บ้านแห่งการบิน > Topic ทรงคุณค่า เหมาะแก่การศึกษาของผู้เริ่มต้น

แชร์ประสบการณ์การสอบนักบิน และบอกลา saknid.com

<< < (2/4) > >>

kanawut:
ทำเป็นแซะนะครับแหม่ เดี๋ยวตีเลย O12

Fortunate:
เยี่ยมมาก เข้าใจและเห็นใจมากๆกับความพยายามที่ไม่ท้อถอยเลย เก่งจริงๆ ที่เข้ามาถึงรอบสำคัญได้ถึง 2 ครั้ง
ลองหาทางคุยรายละเอียดที่สัมภาษณ์ไปให้เพื่อนที่สนิทในวงการสอบ SP แบบเปิดใจ นี้ดูว่าเพื่อนคิดว่าไง จะได้รู้ว่า ทำไมโปรถึงไม่เลือกเราสักที เราไม่เหมาะสมในประเด็นไหน ทั้งนี้และทั้งนั้น ทุกจังหวะการสอบบวกด้วยเก่งและเฮง เสมอ ดวงจะดีเกิดจาก การสร้างบุญ สวดมนต์ ทั้งทาน ศีล ภาวนาให้ครบและบ่อยๆนะ ขอบอกว่าช่วยได้จริงๆ  - นักบิน 41- - นักบิน 41-
วันนี้เห็นโอกาสมาให้อีกครั้งกับการประกาศรับ SP ของบางกอกแอร์เวย์ สู้ต่อไปนะ อย่าลืมเข้าไปกรอกใบสมัครวันที่ 16-19 กย นี้กันล่ะ ขอให้ฝันเป็นจริงนะ เป็นกำลังใจให้จร้า SOC1

cdith3344:
หัวอกเดียวกันครับ ผ่านมาหลายสนาม หลายสำนักมาก

2012 - การบินไทย (ตกโปรรอบสุดท้าย), แอร์เอเชีย (ตกรอบสัมภาษณ์)
2013 - TAS (ตกรอบสัมภาษณ์)
2014 - บางกอกแอร์ (ติดสำรอง), แอร์เอเชีย (ตกรอบข้อเขียน), TAS (ตกรอบ English Speaking Test)
2015 - อายุเกินเกณฑ์ของแอร์เอเชีย และบางกอกแอร์ เลยพัก 1 ปี
2016 - การบินไทย (ตกโปรรอบสุดท้าย ครั้งที่ 2) โดยผมเกิดปลายปี 29 อายุผ่านเกณฑ์มา 54 วัน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังประกาศผล ก็ยอมรับว่าผิดหวังนิดๆ ว่าเราคงไม่เหมาะกับอาชีพนี้จริงๆ
แต่การที่ผมผ่านมารอบโปรได้เป็นครั้งที่ 2 และทะลุเข้ามาจนถึงรอบสัมภาษณ์
ก็เกิดความคิดในหัวว่า เราต้องมีของบ้างแหละ ไม่งั้นไม่หลุดเข้ามาขนาดนี้หรอก
แต่ ณ จุดนั้น โปรคงมองว่า เรายังไม่เหมาะสมพอที่จะมาเป็นนักบิน ก็ได้แต่ยอมรับกับความจริง
และคิดเสมอว่า ถ้าในอนาคตมีโอกาส ผมก็คงกลับมาอีกแน่นอน แต่สำหรับเส้นทาง SP ผมถือว่ามาสุดทางละ
(คืออายุเกินละไง ฮ่าๆๆ  O30)

ที่จริงเมื่อกี้ร่างไว้ยาวมาก แต่หนทางผมแทบไม่ต่างจากคุณ kanawut เท่าไหร่ แต่ถ้าใครสนใจในรายละเอียด
ค่อยขอผมมาทีหลังก็ได้ครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

สำหรับน้องๆ ที่ยังมีโอกาสไปต่อ หรือยังอายุไม่เกินเกณฑ์ ก็อย่าเพิ่งท้อครับ ทำมันให้เต็มที่ ให้ตอนออกมาหลังสอบ
แล้วเรารู้สึกกับตัวเองว่า "เราเต็มที่สุดๆ แล้ว" เท่านี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เราจะไม่เสียใจ และเดินหน้าต่อไป
แม้มันจะไม่ใช่ทางที่เราวาดไว้ก็ตาม ไว้เจอกันใหม่ถ้ามีโอกาสครับ (ถ้ามีตังค์เรียนเองนะ แพงเหลือเกิน  - สอบนักบิน 306-)

eyeshield:
ผมก็เป็นคนนึงที่ผ่านอะไรมาเยอะมากตั้งแต่ตกรอบแรกยันไปถึงก้าวสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้

ปี 2008 ปีนั้นเป็นปีแรกที่การบินไทยเปิดสอบ นศ.ปี 3 เป็นครั้งแรก ผมเริ่มสนใจอาชีพนี้ครั้งแรกตอนที่มา Road Show ที่มหาวิทยาลัย บอกตรงๆตอนแรกผมก็ยังไม่รู้เลยว่านักบินเนี่ยนอกจากทหารอากาศแล้วคนทั้วไปจะมาสอบได้ เลยได้ลองไปสอบดูเป็นครั้งแรกโดยที่ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลยจำได้ว่านั่ง รถไฟฟ้าไปจาก นานา ที่ผมฝึกงาน ไปสาย ใส่ยีนส์ไปสอบ เอามือถือเข้าห้องสอบโดยที่ในประกาศเขียนว่าห้ามเอาเข้า ผลก็แน่นอนตกรอบแรกครับ สาเหตุที่ผมตกผมรู้ตัวเลย ผมประมาทมากในเรื่องของการเตรียมตัว และผมอยากเอาชนะข้อสอบ ไม่ได้อยากสอบผ่าน ผมพยายามแก้โจทย์ข้อที่ยาก ทั้งๆที่ข้อง่ายๆมีให้ทำเยอะแยะ ในส่วนความรู้ทั่วไปผมก็ไม่ได้เตรียมไป จำได้ว่าทำ Basic Knowledge ไปประมาณ 20 ข้อเอง

ปี 2009 - 2010 ไม่มีสายการบินไหนเปิดสอบเลย หลังจากการเกิดของ Hamburger Crisis

ปี 2011 ปีนี้ผมได้สอบ 2 สายการบิน คือ TG FD

FD นั้นผมได้มีโอกาสสอบครั้งแรก ซึ่งกลับมาเปิดรับเป็นสายการบินแรก ต้องบอกว่าผมร้างราการสอบไปนานมาก + ข้อสอบที่ออกค่อนข้างจะยากมากตั้งแต่ที่ผมสอบมาปี 2008-2016 ผมก็ยังคิดว่าการสอบครั้งนี้เป็นการสอบรอบแรกที่ยากที่สุด ผมทำได้ประมาณ 15 ข้อ ซึ่งแน่นอนออกมาก็รู้ตัวครับ

TG ครั้งนี้ผมเตรียมตัวไปค่อนข้างดีสำหรับรอบแรก แต่ในส่วนของการสัมภาษณ์นั้นทำให้ผมรู้ว่าผมยังอ่อนต่อโลกนัก ผมโดนกัปตันไล่บี้จนมุมแล้วก็เงียบหาคำตอบให้ไม่ได้ พอหนักๆเข้าก็พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย ครั้งนั้นผมรู้เลยหลังจากสอบเสร็จว่าผมเป็นคนจัดการกับความเครียดไม่ได้ เวลาช๊อคผมจะทำอะไรไม่ถูก ก็ได้รับบทเรียนมาและพยายามแก้ไขตัวเองต่อไป

ปี 2012 ปีนี้ผมได้สอบ 2 สายการบิน คือ TG FD

TG สำหรับผมรอบแรกก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วผมค่อนข้างรู้แนวการเตรียมตัวมาพอสมควรทำให้ผ่านไปได้ ส่วนรอบกัปตันนั้นผมไปสัมภาษณ์แบบไม่ใช่ตัวผมเองเลย เนื่องจากฟังคนอื่นมาเยอะ ต้องตอบแบบนี้นะ ห้ามตอบแบบนี้ ในปีนั้นผมได้สัมภาษณ์กับท่านกัปตันสรเดช ซึ่งกัปตันได้ถามย้ำหลายครั้งมาก เพื่อหาความจริง แต่ผมก็ยังดันทุรังตอบแบบเดิมไปซึ่งผมก็คิดว่ากัปตันคงดูออก

FD นั้น ปีนี้ออกข้อสอบมาค่อนข้างง่ายขึ้น และได้เตรียมตัวมาบ้างจำได้คร่าวๆว่าทำไปประมาณครึ่งนึง ก็ผ่านรอบแรกมาได้ ส่วนด่านสัมภาษณ์นั้นมีเกมส์หลายเกมส์มากประมาณ 5 เกมส์ มี 1 ในนั้นคือเกมส์ multi tasking ซึ่งผมเคยเล่นมาแล้วในอินเตอร์เน็ทแบบเหมือนเป๊ะๆ ในใจก็ยิ้มละ สบายละ กด space bar 1 ที เริ่มเกมส์ทันที เล่นไปซักพักกัปตันถามว่าคิดว่าเล่นได้กี่นาที ผมก็ตอบไป พอเล่นจบ กัปตันถามว่าเคยเล่นมาก่อนมั้ย แน่นอนเหมือนตอนสอบ TG ผมฟังมาเยอะไม่ครับแค่เคยเห็นมา กัปตันเลยถามว่าแล้วทำไมไม่อ่าน instruction แล้วเล่นได้เลย ทำไมรู้ว่าตัวเองจะเล่นได้ประมาณกี่นาที เท่านั้นแหละครับ ถึงบางอ้อ สุดท้ายก็คุยเรื่องทั่วไป ตอนจบกัปตันท่านพูดขึ้นมาว่า "คนที่ไม่ใช่น่ะ พยายามกี่ครั้ง ลองกี่ครั้งยังไงก็ไม่ใช่นะ แต่ถ้าคุณรู้ว่าตั้วเองไม่ใช่ แต่คุณเปลี่ยนตัวเองให้ใช่ได้ และพยายามพัฒนามัน วันนั้นจะเป็นวันของคุณ" คำพูดนี้ผมยังจำได้จนถึงทุกวันนี้และเป็นคำพูดที่เปลี่ยนตัวผมได้จริงๆแต่มันอาจจะช้าไป...

ปี 2013 ปีนี้ผมได้สอบ 3 สายการบิน คือ TG FD PG

PG จำได้ว่าต้นปีเดือนมกราคมก็มีข่าวดีออกมา คือ PG จะเปิดรับ SP เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปี จากคอมเมนท์ของกัปตัน TAA ในปีที่ผ่านมาผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองในหลายๆด้าน ฝึกซ้อมทักษะการทำข้อสอบเพิ่มเติมจำได้ว่าผมทำได้ค่อนข้างดีเลยสำหรับครั้งนี้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะผ่านครับ ผมตกรอบแรกอีกครั้ง ทำให้ผมตกรอบแรกครบทั้ง TG FD PG

TG รอบสัมภาษณ์ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับท่านกัปตันมารุต รอบนี้ผ่านมาได้จนถึงรอบทีมเวิค ซึ่งโดยรวมกลุ่มดีมากช่วยกันทำงาน เสียอย่างเดียวตอนประกาศออกมาไม่มีชื่อผม บอกตรงๆว่าค่อนข้างเคว้งมาก เราเนี่ยนะตกทีมเวิค แต่ก็พยายามสลัดความเสียใจมานั่งคิดดีว่าเพราะอะไร

FD เป็นความโชคร้ายของผมที่วันสอบรอบแรกไปตรงกับวันสอบทีมเวิคของ TG ก็อดสอบโดยปริยาย

ปี 2014 ปีนี้ผมได้สอบ 2 สายการบินคือ PG และ FD

PG นั้นผมพอรู้แนวแล้วเลยพยายามพัฒนาขึ้นปีนี้ ผมสอบผ่านรอบแรก (Rank24) จนไปถึงรอบสุดท้าย (Rank31) แต่น่าเสียดาย PG ในปีนั้นรับเพียงแค่ 12 คน

FD เป็นอีกครั้งที่ผมได้มายืนรอบสัมภาษณ์กัปตัน แต่ผมก็ยังไม่ดีเพียงพอที่จะผ่านเข้าไปรอบสุดท้ายได้

ปี 2015

PG ผมไม่สามารถสอบได้ เพราะติดเงื่อนไขเกรด ป.ตรี ไม่ถึง 2.5 แต่ไม่รับเกรด ป.โท (ปี 2014 ผมยื่นโดยใช้เกรด ป.โทได้)

ปี 2016 เป็นปีสุดท้ายในการสอบของผม ผมได้สอบ WE และ TG

WE เป็นครั้งแรกที่เคยสอบของสายการบินนี้บอกตรงๆว่า ไม่รู้เลยว่าข้อสอบจะออกอะไร ผมทำได้แค่ อ่านไปให้เต็มที่ ซ้อมไปให้เยอะที่สุด การสอบครั้งนี้ค่อนข้างยาก เพราะมีเคมีและชีวะซึ่งค่อนข้างร้างราไปเกือบ 10 ปี ยังดีที่พอมีผลบุญเก่าทำให้พอทำได้บ้าง รวมถึงข้อสอบความรู้การบินซึ่งค่อนข้างออกลึก โดยรวมๆผมทำได้ประมาณ 70 ข้อ ก็ผ่านรอบแรกมาได้ รอบที่ 2 นั้นห่างกันไม่นาน เป็นการสอบทักษะ (Aptitude Test) ส่วนวันรุ่งขึ้นก็เป็นการสอบทีมเวิค การสอบ WE ของผมหยุดลงที่รอบนี้

TG หลังจากผ่านไป 3 ปี ได้ฤกษ์กลับมาสอบอีกครั้ง ในรอบสัมภาษณ์ผมได้เจอท่านกัปตันสรเดชอีกครั้ง ผมจำได้แม่นเลยว่าเปิดประตูเข้ามากัปตันท่านถามว่าเป็นไงมั่งผ่านมาหลายปี จำผมได้มั้ย การสอบในวันนั้นค่อนข้างราบรื่น ผมตอบแบบเป็นตัวของตัวเอง มีสติทุกครั้งก่อนทำอะไร คิดให้แน่ใจถี่ถ้วนก่อนค่อยตอบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเรียนรู้มาผมพยายามคิดทบทวนตัวเองเสมอ ตอนสอบเสร็จกัปตันผ่านพูดขึ้นมาว่า "4 ปีผ่านไปผมว่าคุณพัฒนามาได้ดีขึ้นเยอะนะ แต่คุณอย่าหยุดต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆบางอย่างคุณยังมีทำผิดบ้าง แต่วันนี้ผมคิดว่าคุณน่าจะพร้อมแล้ว" ผมผ่านมาเรื่อยๆจนถึงรอบ INDIVIDUAL สุดท้ายที่พึ่งผ่านมาผมได้พบกับโปรเฟสเซอร์ LARS เหมือน จขกท. ผมทำทุกอย่างที่ผมทำได้ สิ่งที่ผมพยายามปรับปรุงพัฒนาตัวเองมาตลอด ผมคิดเสมอ มีสติตลอดเวลา คิดให้ถี่ถ้วนก่อนตอบ ตอบให้ตรงกับความเป็นจริงเป็นตัวเราที่สุด แต่ดูเหมือนผมอาจจะยังไม่เหมาะสมเพียงพอ...

สุดท้ายนี้ก็ไม่เคยคิดว่าจะมาเขียนถึงความล้มเหลวของตัวเองไปทำไมเหมือนกัน 555 แต่อยากฝากไปถึงคนที่ยังไม่ถึงเวลาในวันนี้ ผมเป็นคนนึงที่เคยอาจจะไม่มีอะไรเหมาะสมที่จะเป็นนักบินเลย ตกรอบแรกตลอดครบทุกสายการบิน ผมพยายามพัฒนาตัวเองมาต่อเนื่อง ผมคิดแค่ว่าอย่างน้อยเราก็ได้พัฒนาตัวเอง ความสำเร็จเป็นผลพลอยได้ ผมก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ พยายามที่จะไม่ก้าวถอยหลัง ปรับปรุงตัวเองมาตลอดวันนี้อาจจะยังไม่ดีพอกับการได้ทุน SP แต่อย่างน้อยชีวิตทุกวันนี้ผมบอกตรงๆว่าผมเปลี่ยนอะไรได้เยอะจากการสอบอันยาวนานนี้ ...


 

domdome:
เฮ้ออออ เข้าใจเลยครับ
          ต้องเก่ง บวกดวง บวกเฮง ครับ งานนี้

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

[*] Previous page

Go to full version