Author Topic: Mini Diary: Once in a Life-Time with TG Pilot Test  (Read 124210 times)

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
#หมายเหตุ# ผมได้เขียนบันทึกนี้ใน FB ของตัวเอง และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ที่สนใจอยากเป็นนักบินในอนาคต (อาจมีเรื่องส่วนตัวอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงเป็นเพราะผมตั้งใจให้เป็นบันทึกช่วยจำไปในตัว ต้องขออภัยด้วยนะครับ) ผมได้อาศัยบอร์ดนี้หาข้อมูลในการสอบครั้งนี้มาตลอด คิดว่านี่คงจะพอตอบแทนกับสิ่งที่ผมได้รับมาบ้างนะครับ


(ขอใช้พื้นที่นี้เก็บเรื่องราวจากการสอบที่ถือว่ายาวนาน, เข้มข้น, และแปลกที่สุดในชีวิต เพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำและเป็นแนวทางแก่ผู้สนใจต่อไป)

เนื่อง จากความตั้งใจเดิมของปีนี้คือ การสอบทุน ก.พ. เพื่อไปเรียนต่อและกลับมาเป็นอาจารย์ แต่เมื่อช่วงสิ้นปี 53 ที่ผ่านมาทางการบินไทยได้ประกาศรับสมัครทุนนักเรียนการบินเพื่อเป็นนักบิน การบินไทย ซึ่งได้เคยรับปากไอ้นกเพื่อนสมัครเรียน NIDA และเป็นผู้ให้ความกระจ่างว่า สายตาสั้นไม่เกิน 300 ก็เป็นนักบินได้ จึงได้ร่วมสมัครไปกับมัน

จำได้ว่าความฝันแรกสุดเมื่อจำ ความได้คือ การเป็นนักบินอวกาศ แต่ก็รู้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ในประเทศไทย จนโตขึ้นมาก็เคยมีหลายคนชักชวนถามไถ่ว่า อยากเป็นนักบินไหม ก็รู้สึกเฉย ๆ อาจเพราะช่วงชีวิตตอนนั้นมีเรื่องอยากทำเยอะแยะมากมาย จนเมื่อได้มาศึกษากระบวนการคัดเลือกของการบินไทยอย่างจริงจังก็พบว่า การที่คนจะเป็นนักบินได้ ไม่สามารถใช้เพียงความอยากหรือ Passion อย่างเดียว คนเก่งก็อาจไม่เหมาะสมได้ น่าจะเป็นเรื่องของการ Born to be ที่สั่งสมมาจากสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดู ปลูกฝังทัศนคติและความคิดเป็นสำคัญ

เมื่อได้ความคิดว่าจะ ไปสมัครนักบิน ก็ได้โทรไปถามเพื่อนที่ทำงานที่การบินไทย 3-4 คน คำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่คือ ไปติวซะ แต่ด้วยความขี้เกียจ และไม่ได้จริงจังนัก เลยคิดว่าขนาดสอบที่อื่นยังไม่เคยไปขวนขวายติวเลย แล้วจะติวทำไม (อารมณ์ตอนนั้นคิดว่าสอบขำ ๆ จริง ๆ)

การ วางเป้าหมายในการไปเรียนต่อเพื่อเป็นอาจารย์หลังจากจบปริญญาโทที่ NIDA ทำให้ปลายปี 52 ถึงตลอดปี 53 ต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เพื่อสอบ IELTS ให้ผ่าน สิ่งนี้เองที่ทำให้ความสามารถทางภาษาเติบโตและเป็นประโยชน์ต่อการสอบทุนต่าง ๆ ในภายหลัง โดยเฉพาะทุนนักบิน

ช่วงต้นปี 54 ตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์การสอบอย่างแท้จริง เพราะเป็นช่วงการสมัครสอบปริญญาเอกที่มหิดล สมัครสอบทุน ก.พ. และสมัครสอบทุนนักบินการบินไทย โดยทุน ก.พ. เป็นเป้าหมายสำคัญ ขณะที่การสอบอีกสองอย่างนั้นถือเป็นความท้าทาย

จำได้ว่า วันก่อนไปสอบที่มหิดล ที่ศาลายา ก็ไปนอนหอเพื่อนที่ปิ่นเกล้า และติดลมนั่งกินเหล้าถึงตี 4 ก่อนออกไปสอบตอน 7 โมงครึ่ง (555) แต่สุดท้ายหลังจากออกจากห้องสอบก็คิดว่าทำได้ด้วยดี

ส่วน ทุน ก.พ. ใช้เวลาเตรียมตัวสอบจริงจังประมาณ 2 อาทิตย์ โดยหาตัวอย่างข้อสอบภาค ก. จาก internet มาปรินท์อ่านและทำ แต่พอเจอข้อสอบทุนจริงแทบไม่มีประโยชน์ เพราะระดับความยากที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามก็ช่วยทำให้เราเข้าใจสิ่งที่โจทย์ต้องการ ทำให้ร่นเวลาที่ใช้ทำไปได้พอสมควร

มาถึงการสอบการบินไทย ที่เป็นจุดประสงค์หลักของการเขียนบันทึกความทรงจำนี้ ถือเป็นอะไรที่แตกต่างกับการสอบข้างต้น เพราะเน้นไปที่เรื่องของ "เชาว์ปัญญา" หรือเรื่อง Aptitude test เป็นหลัก ซึ่งแบ่งเป็น 4 ส่วนหลักคือ ความสามารถทางการคำนวณ ความสามารถทางความจำ ความสามารถทางการมองมิติ และความสามารถทางตรรกะการใช้เหตุผล

โดยมีการแบ่งการสอบออกเป็น 7 รอบหลัก คือ

1. รอบความสามารถทั่วไป

สอบ ที่ มธ.รังสิต เลยไปอาศัยนอนกับอาจารย์โจ้เพื่อนที่เรียนป.เอก อยู่ SIIT ปรากดนอนไม่หลับเพราะเสียงห้องข้าง ๆ ดัง นอนตี 4 ตื่น 6 โมงครึ่งตามโจ้ ออกไปสอบที่ยิม 1 เห็นเด็กผู้ชายมากมายที่ฝันอยากเป็นนักบินแล้วก็คิดถึงตัวเองว่า "นี่กูท่าจะแก่เกินหน้าพวกนี้จริง ๆ" เมื่อเข้าไปในห้อง ข้อสอบมีทั้งหมด 3 ชุด คือ ภาษาอังกฤษ ความรู้และความสามารถทางการคำนวณ และ Aptitude test

ภาษา อังกฤษไม่ยากเลย แต่ทำไม่ทัน ความรู้ทั่วไป จำได้ว่าได้แหล่งข้อมูลจากไอ้นก ที่ฟิตไปติวเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ก็พลอยได้เตรียมประวัติการบินไทยไปตอบมากกว่าเรื่องคำนวณเพราะลืมไปหมดแล้ว ส่วน Aptitude test ก็ได้หนังสือจากคุณขนม นักบินสาวจากเชียงใหม่ช่วยให้พอเข้าใจรูปแบบและทำได้

2. รอบตรวจร่างกาย

จาก เกือบ 2000 คนรอบนี้เหลือ 700 คน มาตรวจร่างกายที่ศูนย์เวชศาสตร์การบิน จำได้ว่าตอนนั้นมีปัญหาเรื่องสายตา เพราะไม่แน่ใจว่าเกิน 300 หรือยัง ก่อนหน้าตรวจร่างกายทั้งเดือนกินแต่เก๋ากี๊บำรุง แต่วันก่อนตรวจทำแชมพูเข้าตา ตาแดง เคือง แต่ก็ขับรถไปแต่เช้ามืด รอบนี้เป็นรอบที่ได้เจอก๊วนเพื่อนที่คุยถูกคอ เพราะต้องไปตรวจเป็นกลุ่มพร้อมกัน 5 คน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ถือเป็นการตรวจร่างกายที่ต้องการคนสมบูรณ์ทั้งอวัยวะ เลือด เนื้อ ภายนอก ภายใน หัวยันไข่ถึงขา อวัยวะสัมผัสทุกส่วน ยกเว้นสายตาซ้ายที่มีปัญหา อ่านบอร์ดไม่เห็นเลย ไม่ว่าจะลองยังไงก็ไม่เห็น จนพี่เจ้าหน้าที่บอก ไปพักสายตาก่อน 2 วันแล้วกลับมาตรวจใหม่ ตอนนั้นก็คิดว่าคงไม่ได้แล้ว แต่ก็กลับมาไปตรวจตา พักผ่อน และกลับไปใหม่ คราวนี้แม่ลงทุนขับรถไปให้จะได้ไม่ต้องใช้สายตาก่อนตรวจ ปรากฎ ผ่านไปด้วยดี โดยสายตาสั้นถึงเกณฑ์ที่ 300 เป๊ะ (ฟู้วว)

3. รอบสัมภาษณ์กัปตัน

ก่อนสอบสัมภาษณ์กัปตัน จำได้ว่าได้กินข้าวกับลุงเล็กเพื่อนพ่อที่เป็นทหารอากาศ วันก่อนไปสอบสัมภาษณ์ ก.พ. พอลุงเล็กรู้ว่าเราสอบนักบินเลยเสนอตัวจะให้เพื่อนที่เป็นกัปตันใช้เส้นให้ ในรอบนี้ แต่เราไ่ม่อยาก จนวันนึง อากัปตันเพื่อนลุงเล็กโทรมา ถามคุณเป็นใคร จะให้ทำอะไร เราก็เลยบอกไปว่า "อาไม่ต้องทำอะไรครับ ลุงผมเขาหวังดี แต่ผมอยากได้ด้วยความสามารถตัวเอง (เท่ห์แสด)" ซึ่งอากัปตันจากที่ตอนแรกคิดว่าเราก็เป็นไอ้พวกเด็กเส้น (คงโดนให้ช่วยมาเยอะ) ก็เข้าใจและเห็นถึงความต้องการของเราที่อยากใช้ความสามารถตัวเอง ก็กลายเป็นแนะนำว่าให้เป็นตัวของตัวเอง

รอบนี้ไปแบบไม่กดดัน เพราะก่อนหน้าก็ไปโดนกรรมการณ์ทุน ก.พ. รุมสัมภาษณ์ และผ่านมาได้ จะระวังก็เรื่องรายละเอียดระหว่างทางที่เขาอาจถาม และเรื่องความรู้ทางการบิน ก็ได้ชีท และนิตยสารจากไอ้นก เพื่อนร่วมสอบผู้ตกรอบไปแล้ว และยกมรดกทั้งหมดของมันมาให้เราลุยต่อ นัยเป็นการส่งไม้ "กูเป็นไม่ได้มึงไปเป็นแทนกู" และได้คุยกับพี่ตาล รุ่นพี่ที่ NIDA ที่เป็นอาจารย์อยู่ที่การบินไทยให้คำแนะนำว่าเราจะต้องเจออะไร ปรากฎเข้าไปคุย เจอกัปตัน 2 ท่าน การคุยนั้นง่ายเกินคาด อาจเป็นเพราะเราอายุเยอะแล้ว ก็ถามเรื่องงานที่ทำ ความรู้บริษัทก็ถามไม่กี่คำก็รู้ว่าเราคงเตรียมตัวมาแล้ว นอกนั้นก็มีเดินจุด คำนวณในใจ ความรู้ด้านฟิสิกส์ืัทั่วไป จะโดนไซโคที่สุดคือเรื่องผม เพราะไม่ไ้ด้ตัดเรียบร้อยเหมือนคนอื่นไป ก็เลยโดนถามเรื่องคุณคิดว่าผมทรงนี้ขับเครื่องบินได้หรือ ก็ตอบกลับไปแบบสุภาพ หลังจากนั้นการคุยก็สมูทมาก เหมือนให้เกียรติกันและกัน (อารมณ์ไซโคไม่ได้ก็ไม่ไซโคมันละ) จนคุยกันถึงเรื่องหลักธรรมในศาสนาพุทธ ซึ่งทั้งเราและกัปตันก็สนใจเหมือนกัน ปิดท้ายด้วยการเดินจุดซึ่งก็เป็นไปด้วยดี อาจเพราะเคยเล่นดนตรีเลยทำให้แยกประสาทได้ดี จนคำนวณในหัวเร็วเกินจนกัปตันตกใจถาม "คุณมั่วรึปล่าวเนี้ย" จนจบ กัปตันบอกขอให้คุณสมหวังกับทุกอย่างในชีวิต ถึงตอนนั้นรู้สึกดีมาก ๆ เหมือนได้พบคนที่มีอะไรคล้ายกัน

4. รอบ Pro1: Aptitude Test

หลังจากรอบนี้หากใครตก จะโดนแบน 3 ปี เนื่องจากการสอบโดยใช้โปรจาก SIAP จะเป็นเรื่ืองของความเหมาะสมในการเป็นนักบิน ไม่เกี่ยวกับเรื่องเก่งหรือไม่ โดยจะใช้นักจิตวิทยามาตรวจสอบตัวตนเรา จนวิเคราะห์ว่าเราจะเป็นนักบินที่ดีได้หรือไม่ โดยรอบแรกนี้จะเป็นการสอบด้วยข้อสอบเกี่ยวกับ Aptitude ทั้งวัน เพื่อวันทั้งเรื่องเชาว์ ความจำ การคำนวณ การประมาณ บุคลิกภาพเบื้องต้น ความทนต่อการล้า การแสกนเครื่องมือ ฯลฯ เป็นข้อสอบที่ไม่เคยพบเห็น เพราะไม่ใช่เรื่องในการเรียนหรือการทำงานทั่วไปต้องใช้ นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่อย่างแท้จริง และคนส่วนใหญ่ที่ต้องติวกันก็เพื่อจะผ่านการสอบชุดนี้ แต่โปรก็จะมีกระบวนการในการหาว่าติวมาหรือไม่อยู่ดี

ในวันสอบนั้นก็มี ปัญหาคือ ตอนนั้นได้ทุน ก.พ. แล้ว และเป็นวันที่มีการนัดพบต้นสังกัดที่จะมาเป็นอาจารย์ใช้ทุน ขณะที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ไปเรียนป.เอกที่มหิดลแล้ว เพราะงานที่เยอะ และตารางเวลาที่จะไม่สามารถเตรียมตัวเรื่องการเตรียม Proposal สมัครเรียน และเตรียมสอบการบินไทยได้ จึงตัดสินใจยุติที่มหิดลไว้หลังจากเรียนไป 2 อาทิตย์ น่าเสียดายมาก

จึงใช้วิธีให้แม่ไปประชุมแทนเรา (ฮา) และเราไปสอบ แต่ก็มีปัญหาที่คาดไม่ถึงเพิ่มมาในวันนั้นคือ ท้องเสียอย่างรุนแรง จากนมที่กินไปตอนขับรถเข้ากรุงเทพ แค่ไปถึงเซ็นทาราแกรนด์ รอสอบก็เข้าห้องน้ำไป 8 รอบแล้ว และต้องเข้าทุกเบรกของการสอบ เพราะมันสามารถไหลได้ตลอดเวลา T-T จบวันนั้นจำได้ว่าเข้าห้องน้ำไปทั้งหมด 14 รอบ หมดแรงทั้งตัวทั้งสมอง ดังฟ้ากลั่นแกล้ง

ส่วนการสอบก็ทำเฉลี่ยได้ประมาณ 60% ของทุก part มากบ้างน้อยบ้างตามความถนัด แต่เรื่องคำนวณนี่ย่ำแย่เพราะต้องใช้สูตรที่ลืมไปแล้วช่วย แต่ยังดีที่มีการยกเลิกไป part สแกนแตกต่าง เพราะตัวอย่างไม่เคลียร์ ทำให้ประหยัดแรงสมองและสายตาไปได้มาก จำได้ว่าตอนนั้นได้ยกมือแจ้งกรรมการสอบ และ Mr.Thomas เดินมาคุย ซึ่งคนนี้เองจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตเราต่อไป

5. รอบ Pro2 : Teamwork Exercise

ตอน คุยกับไอ้นกช่วงก่อนสมัครสอบ มันเคยบอกว่า "คนอย่างมึงผ่าน Teamwork อยู่แล้ว" แล้วคนอย่างกูมันยังไงล่ะ? พอมาถึงด่านนี้ บอกตามตรงว่าไม่รู้จะเตรียมตัวอะไรแล้ว เพราะมั้งรอบนี้และรอบหน้าน่าจะเป็นเรื่องของบุคลิก อุปนิสัย และตัวตนจริง ๆ ของเราที่จะแสดงออกในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในความกดดันและภาวะคับขัน ซึ่งโปรก็คงจะมีวิธีโดยโยนงานมาให้จนเราแสดงตัวเองออกมาได้โดยไม่รู้ตัว เลยไปหาข้อมูลจาก web SIAP โดยตรง ดูการวัดด้านต่าง ๆ ที่เขาต้องการ สรุปสุดท้ายคือ ผลลัพธ์ไม่ใช่ประเด็นหลัก อยู่ที่กระบวรการแสดงออกของเรามากกว่า

มาถึงที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ คก่อนคนอื่น ก็ได้มาฟังกลุ่มที่สอบไปแล้วนั่งปรับทุกข์กัน จนกลุ่มเรามากันครบหมดทั้ง 6 คน ก็แนะนำตัวกันก่อนเข้าสอบ และปรูฟว่าจุดประสงค์การสอบต้องการอะไร จำได้ว่ามีตูน เพื่อรุ่นน้องจุฬาที่เป็นคนเดียวที่เหลือจากก๊วนรอบตรวจร่างกาย, เอก เด็กเกษตรจบวิศวะการบิน, เบนซ์ เด็กประมงเกษตร, และอีกสองคน คนแรกพ่อทำงานอยู่การบินไทย ส่วนอีกคนตอนนี้ทำงานอยู่การบินไทย เคยสอบ 3 ปีก่อนแต่ตกรอบนี้เพราะเพื่อนไม่ยอมฟังความเห็น ทีมเลยไม่เวิร์ค (น่าเศร้ามาก) พอเริ่มเข้าห่องสอบก็เป็นโต๊ะกลม เตียมให้ brainstorm กันเต็มที่ ก็ได้รับโจทย์มาเป็นเรื่องการจัดตารางเวลาการบินโดยแต่ละคนจะมีใบเงื่อนไข ต่างกัน ตูนดูจะเป็นคนทำหน้าที่เหมือนพิธีกรให้กลุ่ม ส่วนตัวเราอยากบอกว่าตอนแรกที่เห็นแทบจะไม่เข้าใจโจทย์เลย เพราะเป็นเรื่องเทคนิคอลมาก ๆ แต่อาศัยใช้การพูดคุย การฟัง และการระดมความคิด ก็ทำให้เริ่มเห็นภาพกันมากขึ้น โดยเราใช้หลัก push & pull คือฟังคนอื่นให้มาก และพูดแต่พอเหมาะ โดยเน้นการสนับสนุน แนะนำ ชี้ทางความคิด ตัดสินใจกันว่าจะเขียนกฎต่าง ๆ ลงบอร์ดจะได้เห็นภาพรวมกันชัดเจน แต่ไม่มีใครเริ่มอาสาจะเขียน และปากกามันอยู่ใกล้เรา ก็เลยกลายเป็นเราที่ต้องไปเขียน และสรุปกฎต่าง ๆ จากการฟังคนอื่น บรรยากาศในกลุ่มดีมาก ๆ ทุกคนรวมกัน ไม่มีการโชว์อ๊อฟเลย ถือเป็นการรวมหัวกัน จนโปรที่ดูพฤติกรรมยังแซว (โปรใจดีมาก) พอได้กฎเสร็จก็มาเริ่มจัดตารางบิน สรุปหมดเวลาทำไปได้ 2 ข้อจาก 10 ข้อ (ฮา) แต่ทุกคนก็ยิ้มแย้มกันดี มาอีกช่วงคือการถกประเด็น โดยมีประเด็นคือเรื่องการแนะนำเพื่อนให้เลิกเหล้า งานนี้หลังจากผ่านงานช้างมาแล้ว เราก็เลย relax ได้ เพราะการพูดคุยกับคนนี่ถนัดอยู่แล้ว ก็เวียนกันให้ความเห็นในกลุ่ม จนถึงตาเราก็เริ่มพูดจาก "From my experience..." ทุกคนปล่อยฮา และก็เป็นกลุ่มเดียวในวันนั้นที่ขำกันเสียงดังมาก พอเสร็จโปรก็ชมว่าเป็นทีมที่ดี พอออกจากห้องมาตอนที่ประทับใจที่สุดคือ มากอดคอเป็นวงกันทุกคน และขอให้ได้ผ่านกันยกกลุ่ม เป็นเวลาที่ทำให้เห็นถึงการร่วมใจและได้ผ่านเรื่องราว แม้เพียงเพิ่งรู้จักกันไม่ถึง 3 ชม.

รอบ 6 โปร 3 : Game & Individual Exam

เนื่อง จากปีนี้มีคนผ่านถึงรอบนี้เยอะถึง 155 คน ทาง SIAP จึงต้องแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มสอบคนละช่วงคือ 120 แรกเดือน ก.ค. และ 35 คนหลังเดือน ต.ค. เราซึ่งมีชื่อตัว T จึงไปตกอยู่กลุ่มหลัง จึงต้องรอร่วม 3 เดือน ระหว่างรอนั้นก็ทำ proposal และจัดการเรื่องสมัครเรียนต่อไปด้วย ส่วนการเตรียมตัวก็มีตูนกับนกเป็นธุระส่งเกมมาให้ แต่ระหว่างนั้นจะยุ่งหัวฟูเรื่องการทำ proposal จนแทบจะลืมเรื่องนักบินไปเลย

ผ่านมาถึงเดือน ต.ค. ก็มีเรื่องน้ำท่วมประเทศ และกรุงเทพฯ ทำให้มีปัญหาว่าจะเลื่อนอีกหรือไม่ แต่สุดท้ายกำหนดการก็ออกคือช่วงปลายเดือนตุลาเหมือนเดิม คราวนี้เหลือเวลา 10 วันก็เลยต้องเตรียมตัวเต็มที่ หลัก ๆ ก็ ให้แฟนช่วยถามคำถามระหว่างที่เล่นเกมต่าง ๆ เหมือนเป็นโปร โดยมีเกมหลัก ๆ คือ joystick, multitask, left right up down, และเดินจุด รวมถึงเตรียมคำถามคำตอบที่โปรน่าจะสัมภาษณ์เรา ต้องขอขอบคุณคุณแฟนที่น่ารักไว้ ณ ที่นี้

การสอบรอบนี้ถือเป็น climax ของการจะได้เป็นนักบินอย่างแท้จริง เพราะรอบต่อไปเหมาะเพียงเป็นการรีเชคทางจิตเวชการบินตามกฎเท่านั้น แต่โปรจะเป็นผู้ให้ recommend ว่าเราจะเป็นนักบินที่ดีได้ไหม และจะสามารถเป็นกัปตันได้ไหมในอนาคต เดิมทีคน (โดยเฉพาะคนที่ติวมา) จะเข้าใจว่าเราควรทำเกมให้ได้เยอะ ๆ ตอบคำถามให้ได้ดี ๆ เหมือนจะพยายามเป็นนักบินที่สมบูรณ์แบบ แต่ความเป็นจริงจากการศึกษาจากคนที่ผ่าน และ รายละเอียดใน web SIAP พบว่า คุณลักษณะที่เขาจะให้คะนแนจากการทดสอบเรา กลับเป็นเรื่องของบุคลิกภาพ ความเป็นผู้นำ การทำงานกับผู้อื่น การเป็นคนสามารถจัดการกับความเครียด การตอบสนองต่อสิ่งกระทบ มากกว่าการวัดว่าคุณทำได้สมบูรณ์แค่ไหน เพราะการพยายามจะเป็น แค่เราฟังเพื่อนพูดยังรู้เลยว่าเฟคหรือไม่ แล้วนี่โปรจิตวิทยาระดับโลกมีหรือจะไม่รู้ ความเห็นส่วนตัวสรุปรอบนี้สิ่งที่ควรทำคือ "be punctual, be relax, be yourself" ตามที่คุณภูสูงเคยกล่าว

เริ่มไปถึงโรงแรมเดิม เป็นคนแรกอีกแล้ว สอบบ่ายสอง โดยให้ขึ้นไปรอที่ lobby ชั้น 16 เหมือนวันสอบรอบกัปตัน ได้อยู่รอบเดียวกับ 4 คนที่ผ่านรอบทีมเดียวกันมา แต่ละคนก็ดูสบาย ๆ การทดสอบแรก คือ เล่นเกม โดย Mr.Michael เป็นผู้เชิญเรา ก็ทักทายกัน โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วมซึ่งดูโปรจะเป็นกังวลจะกลับประเทศไม่ได้ และถามเรื่องสัตว์เลี้ยง เพราะรู้ว่าเราเป็นเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ ก็แล้วโปรไมเคิลก็เลี้ยงโกลด์เด้นไว้ 2 ตัวการคุยจึงเป็นไปอย่างดี โปรยังพูดว่าความรู้สึกจากการช่วยสัตว์คงเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยนะ และก็มาถึงเรื่องเกม Multitask ก็ทำได้อย่างมึน ๆ เพราะงงเรื่องการมีเสียงเตือนจากในจอ ทั้งที่ตอนอ่าน instruction มันไม่มีเรื่องเสียง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ และคำถามที่ขึ้นบนจอกว่าจะขึ้นก็ช่วงหลังไปแล้ว เลยยึกว่าเราพลาดอะไรรึปล่าว สุดท้ายก็ผ่านไปโดยคิดเลขได้ประมาณ 7-8 ข้อ เกม joystick ควบคุมยาก เพราะ sensitive มาก และไม่เหมือนจากเกมที่เคยซ้อม แต่ก็อาศัยการเล่นเกมตอนเด็ก ๆ เอาตัวรอดมา จะมีก็เรื่องชนเม็ดดำติด ๆ ทั้งที่ไม่ควรเพราะหลบไม่พ้น สรุปได้ 19 ชน 10 มาเกมสุดท้ายที่ถือเป็นหายนะการสอบครั้งนี้ คือ left right up down เนื่องด้วยไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนั้น และก่อนทำจริงโปรพูดว่า try to listen this one เราจึงเข้าใจว่าให้ฟังเป็นตัวอย่างก่อน เลยไม่ได้ขีด แล้วก็เห็นโปรทำหน้างง เลยหันไปถามว่านี่คือตัวอย่างหรือไม่ ปรากฎว่ามันคือของจริง คราวนี้มือตาย สมองตาย ต้องพยายามรวบรวมสติคืนมาให้เร็วที่สุด กว่าจะเริ่มมาก็ไป session 3 แล้ว จนในที่สุดมาทำได้ดีใน session 5 จบพอดี โปรก็บอกชีวิตก็เป็นงี้แหล่ะ เราก็จ๋อยเลย ออกมานั่งรอ lobby เตรียมสัมภาษณ์ พร้อมด้วยอาการเ-จุ๋มจิ๋ม-่ยว คือมันเ-จุ๋มจิ๋ม-่ยวจริง ๆ เหมือนคนหมดพลัง คิดว่าเราพลาดคงไม่ได้แล้วล่ะ ต้องไปตบหน้าตัวเองเรียกสติในห้องน้ำก่อนเข้าช่วงการสัมภาษณ์

แล้วประมาณบ่าย 3 ครึ่ง โปร Thomas ก็เดินมาเรียก คือคนเดียวกับที่เรายกมือถามวันที่สอบ aptitude นั่นเอง ก็เริ่มไปนั่งเก้าอี้หันหน้าชนกัน ห้องก็ไฟสลัว ๆ เราก็ทำทุกอริยาบทโดยใช้สติจับ ก็เริ่มพูดคุย กลายเป็นเป็นการพูดคุยที่สบายใจเกินคาด อาจเพราะตอนนั้นไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลย โปรก็เป็นกันเอง คำถามก็เน้นไปที่เรื่องงานที่ทำปัจจุบัน เราก็เล่าความชอบ ไม่ชอบ จำได้ว่าโปรก็บอกรับแต่ it's very interesting การพูดคุยเป็นไปในลักษณะเหมือนผู้ใหญ่คุยกัน ถามตรงประเด็นไปในเรื่องที่เขาอยากรู้ว่าเราคิดเห็นยังไง และก่อนถามก็จะพูดเหมือนสอนว่าคุณสมบัตินักบินที่ดีในเรื่องนี้คืออะไรก่อนถาม เหมือนเป็นการที่อาจารย์สอนศิษย์มากกว่าการสัมภาษณ์ ก็เล่าเรื่อง ความฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ ความรู้สึกการบินครั้งแรก เรื่องราวในโรงพยาบาลสัตว์ที่เราชอบไม่ชอบ จนถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่เราไปเที่ยวบ้านเพื่อนเล่นเกมดึกจนพ่อแม่เป็นห่วงต้องมาตาม แต่ก็ไม่ได้ว่าเราเลย จนเราสำนึกว่าควรรับผิดชอบตัวเองมากกว่านี้ให้เขาภูมิใจ โปรยังตลกบอก นี่ถ้าเป็นพ่อแม่ไอนี่ไม่รู้จะเป็นยังไง (ฮา) เรื่องเรียน เรื่องวัยเด็ก ไม่ได้ถามเลยที่เตรียมไป โปรก็บอกไออ่านที่ยูเขียนก็เข้าใจ

จนเข้าช่วงสุดท้ายก็เล่นเกม เป็นเกมลากเส้น ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี และเดินจุด ลองเดินไปก็ถามว่าอยากเปลี่ยนจุดหรือไม่ (น่าจะเป็นจิตวิทยาดูการตัดสินใจเรา) เราก็คิดและไม่เปลี่ยน พอเอาจริงก็ถามคำถามเรื่องนาฬิกาสองข้อ ตรงข้อหลังเราใช้เวลาคิดนานจนโปรต้องสอนให้เราคิดหลักชั่วโมงแล้วค่อยหลักนาที (ฮา) แล้วก็จบ แต่โปรเชิญนั่งสัมภาษณ์ต่อเพราะมีเรื่องที่เขาอยากรู้เพิ่ม ก็มานั่ง เป็นเรื่องของพ่อแม่ทำงานอะไร และเรื่องการสอบรอบ teamwork โปรบอกไอเห็นโปรไฟล์ยูน่าสนใจมาก ยูได้ plus เลยนะ (ปลื้ม) ก็เลยให้เล่าว่าทำอะไรไป เราก็พูดทำนองทุกคนช่วยกัน ระดมความคิดกัน ไอแค่สรุปประเด็นของแต่ละคนเท่านั้นเอง และส่งท้ายที่เราอยากพูดอะไรไหม ก็บอกว่า "นี่คือครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของผม ผมต้องการเป็นนักบินไม่เพียงเพราะตามฝันในวัยเด็ก แต่ผมอยากใช้ความสามารถในการปกป้องชีวิตคน และรับใช้องค์กรที่เป็นตัวแทนของประเทศครับ" สรุปก็เช้คแฮนด์กัน บอกยินดีที่ได้พบคนอย่างคุณทั้งคู่ (ผมก็ประทับใจโปรมากครับ) ก่อนเดินออก โปรก็ถามว่า เกม left right ที่แล้วคุณเข้าใจผิดหรือ เราก็บอกว่าใช่พร้อมเหตุผล แล้วก็ลาออกจากห้อง

ออกมาเพื่อน ๆ ร่วมสอบนั่งรอกันอยู่ บอกเราใช้นานมาก (ก็นานจริงนะ เพราะ Mr.Thomas ถามและคุยกันเรื่อย ๆ มาก เหมือนเข้าไปหาอาจารย์ที่สนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน^^)

 

ขอบันทึกความจำไว้แค่เพียงเท่านี้ ณ วันนี้ ยังคงไม่รู้ผลว่าจะผ่านไปยังรอบสุดท้ายได้หรือไม่ แต่ถือว่าการมาถึงตรงนี้คือจุดสูงสุดของประสบการณ์การสอบนักบินครั้งนี้แล้ว และได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ อย่างที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต และหลังจากวันนี้จนวันทราบผล ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนี่คือสิ่งดี ๆ ที่ทำให้ได้ รู้อะไรใหม่ ๆ พบเพื่อนใหม่ ๆ และได้รู้จักตัวเองดียิ่งขึ้น ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณจริง ๆ


« Last Edit: 05 November 2011, 13:34:20 +07 by Rocketdrive »

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
และขอขอบคุณเพื่อน ๆ ในที่นี้ โดยเฉพาะคุณ MEE ที่คอยแนะนำ ให้ความรู้ และกำลังใจมาตลอดครับ^^

Offline Wolf

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 292
ขอบคุนที่เอาประสบการณ์มาแชร์นะครับ ดูแต่ละรอบชิลมากเลยอ่า  O11

ปล. อ่านตรง-จุ๋มจิ๋ม- อยู่สองสามรอบ  O30

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
555 มีจุ๋มจิ๋มจริงด้วย

ไม่ได้ชิวหรอกครับ เรียกว่าไม่กดดันดีกว่า (ไม่ใช่เพราะเก่งหรือไม่เก่งนะครับ) อาจเพราะผมอายุ 29 แล้ว เจ็บมาเยอะ (ฮา) ก็คิดว่ารอบโปรเป็นต้นมาเราควรเป็นตัวเราเองมากที่สุด แต่ไม่ใช่มั่นใจเกินไป ผมว่าเรื่องความสุภาพเป็นเรื่องสำคัญเลยล่ะ

อ้อ ผมจะฝากบอกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งครับ ตอนสัมภาษณ์กับโปร Thomas ท่านบอกเลยว่า ไอประทับใจรอบทีมเวิร์คของยูนะ ที่ยูตั้งใจฟังคนอื่นจริง ๆ มากกว่าพูด (โปรคงอ่านที่เขาคอมเมนท์ไว้) แล้วก็สอนเลยว่า นักบินต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นทั้ง follower ที่ดี และเป็น leader ที่ดี เรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า

1. โปรรู้จักเราดีจริง ๆ จากการแค่สังเกตพฤติกรรมในเวลาอันสั้น เขาสามารถบันทึกได้เป็นหลักการ ไม่ใช่แค่ดูรวม ๆ แล้วก็ผ่านไป และโปรอีกท่านก็แปลผลร่วมกับการพบเราได้ชัดเจน ดังนั้นการโกหก เฟค หรืออะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา เขารู้ได้อย่างแน่นอน

2. โปรเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ได้ดีมาก การที่เขายื่นคำถาม คำชม หรือพูดเรื่องต่างๆ ก็เหมือนการยื่นชีสให้หนู แล้วดู response ดังนั้นเราต้องมีสติ ควบคุมตัวเอง ความสุภาพ สุขุม แต่ไม่เกินไปจนเกร็ง ถือเป็นเรื่องดีทำให้เราตอบสนองอย่างเหมาะสมครับ

(ผมก็พูดเหมือนรู้ดีไป บางทีผมอาจไม่ผ่านก็ได้ครับ^^)

Offline WL

  • StudentPilot
  • นักรบ
  • ***
  • Posts: 117
ไว้ถ้าผมผ่าน ผมมาเขียนบ้างละกัน

แต่ในฐานะเด็กศิลป์-ภาษา จบรัฐศาลตร์นะครับ E07

เพราะผมเชื่อว่ายังมีเด็กศิลป์อีกเยอะ ที่ฝันอยากเป็นนักบิน




**ถ้าผ่านนะครับ** - สอบนักบิน 306-

Offline joeyJORD

  • Co-Pilot TG
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 31
Just for my curiosity, K Rocketdrive. Do you happen to be a dual-citizenship? If you are the dual-citizenship of US-Thai, you might want to try the NASA Astronaut recruitment program. They usually open it every other year (not so sure about how it goes this year since last application process was in 2009).

Anyway, it has been a pleasure to meet a group of men who really pursuits their own dreams.

All the best!!

Offline joeyJORD

  • Co-Pilot TG
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 31

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
ขอบคุณในความกรุณามากครับคุณ joeyJORD^^

น่าเสียดายที่ผมมีเพียงสัญชาติไทย อย่างไรก็ตาม link ของ NASA ที่ให้มานั้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจที่ผมเคยอยากรู้มากครับ

ตอนนี้ผมก็ถือว่าได้ตามเป้าหมายในชีวิตในการได้ทุนไปเรียนต่อเพื่อกลับมาเป็นอาจารย์แล้วครับ แต่หากได้นักบิน อันนี้ถือว่าเป็น "ฝันที่ย้อนกลับมา" จากครั้งยังเด็ก และได้โดยไม่คาดคิดครับ เพราะอายุตอนนี้ก็แทบจะแก่สุดในบรรดาเพื่อนที่สอบแล้วมั๊งครับ -_-" และมาเพราะคิดว่า เอาวะ ครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตจริง ๆ

ไว้วันที่ 10 นี้มาดูกันครับ

Offline IMMORTAL

  • ประชาชน
  • Posts: 6
ไม่แก่ไปหรอกคับgroupแรกอายุประมาณนี้หลายคน โชคดีคับแล้วเจอกัน

Offline armidsza

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 40
 
   ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆค๊าบบบ  ขอให้สมหวังนะครับ

Offline romeo

  • ATT01/08
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 37
Rocketdrive นี่คือคุณไฟใช่มั๊ยครับ O29 ยังไงก็ขอให้โชคดีกับผลสอบนะครับ

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
Rocketdrive นี่คือคุณไฟใช่มั๊ยครับ O29 ยังไงก็ขอให้โชคดีกับผลสอบนะครับ


ใช่แล้วครับคุณ romeo^^ เอ.. ถามได้ไหมว่าคุณ romeo คือใครเหรอครับ (PM มาก็ได้ครับ)

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ หวังว่าเราจะได้พบกันเช่นกัน
« Last Edit: 04 November 2011, 00:30:44 +07 by Rocketdrive »

Offline romeo

  • ATT01/08
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 37
ผมกอล์ฟเพื่อนนกครับ O18 นกน่าจะเคยเล่าให้ฟังนะครับ จริงๆผมATT03/11ครับ
ส่วนทำไมสถานะถึงเป็นATT01/08ไว้เจอกันจะเล่าให้ฟังนะคร้าบเรื่องมันยาววว O30
ยังไงก็รอลุ้นผลนะครับเห็นว่าเลื่อนเป็น 25 Dec แล้ว

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
โอ้ว คุณกอล์ฟที่ไอ้นกเคยเล่าให้ฟังนี่เอง 555

ยินดีด้วยย้อนหลังที่ได้เป็นนักบินการบินไทยสมใจครับ^^ ผมก็ได้ฟังไอ้นกเล่าเรื่องคุณกอล์ฟในการสอบนี่แหล่ะ ที่ช่วยในการเตรียมตัวเตรียมใจ 555 ตอนแรกนัดจะพามันไปเลี้ยงตอบแทนตั้งแต่วันสอบเสร็จ แต่นกมันลี้ภัยน้ำท่วมไปก่อน ไว้ประกาศผลคริสมาสต์นี้ถ้าว่างไว้ไปด้วยกันนะครับ^^ ปาร์ตี้โฟม ลงหม้อสุกี้กัน 55555

Offline romeo

  • ATT01/08
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 37
เรื่องฉลองฟังดูน่าสนใจนะครับ 555
ผลก็คงต้องรอหน่อย แต่เข้าใจอารมณ์ของการรอคอยครับ ยังไงก็จะเอาใจช่วยนะคร้าบ

Offline DuraSail

  • จิตใจของฉันแข็งแกร่งดั่ง
  • Moderator
  • ราชาเทวะ
  • ***
  • Posts: 2,592
ทดสอบซิ "เ-จุ๋มจิ๋ม-่ยว" จะกลายเป็น จุ๋มจิ๋มไหมหว่า เอิ๊กๆ

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
ในที่สุดผมก็ทำได้แล้วครับ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบันทึกคำสุดท้ายที่พูดกับโปร Thomas อีกครั้ง  "นี่คือครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของผม ผมต้องการเป็นนักบินไม่เพียงเพราะตามฝันในวัยเด็ก แต่ผมอยากใช้ความสามารถในการปกป้องชีวิตคน และรับใช้องค์กรที่เป็นตัวแทนของประเทศครับ"

ผมจะจำไว้ และขอขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่ช่วยเหลือมา...

ไอ้นก ผู้จุดประกายทำให้จับพลัดจับผลูมาสอบ และช่วยสนับสนุนมาตลอด ไม่มีมึง กูก็อาจไม่มีวันนี้ มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งสำหรับกู
คุณขนม ที่ช่วยเหลือเรื่อง CD ข้อมูลการบิน ถึงวันนี้คุณขนมจะไม่ได้เป็นนักบินอาชีพตามฝัน แต่คุณได้ช่วยให้คนอีกหลายคนได้เป็นแล้วครับ
เมย์ นุ้ย ปอนด์ เหล่าเพื่อสาวที่รักที่ช่วยลุ้นมาตลอด ๆ จนจะเป็นเมียน้อยข้าพเจ้าอยู่แล้ว
พี่ตาล ว่าที่ครูการบินไทยของผม ที่คอยส่งข่าวและเอาใจช่วยน้องคนนี้
ลุงเล็ก  ที่เอาใจช่วยหลาน เป็นธุระให้ผมจนได้บินแทนลุงในที่สุด
ตาล เพื่อนรักจากนิด้า จากวันที่ชั้นคุยเล่น ๆ ว่าจะเอาทั้งทุน ป.เอก กับเป็นนักบิน หน้าประตูผีวันนั้น วันนี้ดันเป็นจริงแล้ว^^
ปิ่น เพื่อนรักที่ช่วยเป็นที่ปรึกษา ตลุยไหว้พระเกาะศรีชัง และสวดมนต์ตามเหล่านายพลจนชั้นได้ในที่สุด
อาจารย์โจ้ ผู้ให้ที่หลับนอนที่ มธ รังสิต ในการสอบรอบแรก (แม้จะนอนไม่ค่อยหลับ ฮ่าฮ่า)
แสตมป์ ที่ให้ข้อมูล แนะนำ ดีใจที่ในที่สุดได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ถึงจะ delay ไปหายเดือนก็ตาม หึหึ
ตูน เอก กอล์ฟ เปรียว ดิม กริตย์ ยินดีที่ได้รู้จัก และเป็นเพื่อนร่วมทางมา เชื่อว่าสักวันจะเป็นวันของน้อง
โอ่ง อ้น ที่ช่วยดูแลเวลากลับไปชล
ยัยเอ้ และเพื่อน ๆ นิด้า ที่คอยเอาใจช่วยกันมา
น้องเอก และเพื่อน ๆ จาก มสธ ครั้งหน้าพี่ไปกินเฮฮาได้เต็มปากแล้ว
Dr.Kawashima ที่สร้างเกม Train your brain with Dr.Kawashima ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการบินเลย แต่เผอิญได้เล่นและช่วยในการสอบ Aptitude อย่างยิ่ง โดยไม่คาดฝัน
มด แฟนที่น่ารักบ้างน่าชังบ้าง ที่คอยเอาใจช่วยและดูแลมาตลอด
พ่อ แม่ และญาติ ๆ ที่สนับสนุนทุกอย่าง เลี้ยงดูผม ให้ได้เป็นคนเต็มคนอย่างทุกวันนี้

ขอบคุณทุกท่านที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตด้วยกันมา ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณจริง ๆ


Offline TuxedO_O

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 44

Offline pilotguide

  • ราชาเทวะ
  • *****
  • Posts: 1,019
ยินดีด้วยครับ

Offline Orlando

  • Bangkok-CoPilot
  • ทหารเลว
  • ***
  • Posts: 32
 E30 E30 สุดยอดจริงๆครับพี่

Offline textmode

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 194
ยินดีด้วยครับ  E30 E30

Offline mooham

  • ประชาชน
  • Posts: 2
ดีใจด้วยนะครับ รอกันบ้างล่ะ

Offline sodasado

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 141
ยินดีด้วยครับ เนื้อหาอ่านเพลินมากๆครับ ^_^

Offline kengleo

  • นักรบ
  • **
  • Posts: 149
ยินดีด้วยครับ E30

Offline Boomerang

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 39
ดีใจด้วยครับพี่ Rocketdrive และเข้าใจความรู้สึกนะตอนนี้ครับว่ามีความสุขแค่ไหน
ส่วนผม รออีก 3 ปีครับ และไม่รู้ว่าจะได้มีความสุขเหมือนอย่างพี่หรือป่าวครับ

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
ขอบคุณทุกท่านครับ

และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ

ผมขอยกกลอนบทหนึ่งของ อ.ป๋วย ปูชนียบุคคลของไทย ที่แต่งไว้ตั้งแต่ครั้งยังเรียนอยู่ และผมใช้เป็นแรงผลักดันและกำลังใจให้ตัวเองมาตลอดให้แก่เพื่อน ๆ ที่กำลังตามฝันครับ

"กูชายชาญชาติเชื้อ  ชาตรี
กูเกิดมาก็ที            หนึ่งเฮ้ย
กูคาดก่อนสิ้นชี-       วาอาตย์
กูจักไว้ลายเว้ย        โลกให้ แลเห็น"

Offline oldjet

  • ขุนศึก 9 ทัพ
  • ***
  • Posts: 310
ขอแสดงความยินดีกับคุณ Rocketdrive ที่มาถึงจุดที่ฝันไว้นะครับ ต่อไปคุณจะได้เจอประสบการณ์ของการฝึกที่จะเป็นคนบังคับเครื่องบินที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนสอบอีกหลายเท่าเรียกว่ามีทุกรสชาติของความรู้สึกละครับ ลองติดตามดูผมคิดว่าน่าจะมีความประทับใจมากกว่าตอนคุณสอบเข้ามาเสียอีกเหมือนกับรุ่นก่อนๆที่เขาได้มาถึงจุดนี้

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
ขอแสดงความยินดีกับคุณ Rocketdrive ที่มาถึงจุดที่ฝันไว้นะครับ ต่อไปคุณจะได้เจอประสบการณ์ของการฝึกที่จะเป็นคนบังคับเครื่องบินที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนสอบอีกหลายเท่าเรียกว่ามีทุกรสชาติของความรู้สึกละครับ ลองติดตามดูผมคิดว่าน่าจะมีความประทับใจมากกว่าตอนคุณสอบเข้ามาเสียอีกเหมือนกับรุ่นก่อนๆที่เขาได้มาถึงจุดนี้

ขอบคุณคุณ oldjet มากครับ ผมจะพยายามทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและสนุกกับทุกประสพการณ์ที่จะได้พบเจอต่อไปครับ

Offline lasttime

  • Co-Pilot TG
  • ประชาชน
  • ***
  • Posts: 18
อยากเพื่อนๆว่าคุนrocket driveตัวจิงหล่อมว๊าก

Offline Rocketdrive

  • ทหารเลว
  • *
  • Posts: 37
ความเห็นด้านบนนี่ โฆษณาเกินจริงนะครับ -_-"

ปล. พูดแบบนี้ในเว้บนี้ มันไม่มีกลุ่มเป้าหมายของผมนะครับ ไว้ไปช่วยกันบิวท์สาว ๆ เวลาไปเฮฮากันดีกว่าม้าง 55