตรเลียเลยครับ ยกเว้นแต่ใบแปลนั้นจะไม่มีpointให้โดนปรับแต่จะโดนปรับเงินทันทีที่ทำผิดกฏทันที และถ้าเราทำผิดมากเกินไปและโดนปรับบ่อยทางกงศุลสามารถจะระงับใบแปลของเราได้ครับ ใบแปลนั้นสามารถเช่ารถได้แต่ต้องมีบจริงแนบด้วยเวลาขอเช่ารถ ผมค่อนข้างมั่นใจนะครับผมเช่ามา2บริษัทแล้วไม่มีปัญหานะครับ(Avis, Eurocar) แต่ถ้าจะเช่ารถ 6ล้อต้องมีอายุเกิน25 ปีนะครับ

ในการซื้อรถนั้นไม่มีปัญหาครับถ้าเราแปลมาเรียบร้อยแล้ว และบริษัทประกันก็ไม่มีคิด rate เพิ่มแต่อย่างใด แต่ต้องระวังดีๆนะครับเวลาแปลแล้วต้องเก็บใบจริงและใบแปลอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพราะวันดีคืนดีตำรวจจะขอเราดูได้ ถ้าไม่มีโดนปรับหนักครับ และให้เดินกลับบ้านด้วย



Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Patat on 19 July 2009, 14:10:26 +07
ขอบคุณพี่มากๆเลยนะคร๊าป

ผมจะรอติดตามตอนต่อไป

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 20 July 2009, 23:06:56 +07
เริ่มที่ภาคทฤษฎี ก็ต้องมาดูว่าใช้หนังสือเรียนอะไรบ้างนะครับ ตำราเรียนทางด้านการบินก็ทั่วไปตามแต่หลักสูตรของแต่ละโรงเรียนจะกำหนดนะครับ ที่อยากเน้นคือตำราหลักครับ ของไทยเรียนตามตรงว่าไม่ทราบครับ ของอเมริกาก็จะมี  FAR/AIM ครับ ของ Australia ก็จะมีดังนี้ครับ Aeronautical Information Publication (AIP), Civil Aviation Regulations (CAR), Civil Aviation Order (CAO), En-route Supplement of Australia (ERSA), Civil Aviation Advisory Publications (CAAPs) ครับ AIP จะเป็นตำราหลัก ซึ่งรวมรายละเอียดที่ต้องรู้ในการบินประเทศนั้นๆ ไว้ทั้งหมดครับ เรื่องใบอนุญาต ชั่วโมงที่ต้องการก่อนออกใบอนุญาต การสอบขอใบอนุญาต เอาง่ายๆ ว่าทั้งหมดที่ต้องรู้ครับ, คำถามชวนคิด ----ถามดีมั๊ย ตอนนี้นักบินที่ถือใบอนุญาตของไทย มี AIP ของประเทศไทยกี่คนครับ ข้างในมีเนื้อหาอะไรบ้างครับ มีกี่โรงเรียนการบินในประเทศไทย ที่สอน AIP และบอกเราถึงความจำเป็นที่ต้องมีมันอยู่ครับ-- --ขอให้คำถามนี้เป็นคำถามให้คิดต่อแล้วกันนะครับ ไม่ได้มีเจตนาให้เกิดข้อโต้เถียงหรือ ต่อว่าแต่อย่างไร เพราะประสบการณ์สอนว่าการที่ต่างประเทศจะยอมรับมาตรฐานการบินของประเทศเราหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนอุบัติเหตุเภทภัยที่เกิดขึ้น แต่มาตรฐานในการแบ่งชั้นของการบินเค้าจะพิจารณาที่เนื้อหาตำรา และระเบียบกฏข้อบังคับของประเทศนั้นๆครับ เรามักจะได้ยินแต่ความคิดว่า “อยากให้ประเทศเราจะเป็นศูนย์กลางการเรียนบินในภูมิภาคนี้”  แต่เราทำอะไรเพื่อมารองรับมันบ้างล่ะครับ----ไม่เอาไม่พูดเรื่องการเมือง---AIP ของประเทศไทยสามารถหาซื้ออ่าน และเป็นสมาชิกได้ครับ ติดต่อกรมขนส่งทางอากาศครับ เพราะการที่เราจะบินเข้าประเทศใดๆนั้น เราควรจะรู้กฎ กติกา ระเบียบ ต่างๆของเค้าใช่มั๊ยครับ รายละเอียดขอไม่ลงลึกไปกว่านี้นะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการบ่น + ก้าวก่าย...เฮ้อ !
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 20 July 2009, 23:08:17 +07
ตอนที่ผมเรียน PPL นั้นเป็นช่วงที่ Australia เปลี่ยนกฎหมายทางการบินใหม่ บังคับให้นักบินทุกคนที่ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถสร้างเครื่องบินเองได้ หรือ มีสนามบินของตัวเอง และ แม้กระทั่งทำการบินแต่ในบริเวณอาณาเขตพื้นที่ดินของตัวเองก็ตาม จะต้องมีใบอนุญาต PPL ทั้งหมด หลังจากนั้นค่อยไปแบ่งชั้นตามใบอนุญาตอีกที แต่พื้นฐานคือต้องมี PPL ครับ เพื่อนร่วมชั้นเรียนของผมจึงมากหน้า คละอายุ มีตั้งแต่ 17 ไปจน 50 กว่าก็มี พวกอายุน้อยก็จะเป็น พวกวัยรุ่นอยากเป็นนักบินทั้งหลาย (ผู้ร่วมอุดมการณ์) และ พวกอายุเยอะหน่อย----ก็พวกนี้เจ๋ง ประสบการณ์ในการบินเหลือเฟือ มีเครื่องบินเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของฟาร์มสัตว์ หรือไม่ก็สวนผลไม้ตามชนบทของ Australia ครับ บินพ่นยาฆ่าแมลงเองบ้าง บินนับแกะ บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกบินตามใจฉันมาตลอด พวกเค้าจึงแอบค่อนข้างเซ็งเล็กน้อย เมื่อโดนจับมาเรียนกฏระเบียบต่างๆ แต่เค้าก็เข้าใจ มองเห็นความสำคัญ และตั้งใจเรียนดีมาก ก็ถือว่าเป็นชั้นเรียนที่สนุกมากๆ เลยทีเดียว ก่อนเริ่มชั้นก็มีแนะนำกันตัวกันตามระเบียบ สรุปว่ามีผมหัวดำคนเดียวเลย การเข้าเรียนภาคทฤษฎีนั้นไม่ได้เป็นภาคบังคับของที่นี่นะครับ แต่เป็นแบบสมัครใจ ถ้ามีความสามารถในการอ่านหนังสือแล้วเข้าใจเองได้ สามารถสอบผ่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเงินในส่วนนี้ครับ สำหรับผมเรียนแน่นอนครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 20 July 2009, 23:08:58 +07
หลังจากนั้นก็จะมีการแนะนำว่าอุปกรณ์ที่ต้องใช้เรียนมีอะไรบ้าง ---เอกสารประกอบการเรียนที่บอกไปข้างต้นเป็นแบบภาคบังคับต้องมีนะครับ ส่วนเอกสารอธิบายเสริม โรงเรียนควรจะทำแจกเพราะรวมอยู่ในค่าเรียนแล้วครับ----อุปกรณ์ก็เช่นแผนที่-ซื้อเฉพาะพื้นที่ที่เราใช้บินก่อนนะครับ อันนี้มีหลายมาตราส่วนก็เลือกใช้ตามความเหมาะสม เลือกตามที่โรงเรียนใช้แล้วกัน , Flight Computer –เครื่องคำนวณของนักบิน ครับ เรียกอีกอย่างว่า Wiz Wheel – วงเวียนพ่อมด คิดได้ทุกอย่างมีลักษณะเป็นวงกลมใช้หมุนไปหมุนมาเพื่อหาคำตอบที่ต้องการครับ, ไม้บรรทัดที่มีอัตราส่วน ที่ใช้บนแผนที่ อันนี้เพื่อใช้กับแผนที่ครับ การเรียนวิชาของ PPL นั้นก็จะแบ่งออกเป็น ดังนี้ครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Patat on 21 July 2009, 23:01:39 +07
โปรดติดตามตอนต่อไป!

แฟนตัวยง O07
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: sodasado on 23 July 2009, 10:05:26 +07
รอติดตามฟังเหมือนกันครับ...!!!
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Perth on 23 July 2009, 23:07:11 +07
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นขอขอบคุณ ที่เป็นกำลังใจและติดตามเรื่องราวของผมมาโดยตลอดนะครับ ตอนนี้ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม แต่ด้วยเงื่อนไขบางอย่างจึงจำเป็นต้องขอยุติการโพสไว้แต่เพียงเท่านี้ นะครับ
สำหรับท่านที่มีคำถามอะไรที่อยากถาม กรุณาฝากข้อความมาทาง PM ได้นะครับ ถ้าผมมีเวลาว่างและช่วยตอบให้ได้ ยินดีเสมอครับ ขอบคุณครับ O07

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Patat on 24 July 2009, 02:07:59 +07
ออกเมื่อไหร่รบกวนโพสต์บอกด้วยนะครับ

อยากอ่านจริงๆครับ. . .
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Zeus on 24 July 2009, 17:07:09 +07
มีต่อseason 2 ด้วย O20
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: Patat on 31 July 2009, 20:19:59 +07
เห้อ

อยากอ่านต่อจังเลย  O21

เมื่อไหร่จะออกเป็นรูปเล่มอ่าคร๊าปป

Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: oldjet on 31 July 2009, 22:22:45 +07
เรื่อง AIP ที่ รร.การบิน กำแพงแสนครับ ของกองทัพอากาศสอนครับและสามรถนำมาใช้ได้เมื่อจบออกมาจริงครับ
Title: Re: Journey to The Sky, การเดินทางสู่ท้องฟ้า (ของผม)
Post by: monthaka on 08 August 2009, 02:39:05 +07
 O22 อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะ ขอบคุณครับ  E37