นักบิน, สอบนักบิน, โรงเรียนการบิน, เรียนบิน | SakNid.com
บ้านแห่งการบิน => ห้องการบิน การบินไทย, ThaiSmile:), Nok Air => Topic started by: zianaum on 12 December 2012, 17:20:27 +07
-
ที่ผมต้องกระทู้นี้
จุดประสงค์ : อยากรู้ว่าทำไมพวกพี่ถึงสอบไม่ผ่าน เพราะอะไร เหตุผล รายละเอียด ครับ
คิดว่าตัวเองตกเพราะอะไรครับ ปัจจัยอะไรที่ทำไม่ให้ผ่าน
เพื่อได้เป็นแนวทางให้น้องๆได้ปรับปรุงตัวเองเอาไปใช้ในการสอบครั้งต่อไปครับ
จริงๆผมเห็นพวกพี่ตั้งกระทู้คนสอบผ่านกันมาก็เยอะละ ผมอยากรู้ว่าคนที่ไม่ผ่านพลาดตรงไหน อะไรยังไงครับ
ช่วยเล่าอธิบายให้ฟังด้วยนะครับ O29 ขอบคุณครับ
-
มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิครับ เพราะเค้าไม่เคยบอกว่าเราตกเพราะอะไร ตอนผมคุยกะโปรฯ เค้าพูดดีทุกอย่าง ชมตลอด ยังนึกในใจว่าคงติดแล้วล่ะ แต่ปรากฎว่าพอประกาศชื่อ ไม่มีชื่อผม O23
แต่เท่าที่ผมคิดส่วนใหญ่จะมาจาก
1. คะแนนรอบผ่านๆ มาไม่ดีเท่าที่ควร และจนวันสอบสัมภาษณ์เราก็ยังแสดงให้เค้าเห็นว่าเราด้อยในบางจุดจริงๆ
2. ขาดความเป็นผู้ใหญ่
3. ขาดความเป็นผู้นำ ไม่กล้าตัดสินใจ
4. มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
เท่าที่ผมนึกออกก็ประมาณนี้แหล่ะครับ ส่วนจะฝึกกันยังไงให้มีคุณสมบัติต่างๆ คงต้องไปหากันเองครับ เพราะว่าผมก็ยังคงไม่ผ่านโปรอยู่ดี E21
-
มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิครับ เพราะเค้าไม่เคยบอกว่าเราตกเพราะอะไร ตอนผมคุยกะโปรฯ เค้าพูดดีทุกอย่าง ชมตลอด ยังนึกในใจว่าคงติดแล้วล่ะ แต่ปรากฎว่าพอประกาศชื่อ ไม่มีชื่อผม
แต่เท่าที่ผมคิดส่วนใหญ่จะมาจาก
1. คะแนนรอบผ่านๆ มาไม่ดีเท่าที่ควร และจนวันสอบสัมภาษณ์เราก็ยังแสดงให้เค้าเห็นว่าเราด้อยในบางจุดจริงๆ
2. ขาดความเป็นผู้ใหญ่
3. ขาดความเป็นผู้นำ ไม่กล้าตัดสินใจ
4. มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
เท่าที่ผมนึกออกก็ประมาณนี้แหล่ะครับ ส่วนจะฝึกกันยังไงให้มีคุณสมบัติต่างๆ คงต้องไปหากันเองครับ เพราะว่าผมก็ยังคงไม่ผ่านโปรอยู่ดี
O29 ขอบคุณครับที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ อย่ายอมแพ้นะครับสู้ๆ!! ครับ
-
ขอแชร์ประสบการณ์ตกรอบ Teamwork ครับ
ตอนที่สอบผมรู้สึกสนุกมากในการทำงานมากครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทำงานเป็นกลุ่มแบบจริงจัง
พอประกาศผลออกมา ผมตกคนเดียวในกลุ่ม อ่าวววว นอนร้องไห้สิครับ
คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมผมถึงตก เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ค่อยๆคิด อ๋อ...
-คะแนนรอบก่อนAPTอาจจะทำได้ไม่เยอะ (ปี2011ผมตกรอบกัปตัน)
-ผมไปคิดเยอะเกินไป ไปเบรกพวกเดียวกันเกินไป ผิดนิดผิดหน่อยผมไม่ปล่อย กลุ่มเลยติดขัด ไปต่อไม่ได้
-ความเป็นผู้ใหญ่ผมไม่ค่อยมี ผมใจร้อนคิดแล้วพูดเลย ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อนพูด
อันนี้ก็คือผมนั่งคิดเอาเองน่ะครับ หวังว่ารอบหน้าผมจะนิ่งๆสุขุมนุ่มลึกให้มากกว่านี้ O23
-
ขอแชร์ประสบการณ์ตกรอบ Teamwork ครับ
ตอนที่สอบผมรู้สึกสนุกมากในการทำงานมากครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทำงานเป็นกลุ่มแบบจริงจัง
พอประกาศผลออกมา ผมตกคนเดียวในกลุ่ม อ่าวววว นอนร้องไห้สิครับ
คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมผมถึงตก เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ค่อยๆคิด อ๋อ...
-คะแนนรอบก่อนAPTอาจจะทำได้ไม่เยอะ (ปี2011ผมตกรอบกัปตัน)
-ผมไปคิดเยอะเกินไป ไปเบรกพวกเดียวกันเกินไป ผิดนิดผิดหน่อยผมไม่ปล่อย กลุ่มเลยติดขัด ไปต่อไม่ได้
-ความเป็นผู้ใหญ่ผมไม่ค่อยมี ผมใจร้อนคิดแล้วพูดเลย ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อนพูด
อันนี้ก็คือผมนั่งคิดเอาเองน่ะครับ หวังว่ารอบหน้าผมจะนิ่งๆสุขุมนุ่มลึกให้มากกว่านี้ O23
ขอบคุณครับ O29ที่ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ เป็นประโยชน์มากๆครับ ขอให้โชคดีกับการสอบครั้งหน้าครับ
-
ตก Aptitude ปีที่แล้วครับ
เหตุผลนะครับ
1. รอบแรกทำได้น้อย น่าจะผ่านแบบ means ล่างเลย ทำได้ประมาณ 35-37 ข้อ ในวิชา General ส่วน Eng ทำได้พอสมควร แต่ Aptitude รอบแรกก็ไม่น่าจะดีมากเลยครับ
2. รอบกัปตันน่าจะดูคะแนนรอบแรกด้วย ซึ่งคิดว่า ไม่ดีพอ แต่ผมเดินจุดได้ คูณเลขได้ ทำได้หมด เขาเลยให้ผ่านมั้งครับ
3. รอบ Aptitude SIAP ทำได้ 50-60% แบบทำไปไม่ค่อยชัวร์ เพราะไม่มั่นใจเลยครับ ก็เลยตกรอบนี้
ส่วนตัวนะครับ ผมว่า เขาดูตั้งแต่คะแนนรอบแรกเลย ควรให้ดี ถึง ดีมาก แต่ไม่ใช่เกินไปแบบถูกเกือบหมดไรงี้ อยู่ใน means ดีถึง means สูง ครับ รวมๆทั้ง paper Eng กับ Aptitude ด้วยเช่นกัน ส่วนรอบกัปตัน คิดว่าเขาน่าจะมีคอมเม้นอะไรไปบ้างครับ .....รอบ aptitude น่าจะผ่านเกณฑ์ของเขาทุก paper รวมถึงดู personality กับคอมเม้นกัปตันด้วยเช่นกัน ถ้าคะแนนพอใช้ ถึงดีมาก ก็จะปล่อยผ่านไป แต่ถ้าคะแนนธรรมดา แล้วคอมเม้นกัปตันไม่ดีอีก ก็อาจจะตกครับ
ส่วน teamwork ผมว่าเขาดูคะแนนรอบ aptitude ด้วย เพราะสังเกตุหลายคนที่ตกมา ก็ทำ aptitude ได้ประมาณคนที่ตก Aptitude ครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าคะแนนดีประมาณ 70-80% ก็มีโอกาสไปเจอโปรสูงครับ
ใครพ้นแบน 2014 ช่วยกันภาวนาให้เปิดด้วยนะครับ แล้วก็ขอให้ที่ตกมาผ่านปี 2014 กันทุกคนครับ รวมถึงกระผม ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า ตอนนี้ผมพัฒนาขึ้นบ้างละครับ E47
-
ผมก็เป็นอีกคนนึงที่คิดว่าทำได้แต่ก็ตก professor interview
ส่วนสาเหตุหลักๆ ผมแบ่งเป็น 2 เรื่อง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ได้แต่คิดว่า
1) Game :
LR : ผมกา notsure ไป 5-6 อัน คิดเลขก็ได้ทั้งหมด 5 ช่อง เพราะ ซ้อมมาดี (อันนี้น่าจะไม่เกี่ยวที่ตก)
Mutitask skill : ผมคิดเลขได้ทั้งหมด 10ข้อ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่แบ่งงานทำไม่ต่อเนื่อง และทำให้งานอันอื่นหลุดไปบ้าง
Joy stick : ผม land 20 ชน 7 (อาจจะตกเพราะชนเยอะเกิน)
2) Interview :
ผมว่าผมพูดตาม patten ที่เตรียมมามากไป ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งผมว่า pro มันดูออก
และเชื่อว่าคงมีหลายๆคนที่ตกเพราะพูดตาม patten ที่ติวมามากเกินไป จุดนี้ผมว่าสำคัญที่สุดคือ เป็นตัวของตัวเอง
ไม่ต้องเตรียมอะไรไปมาก ถ้า listening & speaking ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ตอบสดๆ เป็นตัวของเราเองดีที่สุดแล้ว
ส่วนการตอบคำถามเดินจุดคิดเลข พูดเลขอักษา ตาม FW BW คำนวนเวลา คำนวนเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งดูรูปเครื่องบินบอกตำแหน่งเครื่อง
คำถามอื่นๆ ผมตอบได้ทั้งหมด
จริงๆ ผมอยากถามความเห็นคนอื่นๆที่ตกให้เข้ามา share กันก็ดีนะครับจะได้แบ่งปันประสบการ์ณกัน
-
เกมรอบสุดท้าย โดยส่วนตัวคิดว่าโปรไม่ได้หวังผลอะไรมากครับ คิดว่าแค่ผ่านเกณฑ์+อาการไม่ออกก็น่าจะโอเคแล้ว (ผมได้ 10 ชน 7 เอง)...เพราะว่ากันจริงๆ การเล่นเกมนี้ก็น่าจะเป็นการทดสอบ skill multitask ของเราเท่านั้น
ประเด็นสำคัญผมว่าอยู่ที่การ interview มากกว่า เพราะเขาคุยกับเราตั้งเป็นชั่วโมง มันมีประเด็นเล็กๆน้อยๆที่เขาคอยสอดแทรกถาม(บางทีก็ถามกันหน้าซื่อ)ซึ่งคำตอบของเรามันจะสะท้อนตัวตนของเราออกมาโดยไม่รู้ตัวครับ...พวกนี้แหล่ะที่เขาน่าจะเอาไปพิจารณาว่าเราผ่าน/ไม่ผ่าน ตรงนี้แนะนำให้คุยกับคนที่เราสนิทๆหลายๆคนแล้วให้เขาวิจารณ์คำตอบเราตรงๆผมว่าช่วยได้เยอะครับ บางทีเราอาจจะไม่รู้ตัวเองเลยก็ได้ว่าเรามีลักษณะอย่างที่เขาบอก...ยกตัวอย่างง่ายๆแค่เรื่องมั่นใจในตัวเอง ผมเชื่อว่าไม่มีใครรู้ตัวเองหรอกครับว่าตัวเรามีเยอะไปหรือน้อยไป ต้องให้คนอื่นบอกเท่านั้น
-
ทำคณิตไม่ได้ค้าบบบ ตกฟิสิกส์... ทำแอปปิจูดไม่ทัน... มันยากเกิน
-
ทำคณิตไม่ได้ค้าบบบ ตกฟิสิกส์... ทำแอปปิจูดไม่ทัน... มันยากเกิน
เหมือนกันเลย
-
เคยตกสัมภาษณ์โปรปี 2008 ครับ สาเหตุนะเหรอ ที่พอจะชัวร์เลย ก็คือ มั่นใจในตัวเองมากเกินไป เดินจุดไม่ได้ เกมจอยสติ๊กเล่นแย่มาก รีเช็คแล้วแย่กว่าเดิม ตอนสัมภาษณ์ก็เตรียมคำตอบสวยหรูมา เตรียมมาตั้งแต่หลังสอบรอบแอปที่เค้าให้เขียน biography เวลาตอบมันก็เลยไม่เป็นตัวของตัวเอง โปรคงรู้แน่นอน ซึ่งตอนนั้นที่ผมต้องทำ เพราะคิดว่าภาษาอังกฤษตอนนั้นยังไม่แข็งแรง ไปนึกคำตอบในห้องกลัวว่าจะพูดไม่คล่องเลยไปเตรียมมา + คำตอบส่วนใหญ่ที่ติวสอนมาให้ตอบ นี่แหละครับสาเหตุที่ปีนั้นตกเท่าที่ผมรู้ตัว
-
ผมคิดว่าเล่นเกมน่าจะมีเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่อาจจะไม่ใ่ช่คะแนนจากเกมโดยตรงทั้งหมด เช่น อากับกริยาตอนที่ทำไม่ได้ เช่น เล่น joy stick ชน บ่อย แล้วส่ายหน้า เค้าน่าจะมีการให้คะแนนตรงนั้นด้วย
ส่วนเรื่ีองสัมภาษณ์ผมยังคิดไม่ออกเลยว่า สิ่งที่เค้าถาม มันใช้ trigger ตรงไหนในการตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือป่าว บางครั้งตอบมาตาม patten ที่ติวมา แต่กลับไม่ผ่าน O21
โดยสรุปผมคิดว่าครึ่งๆระหว่างเกมกับสัมภาษณ์ ครับเพราะตอนจบ เค้าบอกผมว่าจะผ่านหรือไม่เค้าต้องประชุมกันใน team อีกครั้งนึงก่อนตัดสินใจ
-
to. SkyPass
เป็นประโยชน์มากครับพี่ ขอให้พี่ประสบความสำเร็จในการสอบครั้งหน้าครับ O29
to. tempa44
ต้องเป็นตัวของตัวเอง ขอบคุณพี่จริงๆครับ สำัคัญเลยทีเดียว O36
to. MEE
ขอบคุณที่ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ครับ ถึงแม้พี่จะติดไปแล้ว ก็ยังมาช่วยแชร์ให้รุ่นน้องๆ O19
to. iManiac,jason
ฟิตๆๆๆใหม่ครับพี่
to. euronemous
ขอบคุณพี่ไบร์ทครับ O29 มันสำคัญกับพวกเรามากจริงๆ
ห้องนี้ผมว่าพี่admin เอาไว้พิจารณาทีครับ ผมว่าน่าจะปักหมุดไว้ เป็นประโยชน์สำหรับเด็กใหม่ๆมากครับ
-
คุณรู้ไหม ว่าข้อสอบpaper กับการเล่นเกมส์ คือการตรวจสอบในทักษะเดียวกัน
เกมส์ทุกอย่างคือการ recheck ว่าทักษะที่คุณมี ตรงตามที่การสอบข้อเขียนวัดออกมาได้หรือเปล่า
เช่น spatial orientation คือทักษะเดียวกับการควบคุมยานพาหนะ
ดังนั้น ถ้าคุณพับกล่อง แบบกั๊กๆ ไม่ทำเต็ม แบบที่ รร. ติวบอกต่อกันมา แต่คุณดันเล่นจอยสติ๊กได้ดีมาก อันนี้คุณงานเข้าแล้ว
ไหนจะมีการเช็คเรื่องความจำด้วย. ดังนั้นจงทำให้ตรงกับตัวคุณมากที่สุด
และเรื่องการเตรียมคำตอบเวลาสัมภาษณ์ อย่าปั้นคำสวยๆไปเลย โปรเขาต้องการคนที่sincere ที่สุด อะไรดีก็ว่าดี อะไรที่ว่าอ่อน หรือไม่ดีเกี่ยวกับตัวเรา ก็รับไปตรงๆ.
เพราะว่า คนที่มีปัญหา คือคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีปัญหา
ถ้าเรารู้ข้อเสียของตัวเรา แสดงว่าเราพร้อมที่จะปรับปรุง แค่ตอนนี้เรายังแก้มันไม่ได้เท่านั้น
-
ไปสาย ไม่ตรงเวลา นอกนี้ไม่รู้แล้ว อาจตอบคำถามไม่จรงประเด็น 5555 เลยโดนพักการสอบ สามปีเหมือนผมนี่ฟหล่ะ เหอๆๆ
-
ถามแบบนี้ มันทำให้หลงทางนะครับ เดากันไป เดากันมา มั่วไปหมด
สอบผ่านไม่ผ่าน มันไม่เกี่ยวกับความรู้ แน่นอนมันต้องมีความรู้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักว่า ถ้ารู้น้อยแล้วจะไม่ผ่าน ตอนผมสอบผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการสอบ ทำข้อสอบ Aptitude ได้ไม่ถึงครึ่ง ในขณะที่คนข้างผมทำเกือบหมด แต่ไม่ผ่าน ตอนสอบกับ psychologist ไม่รู้เลยว่าเขาจะให้ทำอะไร ให้เดิน บอกโจทย์มา ก็ทำไปตามที่ทำได้ ผิดมั่ง ถูกมั่ง แต่ก็ผ่าน
อยากสอบผ่าน ควรจะหาข้อมูลว่า เขากำลังมองหาอะไรจากเรา แล้วคุณก็จะเข้าใจว่าคุณผ่านหรือไม่ผ่านเพราะอะไร และถ้าคุณเข้าใจ ก็จะรู้ว่า ยิ่งเตรียมตัวมาก ยิ่งสอบยาก เพราะเขารู้ว่า ที่คุณทำอยู่ มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ เขาก็จะพยายามทำให้มันยากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้แสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาให้เขาวัดผลครับ
-
ถามแบบนี้ มันทำให้หลงทางนะครับ เดากันไป เดากันมา มั่วไปหมด
สอบผ่านไม่ผ่าน มันไม่เกี่ยวกับความรู้ แน่นอนมันต้องมีความรู้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักว่า ถ้ารู้น้อยแล้วจะไม่ผ่าน ตอนผมสอบผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการสอบ ทำข้อสอบ Aptitude ได้ไม่ถึงครึ่ง ในขณะที่คนข้างผมทำเกือบหมด แต่ไม่ผ่าน ตอนสอบกับ psychologist ไม่รู้เลยว่าเขาจะให้ทำอะไร ให้เดิน บอกโจทย์มา ก็ทำไปตามที่ทำได้ ผิดมั่ง ถูกมั่ง แต่ก็ผ่าน
อยากสอบผ่าน ควรจะหาข้อมูลว่า เขากำลังมองหาอะไรจากเรา แล้วคุณก็จะเข้าใจว่าคุณผ่านหรือไม่ผ่านเพราะอะไร และถ้าคุณเข้าใจ ก็จะรู้ว่า ยิ่งเตรียมตัวมาก ยิ่งสอบยาก เพราะเขารู้ว่า ที่คุณทำอยู่ มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ เขาก็จะพยายามทำให้มันยากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้แสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาให้เขาวัดผลครับ
ทำข้อสอบ Aptitude ได้ไม่ถึงครึ่ง <<<< กี่พาร์ทครับ